| ที่มา | หน้าประชาชื่น มติชนรายวัน |
|---|---|
| เผยแพร่ |
สัปดาห์นี้มีแพลนไปเที่ยวไหนหรือยัง?
ขึ้นเหนือ เยือนเชียงใหม่ รับความสดใสผสานเอกลักษณ์ล้านนา ท่ามกลางมหานครแห่งความคิดสร้างสรรค์ ในงาน “เทศกาลออกแบบเชียงใหม่” หรือเชียงใหม่ดีไซน์วีค 2018 ด้วยกันดีกว่า
เทศกาลแห่งการรวบรวมผลงานการออกแบบสร้างสรรค์ของศิลปินนักออกแบบ และดีไซเนอร์สัญชาติไทยและต่างประเทศ ร่วมประดับประดา สร้างสีสันกับผลงานกว่า 126 ชิ้น บนแลนด์มาร์กสำคัญทั่วเมืองเชียงใหม่ ในคอนเซ็ปต์ “Keep Refining ยิ่งขัดเกลา ยิ่งแหลมคม”
ถือเป็นนิทรรศการยิ่งใหญ่ส่งท้ายปี เพราะแต่ละชิ้นที่นำมาจัดแสดงล้วนผ่านตะกอนความคิด รังสรรค์เป็นผลงานสุดครีเอต ทั้งในรูปแบบโชว์เคส (Showcase) อินสตอลเลชั่น (Installation) ฯลฯ สะท้อนแนวคิดหลากมิติ ทั้งงานหัตถกรรม งานออกแบบที่สอดแทรกมนต์เสน่ห์ไลฟ์สไตล์ท้องถิ่น และยังเพิ่มความน่าสนใจให้งานสร้างสรรค์ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย เพื่อให้ผู้เข้าชมงานสัมผัสถึงกลิ่นอายของงานดีไซน์ทุกชิ้นได้อย่างง่ายดาย โดยงานนี้มี 4 จุดไฮไลต์ที่จะพลาดไม่ได้
ตั้งแต่ “SOS Garden” การผสมผสานงานด้านสถาปัตยกรรมผ่านพื้นที่สีเขียว โดยนำวัสดุจากธรรมชาติและของรีไซเคิลออกแบบให้เป็นงานดีไซน์หลังคาฉากฉลุโปร่ง ตกแต่งให้เป็นพื้นที่นั่งเล่นในสวน สะท้อนแนวคิดการรักษาสิ่งแวดล้อมซึ่งทุกฝ่ายควรร่วมมือกันแก้ปัญหาและเพิ่มพื้นที่สีเขียวกลางเมืองให้มากยิ่งขึ้น
เป็นผลงานจากความร่วมมือระหว่างนักออกแบบและศิลปินอิสระ ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ เชียงใหม่ และบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาร่วมกันคิดและลงมือทำไปด้วยกัน พิกัด : ลานประตูท่าแพ
“COTH Studio” ด้วยเทคนิคเล่าเรื่องผ่านแสง สาดส่องไปยังสิ่งของเครื่องใช้ที่มีความหลากหลายของชุมชนวัดล่ามช้างและชุมชนควรค่าม้า หมุนวนแบบ 360 องศา สะท้อนเรื่องราวในชีวิตประจำวันที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมมีส่วนร่วมในการหมุนดวงไฟ ร่วมดื่มด่ำและสร้างความรู้สึกร่วมกับนิทรรศการที่ชวนสัมผัสเสน่ห์วิถีชีวิตชุมชนไปพร้อมๆ กัน พิกัด : หอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่
จากนั้นไปชม “การแสดงแสงไฟ Living Spirits” ที่ พิพิธภัณฑ์พื้นถิ่นล้านนา มาพร้อมกับศิลปะการจัดวางโคมลอยที่จะเชื่อมโยงกับผู้ชมผ่านนิทรรศการที่ใช้การเล่าเรื่องแบบเดียวกับโรงมหรสพคือ แบ่งเป็น 3 องก์ เล่าความคิดต่างๆ ที่เชื่อมโยงกัน จนหลอมรวมเป็นกระบวนการทำงานที่ชัดเจน
และอีกหนึ่งงานภายในสถานที่เดียวกัน คือ “Projection mapping” การแสดงมัลติมีเดียบนผนังอาคารพิพิธภัณฑ์ ด้วยเทคนิคการฉายแสงสีจากเครื่องโปรเจ็กเตอร์ เล่าเรื่องราวรอบตัวและศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยในจังหวัดเชียงใหม่ ได้อารมณ์สุนทรีย์เสมือนการรับชมแบบเธียเตอร์กลางแจ้ง
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมสำหรับสายครีเอทีฟและผู้มีใจรักงานดีไซน์จำนวนมาก ทั้งงานป๊อปมาร์เก็ต (Pop Market) ตลาดนัดแหล่งรวมสินค้าครีเอทีฟนับสิบร้าน งานเวิร์กช็อป (Workshop) ทดลองทำชิ้นงานแฮนด์เมดเก๋ๆ ด้วยตัวเอง รวมทั้งงานเสวนา (Talk) กิจกรรมสร้างแรงบันดาลใจจากกูรูงานดีไซน์ ซึ่งงานนี้ได้ครีเอทีฟตัวท็อปจากในและต่างประเทศมาร่วมแชร์ไอเดียกันด้วย
สำหรับจุดแสดงในบริเวณต่างๆ สามารถเดินทางได้อย่างสะดวก ทั้งการเดินเท้า นั่งรถราง รถส่วนตัว หรือจะเลือกใช้บริการรถสาธารณะก็ได้เช่นกัน งานนี้ชมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย มากันได้ตั้งแต่วันนี้-16 ธ.ค.นี้เท่านั้น
ย้ำว่า พลาดแล้วพลาดเลย เพราะงานดีๆ แบบนี้ 1 ปีมีครั้งเดียวเท่านั้น
