มหัศจรรย์การ์ตูน : ตัดใจไม่ลงเสียที : โดย วินิทรา นวลละออง

สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่านค่ะ ครั้งนี้ทักทายอย่างเป็นทางการเนื่องจากบทความนี้ได้เดินทางมาถึงตอนสุดท้ายแล้ว ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามมาตลอดเกือบ 20 ปี แม้เป็นบทความสุดท้ายแต่ไม่อยากพูดถึงเรื่องการลาจากเลย เรามาพูดถึงความผูกพันกันดีกว่าค่ะ เคยสงสัยไหมว่าบางคนไม่ชอบเพื่อนหรือแฟนเอาเลย ทำอะไรก็ขวางหูขวางตาไปหมด ทะเลาะเบาะแว้งกันก็ใช่น้อย แต่เพราะอะไรทั้งที่ควรจะเลิกราหรือแยกกันไปกลับยังอดทนอยู่ด้วยกันทั้งที่ต่างคนก็ต่างทุกข์ด้วยกันทั้งคู่ ลองดูหนุ่มสาวคู่นี้ค่ะ เขาพยายามจะเป็นเพื่อนกันทั้งที่ทุกคนรอบข้างบอกว่าเลิกคบกันเสียทีเถอะ

หนุ่มนักศึกษาคนนี้ถูกคุณแม่บังคับให้มาพบจิตแพทย์ เรื่องของเรื่องคือเขาไม่สมหวังในความรักตลอด 1 ปีที่ผ่านมา เมื่อปีที่แล้วเขาชอบเพื่อนร่วมคณะคนหนึ่ง เธอเป็นคนอัธยาศัยดีและมีงานอดิเรกคล้ายกัน เมื่อพูดคุยถูกชะตากันหนุ่มก็อยากจีบมาเป็นแฟน ปัญหาคือเขาจีบผู้หญิงไม่เป็นแถมยังไม่เรียนรู้ที่จะเข้าใจจิตใจอีกฝ่ายด้วย หลักการประจำใจของเขาคือความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่นซึ่งเขาประสบความสำเร็จมาตลอดเมื่อใช้หลักการนี้กับการเรียนหนังสือ จึงคิดเอาเองว่าก็น่าจะใช้ได้ผลกับความรักเหมือนกันแต่กลับไม่เป็นอย่างนั้น เขาส่งข้อความ โพสต์โซเชียลมีเดีย หรือกระทั่งโทรไปตื๊อจีบเพื่อนสาววันละหลายๆ ครั้ง แม้อีกฝ่ายจะบอกอ้อมๆ ว่าขอให้หยุดการติดต่อมาเสียทีเนื่องจากเป็นการรบกวนมาก หนุ่มน้อยก็ยังมุ่งมั่นคุกคามต่อไปเพราะเชื่อว่าอีกฝ่ายจะต้องตอบรับความจริงใจของเขาสักวัน ผ่านมาปีหนึ่งสถานการณ์กลับเลวร้ายลงเรื่อยๆ เพื่อนของฝ่ายหญิงพยายามออกโรงช่วยกีดกันทำให้ฝ่ายชายโกรธมากและเริ่มขู่อาฆาตว่าถ้าฝ่ายหญิงยังไม่รับรัก เขาจะไปฆ่าเธอและฆ่าตัวตาย จึงเป็นเหตุให้คุณแม่ต้องบังคับให้มาพบจิตแพทย์ค่ะ

“ถ้าคุณทำแบบนั้นคุณก็ต้องติดคุก ไม่สามารถเรียนต่อไปได้ แถมฝ่ายหญิงเขาก็ไม่มีทางรับรักคุณด้วย ดีไม่ดีอาจจะเกลียดคุณไปเลย คุณคิดว่าคุ้มค่าแล้วเหรอคะ”

“ผมแค่อยากให้ทุกอย่างย้อนกลับไปเป็นเหมือนเดิมเหมือนตอนแรกๆ ที่คบกัน เขายังพูดดีกับผม ผมอยากให้เขาคุยกับผมเวลาผมเครียดหรือเวลาอยากคุยกับใครซักคนเหมือนเมื่อก่อน”

Advertisement

“หมอเดาว่าตอนนี้เขาคงกลัวคุณไปแล้ว ภาพลักษณ์ของคุณในสายตาเพื่อนเขาก็ไม่ดีไปด้วย สิ่งแรกที่ต้องทำควรเป็นการทำให้เขากลัวคุณน้อยลง ตั้งสติดีๆ แล้วสร้างภาพลักษณ์ที่ดีขึ้นมาใหม่”

“ผมก็พยายามไลน์ไปพูดดีๆ กับเขาแล้วแต่เขาไม่ตอบผมเลย”

“หมอไม่ได้คิดว่าที่คุณทำไปเป็นเรื่องผิดนะคะ มันไม่ผิดแต่มันไม่เวิร์กค่ะ คุณใช้การตามตื๊อ คุกคามแบบเดิมๆ ก็ยิ่งทำให้เขาถอยห่าง คุณมีวิธีอื่นที่ไม่เคยทำมาก่อนไหมคะ หมอไม่รู้ว่ามันจะเป็นวิธีที่ถูกต้องหรือเปล่าแต่มันอาจจะเวิร์กกว่าวิธีที่ใช้อยู่ก็ได้”

“ผมคิดว่ายังไงก็ต้องคุยให้เคลียร์ ผมก็อยากตัดใจแต่ทุกครั้งที่ถามว่าเราเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมได้ไหม เขาก็ไม่ตอบ ถ้าเขาตอบว่าไม่ได้ผมคงตัดใจง่ายกว่านี้”

“เขาถนอมน้ำใจคุณไม่ใช่เหรอคะ”

“ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย ถ้าเป็นผมผมจะบอกให้ชัดๆ ไปเลย”

“ก็นั่นคือถ้าเป็นคุณ แต่เพราะเขาเป็นคนที่ถนอมน้ำใจคนอื่นคุณเลยชอบเขาไม่ใช่เหรอคะ ถ้าเขาเป็นคนพูดตัดบทหรือคิดถึงแต่ความต้องการของตัวเองโดยไม่คิดถึงใจคนอื่น คุณก็คงไม่ชอบเขาตั้งแต่แรก”

หนุ่มน้อยก็หงอยไปเลย น่าเห็นใจอยู่เหมือนกัน ทั้งที่ความสัมพันธ์ย่ำแย่ขนาดนี้น่าสงสัยไหมว่าทำไมฝ่ายชายตัดใจไม่ลงเสียที งานวิจัยล่าสุดจากมหาวิทยาลัยยูทาห์โดยคุณซาแมนธา โจเอล พบว่าในคู่รักที่แม้จะอยู่ด้วยกันก็มีปัญหากันตลอดแต่กลับไม่ยอมเลิกรากันมีปัจจัยสำคัญคือหากเรารับรู้ว่าอีกฝ่ายหนึ่งยังต้องการสานความสัมพันธ์อยู่ เราก็จะยังมีความหวังว่าความสัมพันธ์จะดีขึ้นจึงไม่เลิกรากันค่ะ พูดง่ายๆ เหมือนการลงพนันว่าที่เราเข้าใจว่าอีกฝ่ายยังรักเราอยู่เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า ดังนั้น มีโอกาสที่เราจะทายผิดเพราะคิดเข้าข้างตัวเองเกินไปว่าอีกฝ่ายยังคงรักเราอยู่ ผลคือเราก็ต้องทนทุกข์กับความสัมพันธ์ที่ไม่ราบรื่นต่อไปเพียงเพราะคิดว่าอีกฝ่ายยังมีใจ กรณีหนุ่มน้อยคิดว่าเขาทายผิดว่าฝ่ายหญิงอาจยังมีใจและยังมีโอกาสกลับไปเป็นเหมือนเดิมจึงไม่ตัดใจเสียที

การ์ตูนส่งท้ายบทความนี้หนีไม่พ้นเรื่องคู่รักที่เกือบจะไม่เข้าใจกันหลายครั้งแต่สิ่งที่ยึดโยงให้ยังคงรักกันต่อไปได้คือการรับรู้ว่าอีกฝ่ายยังต้องการสานสัมพันธ์ต่อไป “เจ้าหญิงเริงร่ากับราชาไร้เศียร” กล่าวถึงริเรีย เจ้าหญิงจากเมืองเล็กๆ ที่ได้แต่งงานกับราชาผู้น่าสะพรึงกลัว ที่น่ากลัวเพราะเขาไม่มีหัวค่ะ ผู้หญิงทุกคนที่เห็นราชาก็จะกลัวจนปฏิเสธการแต่งงานไปหมด ราชาไม่กล้าเข้าใกล้ริเรียเพราะเกรงว่าเธอจะกลัว ส่วนริเรียก็คิดไปว่าราชาไม่รักเธอจึงไม่ยอมให้อยู่ใกล้ แต่สุดท้ายทั้งสองก็เข้าใจซึ่งกันและกันเมื่อต่างฝ่ายต่างพูดออกมาตรงๆ ว่าอยากให้ความเป็นสามีภรรยาดำเนินต่อไป

แม้บทความนี้จะต้องแยกทางจากผู้อ่านแล้ว แต่ความปรารถนาที่จะนำเสนอสิ่งดีๆ ให้แก่ผู้คนก็ยังไม่เปลี่ยนไป เราอาจได้มีโอกาสพบกันในห้องตรวจบ้าง (ฮา) ลากันตรงนี้นะคะ ขอบคุณที่ติดตามมาโดยตลอดค่ะ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image