19 มกราคม ‘10 พรรค’ บุก ‘มศว’ กระชับกึ๋นการเมือง โชว์แก้ ‘เหลื่อมล้ำ’

บ่ายโมงตรง วันที่ 16 มกราคม 2562 หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) แคบลงไปถนัดตา

หัวหน้าพรรค แกนนำ และตัวแทนพรรคการเมืองรวม 10 พรรค ตบเท้าเข้าร่วมงานเสวนาวิชาการ มุมมองทางการเมืองต่อความเหลื่อมล้ำทางสังคม จัดโดย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) อย่างพร้อมเพรียง

ยังไม่รวมกับนิสิต คณาจารย์ สื่อมวลชน ตลอดจนผู้สนใจอื่นๆ ลงทะเบียนร่วมงานคับคั่ง จนที่นั่งไม่เพียงพอต่อความต้องการ

กว่า 180 นาทีของการเสวนา อัดแน่นด้วยความรู้ พรั่งพรูนโยบาย สอดแทรกมุขตลกเป็นระยะ เรียกได้ว่าครบรสจบในหนึ่งงาน

Advertisement

หากพลิกปฏิทิน หมุนเข็มนาฬิกากลับไปวันที่ 19 ธันวาคม ปี 2561 จะพบเบื้องหลังความสำเร็จงานเสวนาครั้งนี้ เนื่องจากหนึ่งสถาบันการศึกษา “มศว” และหนึ่งองค์กรสื่อมวลชน “มติชน” ได้ ลงนามบันทึกข้อตกลงทางวิชาการร่วมกัน จับมือกันพัฒนาความรู้ ข้อมูล และข้อเท็จจริง เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมในระยะยาว

วันนั้น ตัวแทนทั้ง 2 ฝ่ายเข้าร่วมพิธีพร้อมหน้าพร้อมตา ตั้งแต่ รศ.ดร.สมชาย สันติวัฒนกุล อธิการบดี มศว, ศ.ดร.ปานสิริ พันธุ์สุวรรณ รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ, ผศ.พินิจ เทพสาธร รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนากายภาพและสิ่งแวดล้อม, รศ.ดร.ชลวิทย์ เจียรจิตต์ คณบดีคณะสังคมศาสตร์ ตลอดจนผู้บริหาร มศว อีกมากมาย ด้านมติชนนำโดย ฐากูร บุนปาน กรรมการผู้จัดการ บมจ.มติชน, วรศักดิ์ ประยูรศุข บรรณาธิการมติชนรายวัน, นฤตย์ เสกธีระ บรรณาธิการบริหารมติชนรายวัน และอพิสิทธิ์ ธีระจารุวรรณ รองผู้จัดการสำนักพิมพ์มติชน

พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงทางวิชาการร่วมกัน ระหว่างมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และ บมจ.มติชน เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา

ฐากูรกล่าวตอนหนึ่งว่า เป็นเรื่องน่ายินดีที่ มศว กับมติชน มีความร่วมมือกัน อาจเป็นเพียงความพยายามเล็กๆ ก้าวเล็กๆ ก้าวหนึ่งในการเดินไปสู่การแก้ไขปัญหาบางอย่าง เรา 2 สถาบันคงไม่มีพลังไปเปลี่ยนแปลงอะไรได้ทั้งหมด แต่หากความร่วมมือของเราเจริญงอกงามขึ้นมา แล้วทำให้คนอื่นเห็นได้ว่าเป็นไปเพื่อประโยชน์ของผู้อื่น และประโยชน์ของส่วนรวมอย่างแท้จริง อาจมีความร่วมมือเช่นเดียวกันนี้เกิดขึ้นในอีกหลายๆ ที่

Advertisement

“รู้สึกยินดีที่มหาวิทยาลัยและองค์ความรู้เดินไปพร้อมกับสังคม เชื่อว่าต่อไปสังคมจะตัดสินอะไรโดยใช้ฐานข้อมูล เหตุผล และสติปัญญามากกว่าอารมณ์ หวังว่าความร่วมมือของทั้ง 2 องค์กรจะส่งเสริมการพัฒนาความรู้ การพัฒนาข้อมูล ข้อเท็จจริง สติปัญญาให้งอกเงยขึ้น เพื่อประโยชน์ในระยะยาว”

ด้านอธิการบดี มศว รศ.ดร.สมชายระบุว่า ยินดีที่มติชนเห็นความสำคัญของการศึกษา มศว เริ่มต้นด้วยการเป็นวิทยาลัยฝึกหัดครูชั้นสูง กระทั่งเปลี่ยนสถานะเป็นมหาวิทยาลัย การที่มติชนร่วมมือกับคณะสังคมศาสตร์ของ มศว ถือเป็นความสำคัญอย่างยิ่งในการศึกษาปัจจุบัน โดยเฉพาะเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน หวังว่าความร่วมมือครั้งนี้ จะทำประโยชน์ให้ประเทศชาติ เพราะเราเป็นผู้สร้างคนออกไปสู่สังคม โดยเฉพาะคณะสังคมศาสตร์มีความสำคัญมาก ในการทำให้นิสิตของเรามีความเป็นมนุษย์ ที่มีคุณธรรมจริยธรรม

ส่วน รศ.ดร.ชลวิทย์ร่วมกล่าวตอนหนึ่งว่า มหาวิทยาลัยได้มอบหมายให้คณะสังคมศาสตร์ผลักดันทิศทางศาสตร์รับใช้สังคม ด้านความร่วมมือกับสื่อมวลชนนั้น มศว ได้เล็งเห็นว่ามติชนเป็นสื่อมวลชนที่มีจุดยืนเรื่องการมองสังคม วัฒนธรรม และการศึกษาอย่างยั่งยืน ตรงไปตรงมาตลอด 42 ปีที่ผ่านมา จึงมีการประสานความร่วมมือกัน

“ผมและผู้บริหารมติชนได้พูดคุยกันถึงทิศทางความร่วมมือ โดยทางอธิการบดี มศว ให้นโยบายเรื่องเป้าหมายของการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งตรงกับทิศทางของมติชนที่ให้บริการศาสตร์ทางสังคม และผลักดันให้หลายๆ ศาสตร์มีส่วนร่วมกับสื่อมวลชนในทิศทางวิชาการ ภายใต้กรอบการบริการวิชาการ ความร่วมมือทางบุคลากรในการส่งเสริมองค์ความรู้ ความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์ในภาพรวมต่อไป”

หลังผ่านพ้นพิธีการสำคัญไม่ถึงเดือน งานเสวนาครั้งยิ่งใหญ่ก็ได้เริ่มต้นขึ้น

นิสิตร่วมฟังเสวนาคับคั่ง

10 พรรคชงไอเดียแก้ ‘เหลื่อมล้ำ’
ส่งเสริมภาคเกษตร ล้มผูกขาด เพิ่มโอกาสการศึกษา

ก่อนถึงเวลานัดหมายคือบ่ายโมงตรง บรรดานิสิต คณาจารย์ ประชาชน ตลอดจนสื่อมวลชนหลายสิบสำนักทยอยลงทะเบียนจับจองที่นั่งจนเต็ม แทบล้นออกนอกประตู

ดูเหมือนความกว้างขวางของหอประชุมใหญ่ มศว จะไม่พอต่อความสนใจของผู้ร่วมงานเสียแล้ว

สิบสามนาฬิกาตรง รศ.ดร.ชาญวิทย์ เทียมบุญประเสริฐ รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนากิจการเพื่อสังคม มศว คว้าไมค์กล่าวต้อนรับ เผยความรู้สึก “ภาคภูมิใจเหลือล้น” เพราะวันนี้คนคึกคักเป็นพิเศษ และว่า ปี่กลองทางการเมืองได้เริ่มขึ้นแล้ว รวมถึงประเด็นที่เสนอมานั้นจะพบว่าประเทศไทยมีปัญหาเรื่องความเหลื่อมล้ำสูงมาก โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่จะได้รับฟังว่าแต่ละพรรคการเมืองมีแนวทางหรือนโยบายเรื่องความเหลื่อมล้ำอย่างไร ขอบคุณมติชนที่ให้ความกรุณาในการจัดงานครั้งนี้

จากนั้น ฐากูร บุนปาน กรรมการผู้จัดการ บมจ.มติชน กล่าวต่อว่า งานนี้เป็นความร่วมมือทางวิชาการระหว่าง มศว และมติชน ซึ่งลงนามความร่วมมือเมื่อปลายปีที่ผ่านมา หวังว่าบริการทางวิชาการในหัวข้อที่น่าสนใจจะเกิดขึ้นเป็นระยะในลำดับถัดไป

สาเหตุปัจจัยที่เลือกหัวข้อเสวนา “มุมมองทางการเมืองต่อความเหลื่อมล้ำทางสังคม” ฐากูรเชื่อว่ามีปัญหาอยู่จริง แถมยังทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จากเศรษฐกิจ ไปสู่การศึกษา สังคม และอื่นๆ

“หวังว่าทุกท่านที่อยู่ด้านหลังของระบบ ส่วนใหญ่มีตัวแทนหรือตัวท่านเองได้เข้าไปทำหน้าที่ของพวกเราในสภาอย่างมีข้อมูล มีแนวทางอันเป็นประโยชน์ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ช่วยกระตุ้นให้เกิดความสำนึกเพื่อแก้ปัญหาในลำดับถัดไป”

รศ.ดร.ชาญวิทย์ เทียมบุญประเสริฐ รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนากิจการเพื่อสังคม มศว กล่าวเปิดงาน

หลังเสร็จสิ้นพิธีการ เก้าอี้ทั้ง 11 ตัวบนเวทีถูกยึดครองด้วยหัวหน้าพรรค แกนนำ และตัวแทนพรรคการเมืองทั้ง 10 พรรค ประกอบด้วย สงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ, วราวุธ ศิลปอาชา ประธานกรรมการยุทธศาสตร์และนโยบาย พรรคชาติไทยพัฒนา, อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์, ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่, ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ

สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ตัวแทนพรรคภูมิใจไทย, นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล แกนนำพรรคชาติพัฒนา, ศ.พิเศษ เอนก เหล่าธรรมทัศน์ แกนนำพรรครวมพลังประชาชาติไทย, อนุกูล แพรไพศาล ตัวแทนพรรคเสรีรวมไทย และ นพดล ปัทมะ แกนนำพรรคเพื่อไทย กับอีก 1 ผู้ดำเนินรายการมากความสามารถ ศิษย์เก่ารั้วเทาแดง “เอกภัทร เชิดธรรมธร” ผู้ประกาศข่าวมติชนทีวี

ที่น่าสนใจคือ งานนี้เวลาน้อย แต่คนมาก แต่ละพรรคจึงต้องเสนอไอเดียแก้ความเหลื่อมล้ำอย่างกระชับสุดขีด

พรรคเพื่อชาติจี้แก้การผูกขาด ตัดตอนทางธุรกิจ อภิสิทธิ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เสนอ 7 ข้อ อาทิ การจัดสรรทรัพยากรของชาติ แก้ปัญหาการผูกขาดระหว่างรัฐและเอกชนในโครงการต่างๆ การปรับปรุงระบบภาษี การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม พรรคอนาคตใหม่อาสาเป็นตัวแทนเข้าไปดึงอำนาจและผลประโยชน์จากคนกลุ่มน้อยที่มีพลังสูง กระจายสู่ประชาชนทั่วประเทศ พรรคชาติไทยพัฒนาเสนอตั้ง สสร.การศึกษา ดึงคนอายุน้อยกว่า 60 มีส่วนร่วมร่าง พรรคไทยรักษาชาติชงปลดล็อกกฎหมายที่เป็นอุปสรรคของประชาชน

พรรคภูมิใจไทยเน้นให้โอกาสทางการศึกษาอย่างเท่าเทียม ลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจให้ประชาชน พรรคชาติพัฒนาเอาใจเกษตรกร ส่งเสริมสมาร์ทฟาร์มมิ่ง ผลักดันการพัฒนา 25 ลุ่มน้ำ เช่นเดียวกับพรรครวมพลังประชาชาติไทยที่ขอเน้นภาคการเกษตร ร่วมกับการท่องเที่ยวชุมชน พรรคเสรีรวมไทยย้ำหนักแน่น “ระบบผูกขาดไม่ควรเกิดขึ้นในเมืองไทยมากยิ่งขึ้น” ปิดท้ายด้วยพรรคเพื่อไทยชูนโยบายด้านรายได้ สร้างโอกาส สร้างอนาคต ยกให้การศึกษาคือยาขนานวิเศษ

เป็นอันจบการเสวนารอบแรก

สงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ และนพดล ปัทมะ ตัวแทนพรรคเพื่อไทย
สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ตัวแทนพรรคภูมิใจไทย และวราวุธ ศิลปอาชา ประธานกรรมการยุทธศาสตร์และนโยบาย พรรคชาติไทยพัฒนา

แก้ไขให้ถูกจุด ‘ขนส่งมวลชนไทย’ ถึงได้ไปต่อ

ไม่รอให้เวลาล่วงเลย เอกภัทรจัดแจงถามต่อ ยกประเด็น “ระบบขนส่งมวลชนไทย” ขึ้นมาพูดคุย ทั้งรถเมล์ รถไฟฟ้าบนดิน-ใต้ดิน รวมถึงการเดินทางในเมืองใหญ่ เชื่อมโยงความเหลื่อมล้ำ แต่ละพรรคคิดเห็นเช่นไร

น่าสนใจที่ส่วนใหญ่เห็นพ้อง “ให้ไปต่อ” ทั้งรถเมล์ รถไฟฟ้าบนดินและใต้ดิน แต่ต้องได้รับการปรับปรุง พัฒนาให้เกิดการเชื่อมโยงเป็นเครือข่ายใยแมงมุมอย่างแท้จริง ที่สำคัญต้องมีราคาที่เหมาะสม สัมพันธ์กับรายได้ประชาชน

โดยเฉพาะค่ารถไฟฟ้า วราวุธบ่นออกไมค์ “แพงเหลือเกิน BTS เนี่ย ล่าสุดลูกสาวผมไปซื้อใบเป็นหมื่นเลย แต่อันนั้นคนละ BTS นะครับ เขาไปดูคอนเสิร์ตมา” จู่ๆ ก็แทรกมุขเรียกเสียงฮา จนผู้ฟังปรบมือชอบใจแทบไม่ทัน

ด้านหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ก็ท็อปฟอร์มไม่แพ้กัน หลังรับคำถาม รีบคว้าไมค์เดินออกไปยืนหน้าเวที ขอใกล้ชิดผู้ฟัง ก่อนระบบเสียงจะขัดข้องทางเทคนิค อภิสิทธิ์รีบแซว “ผมสงสัยนิดเดียว ไมโครโฟนดับ แต่นาฬิกายังเดินถอยหลังไปด้วย”

เสวนาครั้งนี้สนุกสนาน เพราะลีลาการนำเสนอของแต่ละคน “ไม่ธรรมดา” กอปรกับเวลาอันน้อยนิด แต่ละพรรคจึงต้องรวบข้อมูลครบด้าน แล้วพรีเซ็นต์แบบกระชับสุดสุด

รท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ พูดคุยเป็นกันเองกับธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่
คณะติดตามพรรคการเมือง ร่วมงานคับคั่ง

ไม่แปลกที่ 180 นาทีของการเสวนาจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว หากแต่ได้รับความรู้ครบถ้วนกระบวนความ สะท้อนผลสำเร็จจากความร่วมมือระหว่าง มศว และมติชนได้เป็นอย่างดี

แต่ถ้าใครสนใจมองเมืองไทยหลังเลือกตั้ง วันที่ 30 มกราคมนี้ เคลียร์คิวให้ว่าง ลงทะเบียนร่วมงานเสวนา “เลือกตั้ง 62 จุดเปลี่ยนประเทศไทย” จัดโดยมติชน

ส่วนงานต่อไปของ 2 องค์กรด้านการศึกษาและด้านสื่อนั้น อีกไม่นานเกินรอ

นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา (คนพูด)
อนุกูล แพรไพศาล ตัวแทนพรรคเสรีรวมไทย (คนพูด) ถัดไปในชุดลายสกอตคือ ศ.พิเศษ เอนก เหล่าธรรมทัศน์ แกนนำพรรครวมพลังประชาชาติไทย

นิสิตและผู้ร่วมงานถ่ายภาพกับอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อย่างเป็นกันเอง (ภาพจากเฟซบุ๊ก Abhisit Vejjajiva)
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image