| ที่มา | คอลัมน์ ฟรีสไตล์เรื่องบ้าน บ้าน มติชนรายวัน |
|---|---|
| ผู้เขียน | เมตตา ทับทิม [email protected] |
| เผยแพร่ |
จริงหรือไม่ เขาบอกว่าคนเราใช้ชีวิตบนเตียงเดือนละ 240 ชั่วโมง
ตอนเรียนหนังสือบทเรียนสุขศึกษาก็บอกโต้งๆ ว่า คนเราต้องนอนหลับพักผ่อนวันละ 6-8 ชั่วโมง ใน 1 เดือนมี 30 วันเท่ากับคนเรานอนเดือนละ 180-240 ชั่วโมง จิงจิงด้วย
เกริ่นพอเป็นพิธี เข้าเรื่องเลยดีกว่า วงการอสังหาริมทรัพย์ไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือคอนโดมิเนียม เวลาออกแบบฟังก์ชั่นต่างๆ หนีไม่พ้นฟังก์ชั่นหลักคือ ห้องนั่งเล่น ห้องรับแขก ห้องรับประทานอาหาร ห้องครัว ห้องน้ำ และห้องนอน
ทั้งหมดนี้ ห้องนอนจัดเป็นพื้นที่ที่มีความเป็นส่วนตัวสูงที่สุดในประดาห้องต่างๆ ในบ้าน ห้องนอนจะมีขนาดเล็กหรือใหญ่ก็ว่ากันไปตามกำลังทรัพย์ในกระเป๋าเจ้าของบ้าน กรณีปกติ ไม่รวยไม่จนแต่มีห้องนอนส่วนตัว เฟอร์นิเจอร์มักประกอบด้วยเตียงนอน ตู้เสื้อผ้าโต๊ะเครื่องแป้ง (อย่าลืมบวกเก้าอี้ล่ะ คนขายเฟอร์นิเจอร์บอกว่าให้เรียกเก้าอี้โต๊ะเครื่องแป้งว่าสตูล หน้าตาเหมือนเก้าอี้หัวโล้น แต่เบาะเป็นผ้าหรือวัสดุหนัง ดูเลอค่าขึ้นมาอีกนิสนุง)
กรณีไม่ปกติ หมายถึงมีความรวยจนถึงรวยมาก ห้องนอนก็จะต้องตกแต่งสวยงามสอดคล้องกับรสนิยมคนนอน พื้นที่ใช้สอยก็ต้องมากกว่าปกติ ยกตัวอย่าง บ้านราคา 30-50 ล้าน ห้องนอนใหญ่หรือมาสเตอร์เบดรูมก็จะต้องมีพื้นที่ตั้งแต่ 80-100 ตารางเมตร ถ้าวางเตียงอย่างเดียวคงจะโล่งโจ้งโหวงเหวงน่าดู ดังนั้น การตกแต่งถ้าหากจ้างนักออกแบบเขาก็ต้องสร้างสตอรี่ว่าห้องนอนเศรษฐีสามารถทำกิจกรรมอื่นๆ ได้ด้วยนอกเหนือจากการนอนหลับตาเฉยๆ
เช่น วางเดย์เบดตัวเล็กๆ สำหรับนั่ง-นอนเอกเขนกดูทีวีจอยักษ์ย่อมๆ ในห้อง หรือทำเป็นมุมอ่านหนังสือเพลินๆ ก็ได้ บางหมู่บ้านเขาทำห้องตัวอย่างมีชุดรับแขกขนาดเล็กแล้วอธิบายว่าเป็นมินิลิฟวิ่งรูมไปโน่นเลย
การตกแต่งห้องนอนมีพื้นที่ประธานอยู่จุดหนึ่งซึ่งก็คือ “หัวเตียง” นั่นเอง ส่วนใหญ่ร้อยทั้งร้อยการวางเตียงจะดูว่าไม่เป็นทิศต้องห้าม เช่น ทิศตะวันตกเพราะถือเป็นทิศผู้ล่วงลับไปแล้ว โดยตำแหน่งที่วางเตียงในห้องส่วนใหญ่ที่พบมักวางหัวเตียงชิดผนังด้านใดด้านหนึ่งเสมอ จึงกลายเป็นโซนที่นักตกแต่งกรี๊ดสลบทุกคน เพราะถือเป็นพื้นที่ทางเทคนิคที่สามารถออกแบบตกแต่งเพิ่มความพิเศษทำให้ห้องนอนทั้งห้องดูสวยเด้งขึ้นมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ
หลายคนให้คะแนนนิยมว่าโซนหัวเตียงถือเป็นนางเอกในห้องนอนกันเลยทีเดียว
สำหรับเทคนิคการตกแต่งหัวเตียง มีองค์ประกอบ 2 ส่วนคือรสนิยมกับสตางค์ในกระเป๋า เมื่อใดก็ตามอยากให้มองแล้วรู้สึกว่าหะรูหะราก็สามารถออกแบบเพิ่มความพิเศษโดยใช้วัสดุหรูหรา เช่น กระจกเจียรปลี เดินคิ้วบัวทำสีทองแผ่นสเตนเลสสีเงินหรือสีทอง แต่ถ้าไม่ชอบระยิบระยับสามารถทดแทนด้วยผ้ากำมะหยี่โทนสีเรียบๆ กรุหัวเตียงในกรณีเพดานไม่สูงมาก
อย่างไรก็ตาม ถ้าหากเพดานห้องนอนสูงเกิน 2.70 เมตรถือว่าสูงมาก มีวิธีการที่บ้านตัวอย่างในโครงการจัดสรรนิยมตกแต่งก็คือกรุกำมะหยี่หัวเตียงหรือกรุผ้าบุนวมความสูงตั้งแต่พื้นจรดเพดาน เพียงเท่านี้มุมหัวเตียงก็ทำให้เป็นจุดเด่นของห้องได้แล้ว
เคยเห็นบางบ้านเขากรุผ้าไหมหัวเตียงสีพื้น อาจจะเลือกโทนสีฟ้า ชมพู ม่วง ฯลฯ ตามใจชอบ จากนั้น ก็อาจมีตุ๊กตาเซรามิก เช่น รูปผีเสื้อ นก หรืออะไรก็แล้วแต่ตามชอบมาแปะเป็นเส้นสายหรือเป็นเรื่องราวให้ดูวิ้งวิ้ง เบื่อขึ้นมาเมื่อไหร่ก็แค่เปลี่ยนตุ๊กตาเซรามิกแค่นี้ก็ไม่ซ้ำซากจำเจ
ห้องนอนเล็กซึ่งส่วนใหญ่เป็นของลูกๆ อาจจะวัยเด็กเล็กหรือวัยรุ่น คงไม่ชอบให้พ่อแม่มาตกแต่งผ้านวมผ้ากำมะหยี่หัวเตียงเพราะดูไม่สมวัย (ดูแก่นั่นเอง) ห้องตัวอย่างที่เห็นก็คือฝั่งหัวเตียงทาผนังเป็นสีพื้นโทนสีจัดๆ แล้วสั่งตัดสติ๊กเกอร์ลวดลายน่ารักหรืออาจเป็นซุปเปอร์ฮีโร่สำหรับเด็กผู้ชาย แค่นี้ก็กิ๊บเก๋ผุดผุด
ยังมีวัสดุกระจกพ่นทรายเป็นลวดลายต่างๆ ตกแต่งผสมปนเปกับลายไม้ธรรมชาติสีโทนเข้ม ใช้ไลติ้งดีไซน์โดยติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างในแบบที่ต้องการ ตามตำราเขาบอกว่าเหมาะกับห้องนอนที่มีไซซ์เล็ก ทำให้นึกถึงห้องนอนในคอนโดมิเนียมขึ้นมาทันที เพราะในชีวิตจริงวิมานรูหนูไซซ์ 32 ตารางเมตร เป็นพื้นที่ห้องนอนประมาณ 9 ตารางเมตรก็ใช้วิธีติดวอลล์เปเปอร์สีเดียวกันแต่ลวดลายไม่ซ้ำกัน อยู่มาหลายปีดีดักยังไม่นึกเบื่อเลยอ่ะค่ะ
ไหนๆ ก็คุยเลยเถิดมาถึงห้องนอนในคอนโดฯแล้ว ถ้าหากพักอาศัยชั้นสูงๆ ผนังด้านหน้าต่างมีวิวสวยๆ ให้ชมอยู่แล้ว (ยิ่งสูงยิ่งแพงเพราะคอนโดฯขายวิวค่ะ) คิดอะไรไม่ออกก็ทำเตียงบิลด์-อิน หัวเตียงติดรูปอาจจะภาพถ่ายหรืองานศิลป์ก็ได้
เพราะถึงที่สุดแล้ว เคล็ดลับการตกแต่งสมัยนี้ยึดหลักการมิกซ์ แอนด์ แมตช์ ง่ายที่สุดแล้วค่ะ
