เชื่อมปุ๊บวิ่งปั๊บ! ‘ปลั๊ก แอนด์ โก วีลแชร์’ ล้อเสริมมอเตอร์ติดสปีด เพื่อคุณภาพชีวิตผู้พิการ

การติดตั้งหัวลากมอเตอร์เข้ากับวีลแชร์

นับเป็นข่าวดีสำหรับผู้พิการ และผู้สูงอายุ เมื่อคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดตัวนวัตกรรม ปลั๊ก แอนด์ โก วีลแชร์ (Plug & Go Wheelchair) ล้อเสริมมอเตอร์ติดสปีดวีลแชร์ ที่ช่วยให้การใช้ชีวิตนอกบ้านของ “สูงวัย-ผู้พิการ” เป็นเรื่องง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น อีกทั้งไม่เหนื่อยล้าแม้เส้นทางจะขรุขระหรือลาดชัน เพียงแค่ “ปลั๊ก” เชื่อมล้อเสริมเข้ากับวีลแชร์ และ “โก” ด้วยการกดปุ่มสตาร์ตที่แผงควบคุมพร้อมออกแรงบิด

นวัตกรรมดังกล่าว ยังสามารถคว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 จากเวทีประกวดนวัตกรรมผู้สูงอายุและคนพิการ เมื่อไม่นานมานี้ ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพค เมืองทองธานี จ.นนทบุรี ที่มาพร้อม 3 สเตป คือ เดินหน้า อยู่กับที่ และถอยหลัง

เมธาสิทธิ์ เกียรติ์ชัยภา นักศึกษาชั้นปีที่ 4 ภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ ตัวแทนทีมพัฒนานวัตกรรม “ปลั๊ก แอนด์ โก วีลแชร์” เผยว่า ทีมวิจัยได้พัฒนา “ปลั๊ก แอนด์ โก วีลแชร์” นวัตกรรมล้อเสริมมอเตอร์ ที่ช่วยเร่งสปีดวีลแชร์ให้ขับเคลื่อนได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น เพียงแค่เชื่อมล้อเสริมเข้ากับคานอะลูมิเนียมใต้วีลแชร์ และกดปุ่มสตาร์ตที่แผงควบคุม พร้อมออกแรงบิด เพื่อช่วยให้ผู้สูงอายุและผู้พิการสามารถเริ่มต้นใช้ชีวิตหรือหาประสบการณ์นอกบ้านได้อย่างมั่นใจ อีกทั้งไม่เหนื่อยล้าแม้เส้นทางจะขรุขระหรือลาดชัน

โดยนวัตกรรมดังกล่าว ประกอบด้วย 3 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ 1.คานแนวนอนใต้วีลแชร์ คานอะลูมิเนียมแนวนอน สำหรับติดตั้งใต้วีลแชร์ เพื่อรองรับการเชื่อมต่อกับหัวลากล้อมอเตอร์ 2.หัวลากล้อมอเตอร์ ล้อเสริมมอเตอร์ ที่มาพร้อมความสามารถในการขับขี่ด้วยความเร็วที่ 23 กิโลเมตร/ชั่วโมง แบตเตอรี่ที่ช่วยให้วีลแชร์สามารถวิ่งได้ไกลถึง 18 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (หรือประมาณ 3-4 ชั่วโมง) และคานแนวตั้งสำหรับเชื่อมต่อกับคานแนวนอนใต้วีลแชร์ ที่ผู้ป่วยสามารถติดตั้งได้ด้วยตนเองใน 6 วินาที และ 3.คอนโทรลเลอร์ควบคุมทิศทาง แผงควบคุมทิศทางใน 3 ระดับคือ เดินหน้า-อยู่กับที่-ถอยหลัง พร้อมแสดงผลเป็นตัวเลข “1” เดินหน้า “0” อยู่กับที่ และ “2” ถอยหลัง

Advertisement
เมธาสิทธิ์ เกียรติ์ชัยภา

นอกจากนี้ ทีมวิจัยยังได้นำหลักการรีดีไซน์ หรือการออกแบบใหม่มาประยุกต์ใช้กับ “ปลั๊ก แอนด์ โก วีลแชร์” โดยเลือกใช้วัสดุอะลูมิเนียมทดแทนการใช้เหล็ก ใน 2 ส่วนคือ คานอะลูมิเนียมใต้วีลแชร์ และอุปกรณ์เชื่อมต่อหัวลากล้อมอเตอร์ ด้วยคำนึงถึงเรื่องน้ำหนักเป็นสำคัญ สู่การลดการใช้แรงของผู้ป่วย ควบคู่ไปกับการลดต้นทุนการพัฒนานวัตกรรม

ทั้งนี้ นวัตกรรมดังกล่าวสามารถนำมาติดตั้งกับวีลแชร์คันเดิมของผู้ป่วยได้ทันที อีกทั้งยังสามารถเลือกถอดประกอบได้ด้วยตนเอง กรณีจำเป็นต้องพับวีลแชร์เข้ารถยนต์ส่วนตัว ตลอดจนรถแท็กซี่ได้อย่างสะดวก และรวดเร็วใน 5 นาที

อย่างไรก็ดี นวัตกรรม “ปลั๊ก แอนด์ โก วีลแชร์” (Plug & Go Wheelchair) ได้รับการ จดสิทธิบัตรในนาม “มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์” เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีต้นทุนในการพัฒนาประมาณ 20,000 บาท และมีแผนจัดจำหน่ายเชิงพาณิชย์ในราคา 28,000 บาท โดยที่ผ่านมา ได้รับรางวัลเหรียญเงิน ในสาขาวิศวกรรมการแพทย์ และอุปกรณ์สำหรับคนพิการ รวมถึงรางวัลพิเศษ (Special Award) จากประเทศไต้หวัน จากเวทีประกวดนวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์นานาชาติ ครั้งที่ 40 (40th International Exhibition of Inventions of Geneva) ณ กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และล่าสุด สามารถคว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 จากเวทีประกวดนวัตกรรมผู้สูงอายุและคนพิการ (Thailand Friendly Design Expo 2019) ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี นายเมธาสิทธิ์กล่าวทิ้งท้าย

Advertisement

ด้านที่ปรึกษางานวิจัยอย่าง ผศ.ดร.บรรยงค์ รุ่งเรืองด้วยบุญ หัวหน้าศูนย์ความเป็นเลิศด้านการออกแบบและพัฒนาต้นแบบทางวิศวกรรมอย่างสร้างสรรค์ (CED2) และหัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มองว่า การเปลี่ยนบรรยากาศด้วยการท่องเที่ยว หรือการพาตัวเองเดินทางไปยังสถานที่ที่โปรดปราน ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้บุคคลเกิดความรู้สึกผ่อนคลาย และลดความตึงเครียดได้เป็นอย่างดี เฉกเช่น “ผู้ป่วยหรือผู้พิการ” ที่ต้องอาศัยวีลแชร์ในการเดินทาง และมีข้อจำกัดในการดำเนินชีวิต ที่ในบางครั้งไม่สามารถเดินทางหรือใช้ชีวิตนอกบ้านได้อย่างสะดวก

ผศ.ดร.บรรยงค์ รุ่งเรืองด้วยบุญ

“การพัฒนานวัตกรรมหรือเทคโนโลยีที่ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถใช้ชีวิตหรือพึ่งพาตนเองได้มากที่สุด ย่อมเป็นสิ่งที่สร้างคุณค่าทางจิตใจและยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยให้สามารถฟื้นฟูร่างกายได้เร็วขึ้นในอนาคต”

คืออีกหนึ่งทางเลือกของผู้สูงอายุและผู้พิการ ในการดำเนินชีวิตภายนอกบ้านด้วยตนเองได้อย่างสะดวก และนับเป็นการตอกย้ำการเป็น “มหาวิทยาลัยเพื่อประชาชน” ที่มุ่งบูรณาการองค์ความรู้หลากสาขา สู่การพัฒนาเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image