5G กับ ‘ยูสเคส’ ปลุกไทยก้าวนำอาเซียน

กว่า 200 นาทีบนเวทีสัมมนา “5G ปลุกไทยที่ 1 อาเซียน” อัดแน่นด้วยสาระความรู้ ครบเครื่องด้วยการจัดบูธนิทรรศการรูปแบบการใช้งาน หรือยูสเคส ที่ใช้สัญญาณ 5G จากโอเปอเรเตอร์ หรือผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ไม่ว่าจะเป็นบูธจากทรู เอไอเอส ดีแทค ส่วน 3BB ซึ่งทำวิจัยยูสเคสต่างๆ ร่วมกับคณาจารย์จุฬาฯ จึงจัดบูธร่วมกันอย่างเฉิดฉาย ทั้งหมดนี้มีผู้สนใจจากหลายวงการร่วมชมล้นหลาม

งานนี้สำเร็จลุล่วงด้วยความร่วมมือจากหลายฝ่าย นำโดย กระทรวงดีอี หรือดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ มติชน จัดขึ้นที่ห้องประชุม อาคารมหิตลาธิเบศร จุฬาฯ เมื่อวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา

8 นาฬิกา 45 นาที ฐากูร บุนปาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) ขึ้นเวทีกล่าวต้อนรับและกล่าวรายงานแขกผู้มีเกียรติ พร้อมระบุตอนหนึ่งว่า ไม่กี่ปีที่ผ่านมาคำศัพท์ด้านเทคโนโลยีที่เคยลึกลับสูงส่ง ทั้งไอโอที (IoTs) เอไอ (AI) 5จี (5G) กลายเป็นคำคัพท์สามัญประจำบ้าน ทุกคนเริ่มเรียนรู้ไม่ว่าจะเป็นเด็กที่เริ่มเล่นมือถือ คนสูงอายุที่เล่นไลน์ สะท้อนว่าเทคโนโลยีใกล้ตัวเข้ามาทุกที การเปลี่ยนแปลงมาถึงแล้ว มติชนได้รับการอนุเคราะห์จากกระทรวงดีอี กสทช. และจุฬาฯในการจัดสัมมนาครั้งนี้ ที่ผ่านมามติชนได้จัดสัมมนาหลายครั้ง เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นเตือนบอกกล่าวคนในสังคมว่าการเปลี่ยนแปลงมาเคาะประตูถึงหน้าบ้านแล้ว มาถึงห้องนั่งเล่นของทุกคน โดยการสัมมนาครั้งนี้ขอขอบคุณผู้สนับสนุนที่ได้นำตัวอย่างยูสเคสมานำเสนอด้วย

จากนั้น พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ เจ้ากระทรวงดีอี พร้อมด้วย พล.อ.สุกิจ ขมะสุนทร ประธาน กสทช. และ ศ.ดร.บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ อธิการบดีจุฬาฯ ร่วมกดปุ่มเปิดงานอย่างเป็นทางการ โดยมี รศ.ดร.ณัฐชา ทวีแสงสกุลไทย รองอธิการบดี กำกับดูแลด้านการพัฒนางานใหม่และงานนวัตกรรม จุฬาฯ คนในวงการไอที นิสิตจุฬาฯและสถาบันอื่นๆ ตลอดจนประชาชนทั่วไปร่วมงานคับคั่ง

Advertisement

รมว.พิเชฐ เปรียบ 5G ดั่งอาวุธที่ช่วยให้ประเทศเล็กๆ พัฒนาอย่างก้าวกระโดด สำหรับไทยปัจจุบันได้เริ่มดำเนินการแล้ว ส่วนกระทรวงดีอีได้เร่งผลักดันสมาร์ทซิตี้ หรือเมืองอัจฉริยะ โดยอาศัย 5G ขณะเดียวกันยังแนะนำให้แบ่งปันโครงสร้างพื้นฐาน เช่น เสาสัญญาณให้มีจำนวนเหมาะสม เพื่อให้ผู้บริโภคได้ประโยชน์สูงสุด

ฐากร ชี้โอกาสทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นจากสัญญาณ 5G และย้ำเตือนว่า หากเราปรับตัวให้สอดรับกับเทคโนโลยี พร้อมรับมืออย่างรวดเร็ว ไทยจะก้าวขึ้นเป็นที่ 1 ของอาเซียนอย่างเต็มภาคภูมิ

จากซ้าย ประธาน กสทช. รมว.พิเชฐ และอธิการบดีจุฬาฯ ร่วมเปิดงาน

เฉาบิน หยาง ประธานบริหาร ฝ่ายผลิตภัณฑ์เครือข่าย 5G ของหัวเว่ย เทคโนโลยี่ ประเทศไทย กล่าวด้วยความเชื่อมั่นว่า “หัวเว่ย” สามารถพัฒนา 5G ให้เข้าถึงประชากรทั่วโลกได้ภายใน 3 ปี ซึ่งประโยชน์ของการพัฒนาระบบคือช่วยประหยัดค่าติดตั้งอุปกรณ์กว่า 35 เปอร์เซ็นต์ แถมยังรองรับการเคลื่อนที่ของสัญญาณได้เป็นอย่างดี

Advertisement

ส่วน แองกัส หยู ผอ.ด้านเทคโนโลยี สมาคมจีเอสเอ็ม เอเชีย สำนักงานฮ่องกง เผยว่า 5G จะเกิดขึ้นได้เมื่อเทคโนโลยีพร้อม นโยบายชัดเจน และตลาดเหมาะสม โดย 5G จะช่วยพัฒนาด้านปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ อินเตอร์เน็ตของสรรพสิ่ง หรือไอโอที เทคโนโลยีเสมือนจริง หรือเออาร์ รวมทั้งพัฒนาการอื่นๆ ที่ยังคาดการณ์ไม่ได้อีกจำนวนมาก

เฉาบิน หยาง
แองกัส หยู

ด้านโอเปอเรเตอร์ 4 ค่ายใหญ่ฝั่งไทย ทั้งเอไอเอส ทรู ดีแทค ทริปเปิลที (3BB) ต่อแถวโชว์วิชั่นอย่างพร้อมเพรียง

เริ่มจาก วีรวัฒน์ เกียรติพงษ์ถาวร หัวหน้าคณะผู้บริหารธุรกิจสัมพันธ์และองค์กร บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส หรือเอไอเอส กล่าวถึงลักษณะเด่นของระบบ 5G ด้านต่างๆ อย่างครอบคลุม ที่สำคัญ “เอไอเอส” ยังสนับสนุน 5G ในด้านการศึกษา นักคิด นักประดิษฐ์ รวมแล้วกว่า 1,000 ราย นอกจากนี้ ยังมีการทดลองใช้ สมาร์ทมิเตอร์ สมาร์ทไลฟ์ รวมถึงรถยนต์ไร้คนขับซึ่งนำมาจัดแสดงในงานนี้ด้วย

ตามด้วย วิเชาวน์ รักพงษ์ไพโรจน์ รองประธานคณะกรรมการบริหาร ทรู คอร์ปอเรชั่น ที่ยอมรับว่า แม้ “ทรู” จะเป็นเอกชนราย 3 ที่เข้ามาขับเคลื่อนธุรกิจโทรคมนาคมในประเทศ แต่ตั้งเป้าผลักดันให้เกิด 5G ขึ้นโดยเร็ว มั่นใจว่าระบบดังกล่าวจะมีประโยชน์ในเรื่องยูสเคสต่างๆ ซึ่งควรพัฒนาระบบเพื่อนำไปพัฒนาอุตสาหกรรมด้านการผลิต เพิ่มมูลค่าให้สินค้าอย่างมหาศาล

ฟาก “ดีแทค” มี อเล็กซานดร้า ไรช์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ขึ้นให้ข้อมูล ระบุว่า เทคโนโลยี 5G ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ดีแทคเองได้ร่วมมือกับพันธมิตรคือ กสท โทรคมนาคม หรือแคท และทีโอที มหาชน ในการให้บริการอุตสาหกรรมโทรคมนาคม

วีรวัฒน์ เกียรติพงษ์ถาวร
วิเชาวน์ รักพงษ์ไพโรจน์

ปิดท้ายด้วย ยอดชาย อัศวธงชัย หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการของทริปเปิลที หรือ 3BB ยืนยันพร้อมผลักดัน 5G เต็มประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ระบบ 5G จะช่วยเอื้อระบบไอโอทีเพื่อมุ่งสู่การพัฒนารถยนต์ไร้คนขับ ระบบสุขภาพ บันเทิง ความปลอดภัยทางไซเบอร์ และอื่นๆ อีกมากมาย

จากนั้นเป็นวงเสวนา “5G ปลุกไทยที่ 1 อาเซียน” ในมุมมองภาคการใช้งานบริการเกี่ยวเนื่อง มี สืบศักดิ์ สืบภักดี รองเลขาธิการ สมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ดำเนินรายการ

พญ.นิจศรี ชาญณรงค์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หัวหน้าศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ด้านหลอดเลือดสมองแบบครบวงจร ชี้ถึงประโยชน์ทางการแพทย์ของระบบ 5G ในการสนับสนุนเทเลเมดิซีน หรือแพทย์ทางไกลให้ยอดเยี่ยมกว่าปัจจุบัน ทั้งยังนำเอไอมาช่วยวินิจฉัยโรคเบื้องต้น

“ถ้าเรามี 5G จะทำให้เข้าถึงการดูแลรักษาคนไข้ได้มากขึ้น ลดอัตราการเสียชีวิตและพิการ อย่างไรก็ตาม ด้วยการใช้ข้อมูลต่างๆ เป็นความลับของคนไข้และต้องได้รับการยินยอม จึงต้องควบคุมดูแลข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสมเพื่อใช้ทางการแพทย์” พญ.นิจศรีกล่าว

วงเสวนา “5G ปลุกไทยที่ 1 อาเซียน” จากซ้าย จุลพงษ์ ลิมปสุธรรม, เฉลิม ดวงยี่หวา, วิบูลย์ แสงวีระพันธุ์ศิริ, พญ.นิจศรี ชาญณรงค์ ดำเนินรายการโดยยอดชาย อัศวธงชัย


ขณะที่ วิบูลย์ แสงวีระพันธุ์ศิริ จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ เอ่ยถึงความร่วมมือระหว่างสำนักงาน กสทช.และจุฬาฯ ในการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติและทดสอบ 5G เป็นเวลา 2 ปี เพื่อฝึกหุ่นยนต์สำหรับใช้ประโยชน์ฟื้นฟูผู้ป่วย โดยจะมีการบันทึกข้อมูลการฝึกปฏิบัติของผู้ป่วยแบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ ยังมีเรื่องระบบควบคุมการทำงาน การเชื่อมต่อสัญญาณของอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อสนับสนุนการทำงานทั้งระบบ อย่างไรก็ตาม หากมีการพัฒนาร่วมกับ 5G ได้ ก็จะช่วยให้การทำงานในอนาคตเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

“5G จะช่วยให้ซีพีเอฟสามารถผลิตสินค้าและบริการที่มีศักยภาพสูงขึ้น” เฉลิม ดวงยี่หวา รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและระบบงาน ตัวแทนซีพีเอฟ เน้นย้ำ พร้อมกล่าวว่า ขอพิจารณาเรื่องค่าธรรมเนียมอย่างรอบด้าน ด้วยเกรงว่าจะกระทบต้นทุนของผู้ใช้งาน

ก่อนจะจบที่ จุลพงษ์ ลิมปสุธรรม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานเทคโนโลยีสารสนเทศ จากบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เล่าถึงการนำไอทีมาพัฒนาระบบไปรษณีย์ให้เปลี่ยนโฉมการทำงานอย่างคาดไม่ถึง

ขณะที่สัมมนาบนเวทีจบลงอย่างเข้มข้น การจัดแสดงยูสเคสจากเหล่าโอเปอเรเตอร์ก็เป็นไปอย่างชื่นมื่น

ยอดชาย อัศวธงชัย
อเล็กซานดร้า ไรช์

งานนี้ “เอไอเอส” นำรถยนต์ไร้คนขับคันแรกของไทยที่เชื่อมต่อบนเครือข่ายไลฟ์ เน็ตเวิร์ก 5G ของเอไอเอสมาโชว์อย่างอลังการ ยูสเคสซึ่งเกิดจากการทำวิจัยของสมาร์ท โมบิลิตี้ เซ็นเตอร์ จุฬาฯ โดย นักสิทธิ์ นุ่มวงษ์ อาจารย์คณะวิศวะ ร่วมกับเอไอเอส ทั้งยังได้รับเกียรติจากเลขาฯฐากรทดลองนั่งขณะที่วิ่งไปด้วยสัญญาณ 5G

ด้าน “หัวเว่ย” จัดสมาร์ทโฟนพับได้อย่าง Huawei Mate X โชว์อย่างยิ่งใหญ่ รับประกันการรองรับ 5G แถมยังมีความจุเครื่องถึง 512 กิกะไบต์ พร้อมกล้อง 3 เลนส์จากไลก้า มีกำหนดวางขายในไทยอย่างเร็วในอีก 2 เดือนข้างหน้านี้ โดยราคาเปิดตัวอยู่ที่ประมาณ 82,000 บาท

ตลอดจน “ระบบวัดสัญญาณชีพพารามิเตอร์” ที่ส่งข้อมูลของผู้สูงอายุและผู้ป่วยที่ต้องทำการตรวจวัดชีพจรอย่างสม่ำเสมอไปยังแพทย์ ซึ่งเป็นการวิจัยร่วมกับโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ นับเป็นยูสเคสที่เหมาะกับสภาพปัจจุบันเนื่องด้วยสภาพการจราจรและผู้ป่วยเดินทางได้ลำบาก

เหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งและส่วนสำคัญจากงาน “5G ปลุกไทยที่ 1 อาเซียน” ที่จบลงแล้วอย่างสมบูรณ์แบบ สามารถรับชมไลฟ์สดย้อนหลังได้ที่เฟซบุ๊ก “Matichon Online” ไลฟ์สดช่วงที่ 1 ไลฟ์สดช่วงที่ 2 และข่าวสารอื่นๆ ได้ที่แฮชแท็ก #5Gปลุกไทยที่1อาเซียน

ผู้จัดงานและผู้สนับสนุนถ่ายภาพร่วมกันก่อนงานเริ่ม
เลขาฯฐากรทดลองนั่งรถไร้คนขับ

คณะ รมว.ดีอีเยี่ยมชมบูธทรู

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image