เด็กไทยพาชาติมั่นคง คอลัมน์ โลกสองวัย

พรุ่งนี้ เสาร์ที่ 14 มกราคม “วันเด็กแห่งชาติ” เวียนมาบรรจบอีกปีหนึ่ง เด็กไทยเมื่อปีก่อนอายุมากขึ้นอีกหนึ่งปี นับแต่วันเด็กปี 2558 ต้องบอกว่าเป็นเด็กในสมัย คสช.ของข้าพเจ้า ล้อสมัยที่จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นนายกรัฐมนตรีและเป็นหัวหน้าคณะปฏิวัติว่า “เด็กในสมัยปฏิวัติของข้าพเข้า…”

คำขวัญวันเด็กแห่งชาติปีนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติให้ไว้ว่า “เด็กไทยใส่ใจศึกษา พาชาติมั่นคง” ทั้งควรบอกกับน้องหนูทั้งหลายว่า

“เด็กไทยในสมัยรักษาความสงบแห่งชาติของข้าพเจ้า ใส่ใจศึกษา พาชาติมั่นคง”

ส่วนที่ข้าพเจ้า (ผู้เขียน) ซึ่งได้รับฟังคำขวัญวันเด็กแห่งชาติมาตั้งแต่เกือบจะเรียกว่าเริ่มแรก เพราะยุคแรกยังไม่มีคำขวัญ และวันเด็กในยุคแรกยังอยู่ในเดือนตุลาคม เพิ่งจะมาปรับเปลี่ยนเป็นวันเสาร์ที่ 2 ของเดือนมกราคมได้สักเกือบ 60 ปีแล้วกระมัง คือ

“เด็กดีเป็นศรีแก่ชาติ เด็กฉลาดชาติเจริญ”

Advertisement

ไม่ทราบว่าเป็นของนายกรัฐมนตรีคนไหน

วันเด็กแห่งชาติตั้งแต่ในยุคแรกๆ กองทัพทุกกองต้องนำเครื่องยุทโธปกรณ์ออกมาให้เด็กเล่นชม

กองทัพบกต้องมีรถถังออกมาให้เด็กทั้งเล็กทั้งใหญ่ได้ปีนป่าย ได้มีโอกาสลงไปในตัวถัง มีโอกาสได้ถือปืนหนักอึ้ง ทั้งปืนกลหนัก ปืนกลเบา ปืนเอ็ม 16 และอาวุธสงคราม เด็กบางคนพ่อแม่ยังให้แต่งเครื่องแบบทหาร อย่างน้อยด้วยเสื้อผ้าสีพรางไปเที่ยว

Advertisement

กองทัพเรือ นำเรือรบออกมาจอดที่ท่าราชวรดิฐ หรือที่บางนา และในจังหวัดที่กองทัพเรือตั้งอยู่

เช่นเดียวกับกองทัพอากาศ สถานที่น้องหนูนิยมให้คุณพ่อคุณแม่พาไปคือที่กองทัพอากาศดอนเมือง และฐานทัพอากาศในจังหวัดอื่น เช่นที่กองบินน้อย จ.เชียงใหม่ เป็นต้น

หลายครั้งในการแสดงการบินผาดโผนของเครื่องบินกองทัพอากาศประสบอุบัติเหตุตกลงมา มีนักบินเสียชีวิต แต่ยังไม่มีเด็กเสียชีวิต เนื่องจากมิได้นำเด็กขึ้นไปร่วมบินผาดโผนด้วย เคยแต่พาเด็กขึ้นเครื่องบินพาบินไปรอบสนามบินสัก 20 นาที ถึงครึ่งชั่วโมง

นอกจากนั้น ยังมีหน่วยงานอื่นทั้งของรัฐวิสาหกิจ หน่วยงานเอกชนจัดงานวันเด็กให้เด็กมีโอกาสได้มาเที่ยวชมงาน ได้รับของขวัญกลับบ้าน

สถานที่อีก 2-3 แห่งเป็นที่นิยมของเด็กมาก คือที่ทำเนียบรัฐบาล โดยเฉพาะการจัดให้น้องหนูได้นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี เช่นเดียวกับในที่ทำการรัฐสภา แต่ไม่ค่อยนิยมมากนัก เพราะเก้าอี้ประธานรัฐสภาน้องหนูยังไม่ค่อยรู้จักดี ไม่เหมือนเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ที่มีโอกาสถ่ายรูปลงหนังสือพิมพ์

เรื่องวันเด็กแห่งชาติ ผู้ที่ควรให้ความสำคัญมากที่สุด คือพ่อแม่ผู้ปกครอง เพราะพ่อแม่ผู้ปกครองต้องพาน้องหนูไปงาน โดยเฉพาะยังตัวเล็ก ยังไม่โตพอจะไปงานด้วยตัวเอง ปีหนึ่งอาจมีโอกาสพาไปได้เพียง 2 แห่ง ไม่เกิน 3 แห่ง บางปีพาไปได้เพียงแห่งเดียว เช่นที่กองทัพอากาศดอนเมือง

จากนั้นอีกไม่เกิน 3-4 ปี น้องหนูหลายคนมีโอกาสไปเที่ยวด้วยตัวเองมากขึ้น

วันเด็กแห่งชาติเป็นวันเสาร์ที่ 2 ของเดือนมกราคม ปีนี้คือ

วันเสาร์ที่ 14 มกราคม แต่ละโรงเรียนจัดวันเด็กให้นักเรียนวันนี้เป็นหลัก พรุ่งนี้วันเด็ก เป็นวันหยุด ต้องให้เด็กไปเที่ยวกับพ่อแม่ ผู้ปกครอง หรือด้วยตัวเอง

เมื่อจัดที่โรงเรียนครูต้องให้ความสำคัญกับนักเรียน ควรให้เด็กรู้จักจัดงานด้วยตัวเด็กเอง และต้องให้เด็กทุกวัยมีส่วนร่วม จะจัดในรูปแบบคณะกรรมการ หรือให้เด็กแต่ละห้องจัดกันเอง แล้วให้นักเรียนในโรงเรียนมาเที่ยวชม อย่างนี้ เด็กจะได้มีความคิดสร้างสรรค์ ไม่ใช่เอะอะอะไรให้ครูจัด หรือครูแย่งจัดเสียเอง

วันเด็กแห่งชาติ เป็นวันของเด็ก ทำอย่างไรให้น้องหนูเห็นความสำคัญของตัวเอง ไม่ใช่ว่าจะมีโอกาสออกไปเที่ยวเล่นเท่านั้น ควรให้โอกาสเด็กคิดค้นวิธีจัดงานวันเด็กแห่งชาติสักปีละครั้ง เพราะวันนี้มีสภาเด็กแล้ว

การจะให้เด็กไทยพาชาติมั่นคง ต้องให้เด็กร่วมคิดว่า ความมั่นคงของชาติคืออะไร และต้องทำอย่างไร

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image