| ที่มา | คอลัมน์ เดือนหงายที่ชายโขง มติชนรายวัน |
|---|---|
| ผู้เขียน | ธีรภัทร เจริญสุข |
| เผยแพร่ |
ข่าวดังลั่นโซเชียลลาวในสัปดาห์ที่ผ่านมา เห็นจะไม่มีข่าวไหนเกินปฏิบัติการจับกุมตัวนายไซซะนะ แก้วพิมพา หัวหน้าเครือข่ายยาเสพติดข้ามชาติขนาดยักษ์ มหาเศรษฐีและเซเลบไฮโซชาวลาวคาสนามบินสุวรรณภูมิเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2560 แม้ว่าข่าวในไทยจะเงียบหายไปเพียงแค่ไม่กี่วันเป็นเหมือนข่าวจับกุมพ่อค้ายาเสพติดทั่วไปรายหนึ่ง แต่ในแวดวงสังคมของลาวเป็นเรื่องกล่าวขวัญและวิพากษ์วิจารณ์กันหนาหูและค่อนข้างรุนแรง
นายไซซะนะ แก้วพิมพา หรือที่รู้จักกันในวงสังคมว่า “เสี่ยลบ” เป็นเศรษฐีใหม่ที่ก้าวเข้ามาสู่แวดวงคนมีสตางค์ของนครหลวงเวียงจันทน์
เมื่อไม่กี่ปีมานี้ จากธุรกิจโรงเลื่อย โรงงานเฟอร์นิเจอร์ และธุรกิจค้าส่งออก-นำเข้าหลายประเภท เป็นที่รู้จักกันในแวดวงโซเชียลจากไลฟ์สไตล์หรูหรา มีรถซุปเปอร์คาร์ ทั้งเฟอร์รารี ลัมโบร์กีนี ออดี้ และอื่นๆ มากมาย รวมถึงคฤหาสน์ขนาดใหญ่ในนครหลวงเวียงจันทน์ ทั้งยังเป็นเซียนไก่ชนชื่อดังที่เอาชนะไก่ของคนดังหลายคนจากไทยบนสังเวียนไก่ชน กวาดเงินเดิมพันไปมหาศาล
เสียงซุบซิบร่ำลือในวงสังคมก็มีมาตามกันว่าเหตุใดไซซะนะ หรือเสี่ยลบ จึงร่ำรวยขึ้นมาอย่างรวดเร็วผิดปกติ เพราะธรรมดาประชากรลาวนั้นมีไม่มาก วงสังคมคนรวยก็ยิ่งมีน้อยกว่าน้อย ธุรกิจและแหล่งรายได้ก็เห็นได้ชัดเจนว่ามาจากที่ใด จึงคาดกันว่าอาจพัวพันกับธุรกิจสีเทาหรืออาชญากรรมหลายประเภท แต่ด้วยภาพตามโซเชียลที่เสี่ยลบมักจะถ่ายรูปกับลูกหลานคนใหญ่โต หรือผู้มีตำแหน่งหน้าที่ในรัฐ จึงทำให้เสียงวิพากษ์วิจารณ์ไม่ไกลออกไปเท่าใดนัก
จนกระทั่งเมื่อนายไซซะนะถูกจับกุมโดยตำรวจ ป.ป.ส.ของไทย ภายใต้ปฏิบัติการ ชัยยะสยบไพรี 60/1 สังคมโซเชียลลาวจึงขุดคุ้ยประวัติและภาพถ่ายมาตีแผ่กันอย่างกว้างขวาง และส่งผลกระเทือนไปถึงผู้ที่เกี่ยวข้องไฮโซเซเลบชาวลาวหลายคนที่ปรากฏในภาพร่วมกับไซซะนะ ต้องออกมาปฏิเสธความเกี่ยวข้องกันยกใหญ่
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หน่วยงานป้องกันความสงบ (ปกส.) หรือตำรวจลาว ที่ได้รับเสียงค่อนขอดวิพากษ์วิจารณ์ว่าในเมื่อนายไซซะนะ เป็นเจ้าพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ระดับอาเซียน เป็นที่ต้องการตัวของหน่วยงานตำรวจมาเป็นเวลานาน ไฉนจึงไม่สามารถจับกุมได้บนแผ่นดินลาว แต่ต้องอาศัยมือของตำรวจไทยเข้าจับกุมในครั้งนี้ หรือว่าเป็นเพราะมีสายสนกลในกับคนระดับใหญ่โตของพรรครัฐหรือเปล่า
เว็บไซต์และเพจข่าวสารหลายแห่งของลาว ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลของ นายกฯทองลุน สีสุลิด ได้เผยแพร่บทความ “ล่อเสือออกจากถ้ำ” ซึ่งเป็นการร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดของไทย จีน ลาว มาเลเซีย และสิงคโปร์ ในการจับกุมนายไซซะนะครั้งนี้ โดยเปรียบเทียบกับเมื่อครั้งที่เจ้าหน้าที่ทางการลาวจับกุมหน่อคำ เจ้าพ่อยาเสพติดและโจรสลัดลุ่มน้ำโขงเมื่อปี 2555 ว่าการประสานงานเตรียมจับกุมครั้งนี้ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องในทางลับกว่า 2 ปีแล้ว โดยทางฝ่ายงานปราบปรามยาเสพติดของลาวได้ส่งข้อมูลไปให้ตำรวจไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อรอจังหวะที่เหมาะสมและมีพยานหลักฐานโยงเข้าหากันอย่างชัดเจน จึงได้เข้าทำการจับกุมในพื้นที่ที่อิทธิพลและเงินของไซซะนะไม่อาจเข้าถึงได้ และการจับจะได้กวาดล้างทั้งเครือข่าย ได้ทั้งพ่อเสือ แม่เสือ และลูกเสือพร้อมกันทั้งหมด โดยไม่ทำสิ่งใดเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น
การกวาดล้างเครือข่ายยาเสพติดของนายไซซะนะครั้งนี้ ถือเป็นชัยชนะครั้งใหญ่ต่อขบวนการยาเสพติดของเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อปกป้องอนาคตของประเทศต่างๆ ร่วมกัน ซึ่งการสอบสวนและตามหาตัวการอื่นในเครือข่ายยังต้องดำเนินต่อไป
