รูดม่าน ‘มติชน เฮลท์แคร์ 2019’ หลายหมื่นคนร่วมงาน สุขภาพดีถ้วนหน้า

ตอกย้ำความเป็นงานแฟร์เพื่อสุขภาพอันดับ 1 ของประเทศไทย ด้วยตัวเลขผู้ร่วมงานตลอด 4 วันกว่า 30,000 คน ขณะที่ประชาชนเข้ารับบริการสุขภาพสูงถึงกว่า 7,000 ราย

ใช่แล้ว กำลังพูดถึงงาน เฮลท์แคร์ 2019 จัดโดยบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) ร่วมกับพันธมิตรด้านสุขภาพกว่า 30 แห่ง ที่ครั้งนี้มาในธีม เรียนรู้ สู้โรค ซึ่งจบลงไปแล้วเมื่อวันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา

ดำเนินงานมาแล้วกว่า 11 ปี ทว่า ผู้คนกลับหลั่งไหลร่วมงานต่อเนื่อง ไม่หวั่นเรื่องสภาพอากาศและการเดินทาง แม้หนนี้จะย้ายสถานที่จัดจากศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ มาที่ฮอลล์ 5 อิมแพค เมืองทองธานี ก็ยังตามมาอย่างไม่ย่อท้อ จนผู้จัดยิ้มกันแก้มปริ

ส่วนหนึ่งต้องยกนิ้วให้กับ บริษัท เชิดชัย คอร์ปอเรชั่น จํากัด ผู้ให้บริการรถรับส่งพิเศษฟรีตลอดการจัดงาน จากสถานีรถไฟฟ้าหมอชิตถึงเมืองทองธานี เพื่อร่วมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษกรวมทั้ง แกร็บแท็กซี่ ที่มีโปรโมชั่นดีๆ ให้กับผู้ร่วมงานนี้โดยเฉพาะ

Advertisement
ปลัด สธ. (คนกลาง) ร่วมชมงาน

ปลัด สธ.ฝากคนไทยใส่ใจสุขภาพ ป้องโรคก่อนเจ็บป่วย

สิบสามนาฬิกาตรง วันที่ 27 มิถุนายน นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี ขึ้นเวทีเปิดงาน

นพ.สุขุมเอ่ยขอบคุณ “มติชน” และพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนในการทำงานด้านสุขภาพเป็นเวลานาน ทั้งยังให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ พร้อมจัดงานดีๆ อย่าง “เฮลท์แคร์” ต่อเนื่อง ซึ่งนอกจากจะมีกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อผู้รักสุขภาพ ทั้งการให้ความรู้และให้บริการสุขภาพในหลายมิติแล้ว ประชาชนยังได้รับการประเมินตนเองเพื่อการดูแลสุขภาพในอนาคต สอดคล้องกับ สธ.ที่มีนโยบายส่งเสริมให้คนไทยมีองค์ความรู้ด้านสุขภาพ สามารถหันมาใส่ใจสุขภาพของตนเอง ป้องกันโรคก่อนการเจ็บป่วย

“การจัดงานเฮลท์แคร์จึงเป็นการส่งเสริมสนับสนุนภารกิจของ สธ.ที่เน้นการมีส่วนร่วมของประชาชน ชุมชน และสังคมที่มีจิตสำนึกด้านสุขภาพ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพเพื่อลดโรค โดยเฉพาะโรคไม่ติดต่อเรื้อรังอย่างเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และมะเร็ง ผมหวังว่าเมื่อประชาชนมีโอกาสเข้าถึงความรู้ในการดูแลสุขภาพและรับบริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพ ผ่านกิจกรรมในงานที่องค์กรต่างๆ ร่วมกันจัดขึ้นและสร้างสรรค์ความรู้ด้านสุขภาพให้เกิดความน่าสนใจ เข้าใจและปฏิบัติตามได้ง่าย สามารถนำความรู้เหล่านี้ไปดูแลสุขภาพของตนเองและสมาชิกครอบครัวได้ บอกต่อให้คนรอบข้างมีความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง หรือเลือกใช้บริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพได้ด้วยตนเอง เท่านี้ถือว่าบรรลุวัตถุประสงค์ในการจัดงานสมดังแนวคิดงานเฮลท์แคร์ ‘เรียนรู้ สู้โรค’ ของปีนี้แล้ว” ปลัด สธ.กล่าว ก่อนจะทิ้งท้ายว่า

Advertisement

อย่างที่ทราบว่าปัจจุบันคนไทยมีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรคมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมการรับประทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่ อีกทั้งยังนิยมทานของหวาน ของมันและของเค็ม พักผ่อนไม่เพียงพอ มีภาวะเครียด

ดังนั้น การที่จะมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ประชาชนจะต้องหมั่นดูแลสุขภาพของตนเอง

4 วัน ตรวจสุขภาพกว่า 7 พันคน

บอกเลยว่า ทุกกิจกรรมในงานได้รับความสนใจในระดับ “เพอร์เฟ็กต์”

ไม่ว่าจะส่วน “เฮลท์ทอล์ก” ที่ผู้ฟังได้รับความรู้แน่นปึ้ก “เฮลท์แอคทิวิตี้” สร้างชีวิตดีๆ ส่งเสริมสุขภาพแข็งแรง อาทิ ฝึกวิ่งง่ายๆ กับ ครูดิน สถาวร จันทร์ผ่องศรี, มวยไทย สร้างสมรรถภาพร่างกายได้ศิลปะป้องกันตัว กับ สมรักษ์ คำสิงห์ อีกทั้งเหล่าผู้ร่วมงานยังอิ่มท้อง ช้อปเพลิน แถมยังได้บุญ ลุ้นโชค จากกิจกรรมการกุศลรายได้ไม่หักค่าใช้จ่ายมอบให้คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี ม.มหิดล และคณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ขณะที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ร่วมกับกรุงเทพมหานคร จัดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่แก่ 7 กลุ่มเสี่ยง “ฟรี” ประกอบด้วย หญิงมีครรภ์อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป, เด็กอายุ 6 เดือนถึง 2 ปี, ผู้มีโรคเรื้อรังประจำตัว ได้แก่ ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หัวใจ หืด ไตวาย หลอดเลือดสมอง ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการได้รับเคมีบำบัด และเบาหวาน, ผู้สูงอายุที่อายุ 65 ปีขึ้นไป, ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้, โรคธาลัสซีเมียและผู้ที่ภูมิคุ้มกันบกพร่อง รวมทั้งผู้ติดเชื้อ HIV ที่มีอาการ, และโรคอ้วน หรือผู้ที่มีน้ำหนักตั้งแต่ 100 กิโลกรัม หรือดัชนีมวลกายตั้งแต่ 35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร ก็หมดเกลี้ยง! มีผู้เข้ารับบริการทั้งสิ้น 1,061 คน

ไม่ต่างกันกับบูธของคณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี ม.มหิดล ที่มีผู้เข้ารับบริการทางการแพทย์กว่า 1,004 คน แบ่งเป็น ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ จำนวน 743 คน ปรึกษาปัญหาสุขภาพ จำนวน 200 คน และคัดกรองภาวะซึมเศร้าอีก 61 คน

บูธคณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้บริการทันตกรรมครบวงจร มียอดผู้ใช้บริการตลอด 4 วัน จำนวน 743 คน ซึ่งนอกจากจะเป็นประชาชนทั่วไปแล้ว ยังเปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนจากบ้านเด็กอ่อนปากเกร็ดร่วมเข้ารับบริการกว่า 50 คนด้วย เขยิบมาที่บูธโรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องค์กรมหาชน) ครั้งนี้ให้บริการตรวจสายตาด้วยเครื่อง VA, Refraction และ Airpuff กับประชาชนจำนวน 404 ราย รวมทั้งมีผู้ผ่านการคัดกรองได้รับการผ่าตัดต้อเนื้อ จำนวน 6 คน

ส่วนที่ฮอตสุดสุด ได้รับความนิยมตลอดกาลคือ บูธของโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ประชาชนต่อคิวยาวเหยียดรับแจกต้นสมุนไพรเขตร้อน 4 ชนิด วันละ 100 ต้น ได้แก่ คนทีเขมา โกฐจุฬาลัมพา แมงลักคา และต้นว่านน้ำ พร้อมชมนิทรรศการสวนสมุนไพรในสภาวะโลกร้อน เข้าพบทีมแพทย์ขอคำปรึกษาสุขภาพ ตรวจสุขภาพกับแพทย์แผนไทย ตลอดจนสาธิตนวดไทยอภัยภูเบศรที่มีผู้ใช้บริการไม่ขาดสาย

นอกจากนี้ ยังมีผู้สนใจตรวจเต้านมด้วยเครื่องเอกซเรย์แมมโมแกรม ของมูลนิธิถันยรักษ์ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ระหว่างวันที่ 27-29 มิถุนายน อีกกว่า 74 ราย

รวมระยะเวลาการจัดงาน “เฮลท์แคร์ เรียนรู้ สู้โรค 2019” ระหว่างวันที่ 27-30 มิถุนายน 2562 มีผู้ลงทะเบียนเพื่อรับการตรวจสุขภาพ โดยแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์จากโรงพยาบาลรัฐและเอกชน ใน 7 กลุ่มโรค จำนวนกว่า 7,000 คน

สุดยอดงานแฟร์ ‘ฟรี ดี ได้บุญ’

ขณะที่ผู้ร่วมงานเองก็ปลาบปลื้มที่ได้รับการตรวจสุขภาพจากโรงพยาบาลชั้นนำมากมาย เรียกได้ว่า เพียงมางานนี้ จบครบทุกอย่าง

อัญชิษฐา ชาญนอก อายุ 53 ปี ชาวนนทบุรี บอกว่า “เพิ่งมาครั้งแรก” ทั้งนี้ เนื่องจากบ้านอยู่บริเวณเมืองทอง ได้พบป้ายประชาสัมพันธ์งาน ทำให้ตัดสินใจมาร่วมงานในวันสุดท้าย ตั้งใจพาคุณแม่มาทำฟัน ส่วนตนเองนั้นเลือกตรวจสุขภาพในช่องปาก

“ทราบว่าทันตแพทย์ที่มาให้บริการเป็นหน่วยทันตกรรมพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รู้สึกปลาบปลื้มที่เกิดกิจกรรมดีๆ แบบนี้ขึ้น หลังจากตรวจช่องปากเสร็จ คุณแม่มีปัญหาเรื่องกระดูกและเส้นเอ็น ก็ตั้งใจจะไปขอคำแนะนำจากแพทย์ นอกจากนั้นก็สนใจเรื่องสปาตา”

เช่นเดียวกับ ตวงทรัพย์ บุณยะโหตระ อายุ 69 ปี ชาวนนทบุรีที่เพิ่งเข้าร่วมงานมติชน เฮลท์แคร์ครั้งแรก โดยเฉพาะการตัดสินใจร่วมงานวันสุดท้าย ด้วยกลัวว่าวันแรกๆ คนจะมาร่วมงานเยอะ นอกจากนี้ ยังตั้งใจจะมาตรวจสุขภาพเข่า เพราะเข่ามีปัญหา ต้องการรับคำปรึกษาจากแพทย์ ชอบงานนี้มาก เพราะงานมติชน เฮลท์แคร์ เป็นเหมือนศูนย์รวมในเรื่องของสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อส่งเสริมสุขภาพของผู้สูงอายุ นอกจากพบแพทย์แล้ว ก็อยากจะฟังเล็กเชอร์เสริมความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ

เจริญศรี นิกรประเสริฐ อายุ 67 ปี กล่าวว่า ทราบข่าวสารจัดงานจากรายการสุขภาพในโทรทัศน์ สนใจงานเฮลท์แคร์เพราะส่วนตัวชอบงานและกิจกรรมเกี่ยวกับสุขภาพทุกด้าน โดยเฮลท์แคร์ตอบโจทย์ เพราะให้ความรู้ด้านสุขภาพ มีทั้งบริการตรวจสุขภาพและบริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่

“ตั้งใจมาร่วมรับฟังบรรยายบนเวทีเฮลท์ทอล์กเพื่อนำความรู้ไปใช้ดูแลสุขภาพตนเอง ทั้งนี้ ฝากถึงการดูแลสุขภาพว่าอยากให้คนหันมาออกกำลังกายมากขึ้น พร้อมรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ งดทานหวาน มัน เค็ม เพื่อป้องกันโรค”

ชาวนครปฐมอย่าง อนุรดี มิตตกานนท์ อายุ 68 ปี ควงคู่มากับน้องสาว ดวงมณฑ์ รัตนงามกุล อายุ 66 ปี ที่มารอคัดกรองมะเร็งเต้านม ให้ความเห็นว่า งานในลักษณะที่เปิดโอกาสให้ประชาชนมาตรวจสุขภาพฟรีเป็นงานที่ดีและได้บุญ เนื่องจากมีประชาชนส่วนหนึ่งไม่มีโอกาสเข้ารับบริการจากโรงพยาบาลใหญ่ๆ เท่ากับเป็นการช่วยคุณหมอและช่วยประชาชนด้วย

ที่สำคัญคือเรื่องวัยไม่ใช่ปัญหา เพราะ คุณยายเตือนใจ ปิ่นทองอายุ 80 ปี จาก จ.อ่างทอง มาทุกปี เพื่อรับการตรวจสุขภาพและซื้อสมุนไพรจาก รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศรเป็นประจำ สำหรับปีนี้ไม่ได้มีปัญหาสุขภาพใดเป็นพิเศษ แต่อาจต้องคัดกรองโรคเลือด เนื่องจากมีโรคประจำตัวคือโลหิตจาง

“งานตรวจสุขภาพฟรีสำหรับประชาชนที่รวมบริการของหลายโรงพยาบาลไว้ในสถานที่เดียว ทำให้ผู้มาร่วมงานสะดวกสบาย เพราะนอกจากได้ตรวจสุขภาพฟรีแล้ว ยังสามารถซื้อสมุนไพรกลับบ้านได้ด้วย”

ไม่มีอะไรดีกว่าการได้เห็นคนไทยมีสุขภาพดี เตรียมพร้อมป้องกันโรคก่อนเจ็บป่วยอีกแล้ว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image