ที่มา | หน้าประชาชื่น มติชนรายวัน |
---|---|
เผยแพร่ |
หากอยากเข้าใจเอเชีย ก็ควรเข้าใจประเทศไทย หากอยากเข้าใจประเทศไทย ให้ลองดูผลงานภาพถ่ายของ ทอม โพธิสิทธิ์ หนึ่งในช่างภาพแฟชั่นและช่างภาพเชิงพาณิชย์ชาวไทยที่มีชื่อเสียง ผู้ส่งเสริมการสนทนาในประเด็นทางสังคมและสิ่งแวดล้อมผ่านการถ่ายภาพศิลปะและแฟชั่น
ว่ากันว่าโลกของศิลปะไม่ได้เป็นไปตามกฎเกณฑ์เสมอไป เพราะส่วนหนึ่งที่ทำให้งานศิลปะมีความจำเป็นต่อวัฒนธรรม คือ “ผลงานที่ยอดเยี่ยม” และ “ศิลปินที่อยู่เบื้องหลัง” ผู้ไม่ยอมถูกกักขังตามแบบแผน พวกเขาตัดสินใจเองว่าจะสร้างสรรค์งานอย่างไร เมื่อไหร่ และจะแบ่งปันผลงานของพวกเขากับโลกได้อย่างไร
ในฐานะช่างภาพอิสระ ทอม โพธิสิทธิ์ ไม่จำเป็นต้องทำตามกฎ ในทางตรงกันข้าม ด้วยความที่เป็นหนึ่งในเบื้องหลังการถ่ายภาพแฟชั่นที่โด่งดังของประเทศไทยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทอมมักจะตั้งคำถามเกี่ยวกับแนวความคิดเดิมๆ ด้วยรูปภาพที่สร้างแรงสั่นสะเทือนและให้ความรู้สึกที่ลึกซึ้งอยู่เสมอ งานของทอมท้าทายสิ่งที่เป็นอยู่ โดยการมองหามุมที่แตกต่างของวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ ทั้งผู้คน ธรรมชาติ สัตว์ และประวัติศาสตร์ด้านศิลปะ
จากความหลงใหลในเรื่องสิ่งแวดล้อม นำมาสู่ผลงานอันสะท้อนประเด็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อสังคมไทย และโลกในภาพรวม
ทอม โพธิสิทธิ์ล่าสุดมีโครงการ “ศิลปะเพื่อมหาสมุทร” จัดแสดงในงาน TEDxBangkok เป็นการใช้ศิลปะเพื่อให้ความรู้ สร้างแรงบันดาลใจ และสร้างที่อยู่อาศัยใหม่ในทะเล โดยมุ่งเน้นไปที่ปัญหาการอนุรักษ์ทางทะเล ผ่านการสร้างประติมากรรมใต้น้ำที่สามารถเป็นที่อยู่อาศัยและเติบโตของปะการังได้ ผลคือนอกจากจะสร้างช่องทางใหม่ในการหารายได้ให้แก่ชุมชน ยังเป็นการเพิ่มแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ ในประเทศไทย โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการดำน้ำ
อีกทั้งทอมยังเป็นสมาชิกที่มีบทบาทของ “The Flying Scouts” และมหาสมุทรพาโทรล องค์กรเอกชนที่ไม่แสวงหาผลกำไร ผู้ให้ความช่วยเหลือโครงการอนุรักษ์สัตว์ทะเลหายากที่ใกล้สูญพันธุ์หลายชนิดในไทย
จากความเชื่อที่ว่า “คนรุ่นใหม่สนใจเรื่องการอนุรักษ์สัตว์และธรรมชาติ” แต่ยังขาดความเชื่อมโยงระหว่างความจริงของการดำรงชีวิตที่น่าเบื่อในแต่ละวัน กับสิ่งที่ไม่สามารถควบคุมได้

ทอมยังคงมองโลกในแง่ดีว่า เขาสามารถกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ ผ่านวิธีสร้างการรับรู้และสร้างแรงบันดาลใจ ให้ผู้อื่นคำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน
“ผมเชื่อว่าทุกคนเกิดมาพร้อมกับของขวัญอย่างน้อยหนึ่งชิ้น ขึ้นอยู่กับเราที่จะใช้ของขวัญชิ้นนั้นในทางที่ดีหรือไม่ดี และผมแค่ต้องการใช้การถ่ายภาพเป็นเครื่องมือในการเชื่อมทุกสิ่งที่มีความเชื่อมโยงกันไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เพื่อสร้างความแตกต่างในโลกที่เราอาศัยอยู่ด้วยกันนี้”
อีกตัวอย่างของศิลปะที่แสดงออกอย่างมีเอกลักษณ์ ทอม ร่วมมือกับผู้จัดงาน “Wonderfruit Festival” ซึ่งจัดขึ้นในฐานะเทศกาลดนตรีและศิลปะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศไทยตลอดระยะเวลา 3 วัน โดยสร้าง “The Little Monsters” ที่มีความยาว 3 เมตร และ “The Bigger Monsters” ที่ทำมาจากขยะซึ่งเก็บจากทะเล ก่อร่างสร้างเป็นผลงานหลายชิ้นเพื่อจัดแสดงภายในเทศกาลดนตรี
“The Last Farewhale” นับเป็นผลงานอีกชิ้นที่ท้าทายความคิดอย่างมาก “ในการถ่ายภาพนางแบบกับวาฬที่ตายแล้ว”
“ทุกคนบอกผมว่าผมบ้า ในตอนนั้นผมได้เริ่มเป็นอาสาสมัครของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เพื่อศึกษาประชากรและพฤติกรรมของวาฬบรูด้าในบริเวณอ่าวไทยตอนบน คนไทยส่วนใหญ่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเรามีวาฬในประเทศไทย ผมต้องการให้ผู้คนตระหนักว่าเรามีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทางทะเลที่น่าทึ่งเหล่านี้ และช่วยผลักดันสถานะของวาฬบรูด้าให้เป็นสัตว์คุ้มครอง” ทอมย้ำจุดยืน
ในอีกมุม ทอมยังหลงใหลในการสนับสนุนสมาชิกกลุ่ม LGBTQI
“ด้วยเพศของผมที่เป็นเช่นนี้ มันช่วยส่งเสริมผลงานของผมและโดยปกติผมเป็นมิตรมาก ซึ่งใครก็ตามที่ได้พูดคุยกับผมก็คิดแบบนี้”
“ถ้าผมสามารถเลือกที่จะเป็นชายจริงหญิงแท้ได้ ผมก็เลือกที่จะไม่เปลี่ยน เพราะมันเป็นส่วนผสมที่ลงตัวอยู่แล้ว เรารู้ว่าพวกเราบางคนมีสิ่งที่ควรปรับปรุง แต่ไม่ใช่เรื่องเพศ เพราะเราไม่ใช่คนเลวและไม่จำเป็นต้องทนทุกข์กับเรื่องนี้” ทอมกล่าวทิ้งท้าย