ที่มา | เสาร์ประชาชื่น มติชนรายวัน |
---|---|
ผู้เขียน | ชนากานต์ ปานอ่ำ |
เผยแพร่ |
ไม่รู้จะกล่าวอะไรได้อีก นอกจาก “เป็นความโชคดีของชาวอีสาน”
เพราะทั้งเวที ไทยแลนด์ลูกทุ่งคอนเทสต์ 2020 การประกวดหาสุดยอดวงดนตรีเยาวชน และเวที คาราบาวบึงกาฬลั่นทุ่ง 2020 ครั้งแรกกับการเฟ้นหาสุดยอดนักร้อง ล้วนมีขึ้นเพื่อพี่น้องชาวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งจัดรวมกันอยู่ใน งานวันยางพาราบึงกาฬ 2563 : บึงกาฬโมเดล 2020 ช่วงวันที่ 12-18 ธันวาคมที่จะถึงนี้
โดยเฉพาะ “คาราบาวบึงกาฬลั่นทุ่ง 2020” ที่ บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ตั้งใจสร้างพื้นที่แสดงออกครั้งใหม่ เปิดโอกาสให้พี่น้องชาวบึงกาฬ ภาคอีสานตอนบน รวมทั้งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ที่มีอายุตั้งแต่ 15-60 ปี หรือผู้ที่มีไฟฝัน พร้อมโชว์ลูกคอ และพกพาความมั่นใจมาล้นกระเป๋า เข้าร่วมประกวดแข่งขัน ซึ่งเปิดออดิชั่นพร้อมกันไปแล้วในวันจันทร์ที่ 2 ธันวาคม 2562
วันนั้น มีผู้สนใจร่วมออดิชั่นกว่า 100 คน ประกอบด้วยพี่น้องหลากหลายจังหวัด อาทิ บึงกาฬ, เลย, หนองคาย, อุดรธานี, สกลนคร, มุกดาหาร รวมทั้ง สปป.ลาว
มาถึงวันนี้ 30 ผู้โชคดีที่ผ่านการออดิชั่นคงทราบผลจากทางโทรศัพท์ หรือตรวจสอบรายชื่อเพื่อความมั่นใจจากเว็บไซต์ www.matichon.co.th และ www.buengkan.go.th แล้วเรียบร้อย
ทั้งสองเวทีดังกล่าวได้รับเกียรติจากคณะกรรมการทรงคุณวุฒิร่วมทำการตัดสินรอบชิงชนะเลิศ ทั้ง “ครูสลา คุณวุฒิ”, “ครูเทียม-ชุติเดช ทองอยู่” และ “ครูเรืองยศ พิมพ์ทอง”
คาราบาวบึงกาฬลั่นทุ่ง 2020
เฟ้นหาสุดยอดนักร้องเสียงอีสาน
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เวที “ไทยแลนด์ลูกทุ่งคอนเทสต์” ซึ่งจัดขึ้นใน “งานวันยางพาราบึงกาฬ” กลายเป็นสนามการประกวดวงดนตรีลูกทุ่งเยาวชนสุดยิ่งใหญ่และดุเดือดระดับประเทศ
จากเดิม ผู้เข้าแข่งขันเวทีนี้จะประกอบด้วยวงดนตรีเยาวชนจากทั่วประเทศ แต่เพื่อให้ปี 2020 หรือพุทธศักราช 2563 พิเศษยิ่งกว่า คณะผู้จัดงานวันยางพาราบึงกาฬอย่างจังหวัดบึงกาฬ องค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬ ภาครัฐและเอกชนอีกหลายแห่ง ตลอดจน “คาราบาว” ผู้สนับสนุนหลักการประกวดแข่งขันดนตรี ได้กำหนดคุณสมบัติผู้เข้าแข่งขันใหม่ โดยให้อยู่ใน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เท่านั้น
จวบจนวันนี้มี 8 วงดนตรีที่พร้อมแข่งขันต่อในรอบคัดเลือก วันที่ 14 ธ.ค.62 จำนวน 3 วง และวันที่ 15 ธ.ค.62 อีก 5 วง โดย 4 วงที่มีคะแนนสูงสุดจะได้เข้าไปชิงชนะเลิศวันที่ 16 ธ.ค.62 ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 400,000 บาท
ช้าก่อน ความพิเศษยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะสปอนเซอร์หลักใจดี๊ ใจดี “คาราบาว” ยังเปิดการแข่งขันใหม่ในชื่อ “คาราบาวบึงกาฬลั่นทุ่ง 2020” เฟ้นหานักร้องลูกทุ่งหน้าใหม่ ปิดรับสมัครและประกาศผลออดิชั่นไปเรียบร้อยแล้ว โดยทั้ง 30 คนที่ผ่านเข้ารอบจะต้องแข่งขันรอบคัดเลือกให้เหลือเพียง 10 คน ในวันที่ 14 ธ.ค.62 จากนั้นจะไปชิงชนะเลิศกันในวันที่ 16 ธ.ค.62 ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 60,000 บาท
กมลดิษฐ สมุทรโคจร รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.คาราบาวกรุ๊ป บอกว่า คาราบาวจัดกิจกรรมการประกวดดนตรีมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการแข่งขัน “ไทยแลนด์ลูกทุ่งคอนเทสต์” ซึ่งจากเดิมนำแชมป์จากหลายจังหวัดมาร่วมแข่งขันกัน แต่ปีนี้มีความพิเศษเพราะจำกัดเฉพาะภาคอีสานเท่านั้น นอกจากนี้ ปีนี้ยังเป็นปีแรกที่ได้จัดการแข่งขัน “คาราบาวบึงกาฬลั่นทุ่ง 2020” เพราะต้องการสนับสนุนให้คนกล้าแสดงออก
“ทุกครั้งที่จัดงานได้รับความสำเร็จมหาศาล ซึ่งการจัดงานแต่ละครั้งเราทำให้เกิดความแตกต่างและมีความพิเศษขึ้นเรื่อยๆ ปีนี้เป็นปีแรกที่เราจัดการแข่งขัน ‘คาราบาวบึงกาฬลั่นทุ่ง 2020’ อยากสนับสนุนให้คนกล้าแสดงออก ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ที่สำคัญที่สุดคือจะส่ง ‘คาราบาว’ เต็มวง ร่วมมอบความสนุกให้ชาวบึงกาฬตั้งแต่วันแรกของการจัดงาน”
ทั้งหมดนี้ก็เพื่อตอบแทนงานวันยางพาราบึงกาฬ พันธมิตรของ “คาราบาว” ที่ร่วมสนับสนุนมาโดยตลอด และอีกยาวไกลนับต่อจากนี้
เมื่อ ‘โอกาส’ มาใกล้ อย่าปล่อยให้หลุดลอย
อย่างที่กล่าวไปตอนต้นว่า เป็นความโชคดีของชาวอีสานจริงๆ ที่มี 2 เวทีประกวดแข่งขันดนตรีลูกทุ่งเกิดขึ้น โดยเฉพาะเวทีประกวด “นักร้อง” ยิ่งเป็นบิ๊กเซอร์ไพรส์ ขนาดครูเพลงลูกทุ่งและโปรดิวเซอร์ชื่อดัง สลา คุณวุฒิ กล่าวยืนยันด้วยตัวเอง
ครูสลาบอกว่า ในภาคอีสานนั้น เวทีการประกวดแข่งขันยิ่งใหญ่ที่จัดให้คนทั่วไปรับรู้ยังไม่มีอย่างเป็นทางการ ทว่า ในห้างสรรพสินค้าหรือหน่วยงานท้องถิ่นพอมีจัดบ้าง แต่ประเภทที่จัดแล้วประกาศให้คนรับรู้ในวงกว้าง หรือระดับประเทศนับว่ายังน้อย หรือไม่มีเลย ดังนั้น การที่คาราบาวจัดการประกวดหานักร้อง “คาราบาวบึงกาฬลั่นทุ่ง 2020” ซึ่งเป็นงานใหญ่ระดับประเทศ แม้ว่าจะจัดงานที่ จ.บึงกาฬ ก็ตาม แต่ก็นับเป็นบันไดขั้นสำคัญในการก้าวเป็นศิลปินของหลายๆ คน
“ชื่องาน ‘ลั่นทุ่ง’ มีความหมายอยู่ในตัวคือมีความเป็นไทย และ ‘ทุ่ง’ หมายถึงเพลงลูกทุ่ง ครูอยากให้การประกวดร้องเพลงลูกทุ่งเวทีนี้เป็นไปตามชื่องาน นั่นหมายความว่าดังก้อง ดังไกล สำคัญที่สุดคือการดังก้องในหัวใจของผู้เข้าแข่งขัน แน่นอนว่าเหตุผลหลักในการจัดการประกวดคือการชนะเลิศที่ 1-3 แต่ที่ได้มากกว่านั้นคือ ‘แรงบันดาลใจ’ บางครั้งหลายคนที่เข้าร่วมแข่งก็ตกรอบ แต่อยู่มาวันหนึ่งเขากลายเป็นนักร้อง นักแต่งเพลง นั่นแสดงว่าพื้นที่การประกวดได้ให้อะไรกับเขาพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นบวกหรือลบกับความรู้สึกเขา ณ ขณะนั้นก็ตาม
“นานๆ จะมีการประกวดร้องเพลงระดับชาติไปเปิดพื้นที่ใกล้ชิดเรา โดยเฉพาะพี่น้องชาวภาคอีสาน พี่น้องชาว สปป.ลาว หรือใกล้เคียง นานๆ โอกาสแบบนี้จะเคลื่อนมาหาเรา ฉะนั้นอย่าได้เสียโอกาส อยากให้ทุกคนที่มีไฟ มีฝัน อยากให้ลงมือทำ ไม่ว่าครั้งหนึ่งในชีวิตจะบวกหรือลบอย่างไรก็อยากให้จบที่การแสดงออก”
ดึงกรรมการตัวท็อป คัดสรรเพชรเม็ดงาม
ด้าน ครูเทียม-ชุติเดช ทองอยู่ คอมเมนเตเตอร์ชื่อดัง ผู้คร่ำหวอดในวงการลูกทุ่ง มองปรากฏการณ์เวทีการประกวดแข่งขันดนตรีลูกทุ่งที่ ณ ปัจจุบันนี้มีอยู่มากมายว่า แม้การประกวดหรือรายการต่างๆ มีเยอะ แต่คนดูก็ยังให้การตอบรับอยู่ เนื่องจากแต่ละแห่งย่อมมีอรรถรส มีเรื่องราวที่แตกต่างกัน เสมือนกีฬา “มวย” ที่ไม่ว่านักมวยจะชกกันบ่อยแค่ไหน กองเชียร์ก็ยังตามลุ้น เพราะลีลาการออกหมัดแต่ละคนไม่เหมือนกัน
เช่นเดียวกับ “วงการลูกทุ่ง” ที่ไม่ว่าเวทีประกวดจะเยอะขนาดไหน ดูเหมือนจะน่าเบื่อ ทว่าเต็มไปด้วยความสร้างสรรค์และท้าทาย หากผู้จัดรายไหนคิดเรื่องราวได้เหนือกว่าก็ชนะไป ตอบโจทย์คนดูได้แน่นอน
สำหรับ “คาราบาวบึงกาฬลั่นทุ่ง 2020” ครูเทียมยังเอ่ยชื่นชมแนวความคิด “คาราบาว” เหตุเพราะเวทีดังกล่าวเป็นการเปิดพื้นที่ให้กับพี่น้องชาวอีสานที่มีฝัน หรืออยากเดินในเส้นทางลูกทุ่ง เพื่อให้ชีวิตของตัวเองดีขึ้น
“ทุกความสามารถมีเป้าหมาย แต่คนที่มีเป้าหมายเรื่องการร้องเพลงและอยู่แถบอีสานก็ไม่สะดวกเข้าไปในกรุงเทพฯ เพราะมีค่าใช้จ่ายสูง ต้องยอมรับว่าที่บึงกาฬจัดงานได้ค่อนข้างมาตรฐาน คณะกรรมการที่ไปก็เป็นมือต้นๆ ของประเทศ ครูมองว่าการตอบรับเวทีนี้ต้องดี เพราะเวทีใหญ่ๆ ไม่เกิดขึ้นในแถบนั้นเลย ที่กล้าพูดเพราะในสายงานคณะกรรมการที่เป็นตัวท็อปก็ไม่เคยไปแถวนั้นเหมือนกัน แต่ที่ ‘คาราบาวบึงกาฬลั่นทุ่ง 2020’ ทุกคนจะได้เจอกับกรรมการที่อยู่ในรายการดังๆ ของประเทศไทย เข้าไปนั่งตัดสินเลือกเพชรเม็ดงามที่บึงกาฬแน่นอน
“ทุกงานที่เกิดขึ้นย่อมมีเป้าหมายตรงกันคือเพื่อให้คนมีโอกาส ให้คนได้ใช้ความสามารถเฉพาะตัว บางคนเก่งกรีดยางก็ไปแข่งกรีดยาง บางคนเก่งเรื่องดนตรี ก็มีวงดนตรีแข่งขัน ใครร้องเพลงได้อย่างเดียว ก็แข่งขันกันเรื่องร้องเพลง ได้เงินรางวัลพอต่อชีวิต พอได้หายใจในเศรษฐกิจแบบนี้”
นับจากวันนี้เป็นต้นไป เหลือเวลาอีกไม่ถึง 10 วันที่ผู้เข้าแข่งขันจะได้โอกาสปล่อยของ ผู้ชมจะได้พบความสนุกสนานจาก 2 เวทีแข่งขันดุเดือด ทั้ง “ไทยแลนด์ลูกทุ่งคอนเทสต์” และ “คาราบาวบึงกาฬลั่นทุ่ง” ในงานวันยางพาราบึงกาฬ 2563