ที่มา | หน้าประชาชื่น มติชนรายวัน |
---|---|
ผู้เขียน | พรรณราย เรือนอินทร์ |
เผยแพร่ |
พุทธศักราช 2563 รัตนโกสินทรศก 238
นับเป็นเวลาครบรอบ 150 ปีแห่งการสถาปนาอารามสำคัญแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ อันมีนามว่า “วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม”
มงคลนามที่มีความหมายลึกซึ้ง
ราชบพิธ มีความหมายว่า พระเจ้าแผ่นดินทรงสร้าง
สถิตมหาสีมาราม มีความหมายว่า อารามอันมีเขตสีมากว้างใหญ่
22 มกราคม พ.ศ.2412 “ก่อพระฤกษ์” วัดราชบพิธ
“วันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ.2413 เริ่มพระราชพิธีสวดผูกพัทธสีมา 3 วัน ถึงวันที่ 19 พฤษภาคม เวลายาม 1 กับ 30 นาที เป็นพระฤกษ์ผูกเสมาเต็มเนื้อที่วิสุงคามสีมา ที่มีกำแพงตั้งสีมาทั้ง 8 ทิศ เป็นที่หมาย สีมาของวัดนี้เป็นมหาสีมา
…วันที่ 2 มกราคม พ.ศ.2416 ยกช่อฟ้าใบระกาพระอุโบสถ”
คือถ้อยความจากพระนิพนธ์ใน พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า เกี่ยวกับเรื่องราวการสร้างถาวรวัตถุสำคัญชิ้นแรกๆ ของวัดราชบพิธไว้ในหนังสือ “แถลงการณ์คณะสงฆ์” เล่มที่ 11 พ.ศ.2466
เป็นวัดประจำรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ปัจจุบัน วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม คือพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร ตั้งอยู่แขวงวัดราชบพิธ เขตพระนคร กรุงเทพฯ
เป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราชแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ 3 พระองค์ คือ พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 11 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ (รัชกาลที่ 6 รัชกาลที่ 7 และรัชกาลที่ 8)
สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (วาสนมหาเถร) สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 18 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ (รัชกาลที่ 9)
วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2560 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ สถาปนา สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ เจ้าอาวาสวัดราชบพิธ เป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 20 และเป็นองค์ที่ 3 ของวัดราชบพิธ
เมื่อเวลา 16.57 น.วันที่ 21 มกราคมที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เสด็จแทนพระองค์ไปทรงถวายเครื่องราชอิสริยาภรณ์ อันเป็นโบราณมงคล นพรัตนราชวราภรณ์ เป็นพุทธบูชาแด่พระพุทธอังคีรส และทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสมโภชวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ครบ 150 ปี แห่งการสถาปนา ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม
ในศุภมงคลสมัยแห่งการสถาปนาอารามแห่งนี้ พุทธศาสนิกชนต่างพร้อมใจแต่งชุดไทยตามประเพณีเข้าร่วมงานสมโภชซึ่งมีขึ้นตั้งแต่วันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา จนถึง 2 กุมภาพันธ์นี้
เข้ากราบสักการะพระพุทธอังคีรส พระประธานในพระอุโบสถ งดงามเปล่งปลั่งด้วยทองคำจากเครื่องแต่งพระองค์เมื่อทรงพระเยาว์ของรัชกาลที่ 5 นำมากาไหล่เป็นทองเนื้อ 8 หนัก 180 บาท
กราบพระบรมอัฐิพระบรมราชสรีรางคารตั้งแต่รัชกาลที่ 1 จนถึงรัชกาลที่ 9 เข้าชมสุสานหลวงอันมากมายด้วยความทรงจำในราชสำนักสยาม
เรียนรู้ถึงความเป็นมาของอารามแห่งนี้ ผ่านนิทรรศการ “กาลานุกรม วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม 2412-2563” ซึ่งจัดขึ้นบริเวณระเบียงรอบพระอุโบสถ อันประกอบด้วยเรื่องราวนับแต่การสถาปนาวัดในสมัยรัชกาลที่ 5 อีกทั้งเหตุการณ์สำคัญในปีต่างๆ ทุกรัชกาลจวบจนปัจจุบัน พระนามและนามเจ้าอาวาส รวมถึงภาพถ่ายเอกสารประวัติศาสตร์ และอีกมากมาย
ไม่เพียงเท่านั้น โบราณวัตถุล้ำค่ายิ่งของวัดยังถูกนำออกจัดแสดงสู่สายตาประชาชน พร้อมข้อมูลพร้อมพรั่งที่ชวนให้ย้อนจินตนาการถึงห้วงเวลาในอดีตที่ผ่านพ้น
พัดรองที่ระลึกงานพระราชกุศลถวายฉลองพระเดชพระคุณ ในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พัดรอง และฝาบาตรมุกที่ระลึกงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ 5, นาฬิกาที่ระลึกในการสมโภชพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท, นาฬิกาเปรีศ ที่รัชกาลที่ 5 ถวายพระเถระในการทรงผนวช, พระไตรปิฎกบาลี อักษรสยาม ร.ศ.112, ไทยธรรม ที่ระลึกงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมโภช พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
เหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของวัตถุชิ้นเอกอันเปี่ยมด้วยความหมาย
บริเวณลานรอบพระอุโบสถยังจัดแสดงภาพและข้อมูลของสิ่งปลูกสร้างสำคัญ และพระบรมราชานุสาวรีย์ภายในวัดราชบพิธ รวมถึงนิทรรศการความเป็นมาและพัฒนาการของโรงเรียนวัดราชบพิธ
อีกส่วนหนึ่งที่ได้รับความสนใจอย่างมากคือ นิทรรศการ “โครงการศูนย์ปฏิบัติธรรมสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก” ซึ่งจะจัดสร้างขึ้นบริเวณคลองเก้า ตำบลลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี โดยมีการเปิดรับบริจาคให้ประชาชนร่วมทำบุญตามศรัทธา
และแน่นอนว่า ความพิเศษยิ่งคือช่วงเวลาที่ทางวัดเปิดให้เยี่ยมชมสถาปัตยกรรมต่างๆ ซึ่งหลายจุดไม่เปิดให้เข้าถึงได้ในช่วงเวลาปกติ นอกจากนี้ยังสามารถสัมผัสบรรยากาศโดยรอบวัดทั้งเวลากลางวันอันสดใส และกลางคืนอันสว่างไสวด้วยแสงไฟตระการตา ขับให้สีสันของกระเบื้องเบญจรงค์ซึ่งประดับทั้งเขตพุทธาวาสอันเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์ทางศิลปกรรมยิ่งโดดเด่น
เขตพุทธาวาส ประกอบด้วยสิ่งปลูกสร้างต่างๆ อาทิ พลับพลาเปลื้องเครื่อง ซึ่งเป็นศาลาโถง หน้าบันจำหลักลายตราราชวัลลภ, พระเจดีย์ทรงระฆัง ซึ่งมีปลียอดประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ, พระอุโบสถ งดงามด้วยลวดลายบนบานประตูหน้าต่างประดับมุก ทุกบานผูกลายเครื่องราชอิสริยาภรณ์ 5 ดวง อกเลาของบานประตูมุก ผูกเป็นอักษรพระปรมาภิไธย “จปร” เพดานภายในเป็นซุ้มโค้งแหลมแบบโกธิก, วิหาร มีรูปแบบเดียวกับพระอุโบสถ แต่บานประตูหน้าต่างเป็นไม้จำหลักลวดลายดวงตราเครื่องราชอิสริยาภรณ์
อาคารทุกหลังในเขตพุทธาวาสประดับด้วยกระเบื้องเคลือบเบญจรงค์ซึ่งพระอาจารย์แดง วัดหงส์รัตนาราม เป็นผู้ให้แบบลาย แล้วสั่งทำจากประเทศจีน ซุ้มประตูทางเข้าเขตพุทธาวาสมีบานประตูรูปทวารบาลแต่งกายแบบทหารยุโรป
เขตสังฆาวาส ประกอบด้วย ตำหนักอรุณ ซึ่งเป็นกุฏิเจ้าอาวาส เริ่มก่อสร้างเมื่อ พ.ศ.2413 ในสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นอาคาร 3 ชั้น
พระที่นั่งสีตลาภิรมย์ เป็นเก๋งจีน 3 ชั้น ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์เก็บโบราณวัตถุทรงคุณค่าซึ่งเป็นสมบัติของวัด และของใช้ส่วนพระองค์ของสมเด็จพระสังฆราช 2 พระองค์ก่อนหน้า
ในโอกาสครบรอบ 150 ปี วันสถาปนาวัดราชบพิธฯ ได้ขอบรมราชานุญาตในหลวงรัชกาลที่ 10 จัดทำภาพจิตรกรรมฝาผนังที่ทำจากกระเบื้องโมเสกภายในพระอุโบสถ ตรงช่องอุณาโลม บอกเล่าพระราชประวัติของรัชกาลที่ 5 และพระราชกรณียกิจต่างๆ ตามพระราชประสงค์ของรัชกาลที่ 5 ซึ่งปรากฏในพระราชบันทึกของรัชกาลที่ 7 ว่าเป็นพระราชประสงค์ของพระราชบิดา ให้จัดทำพระราชประวัติขึ้น
เป็น 150 ปี แห่งความงดงามที่ไม่ใช่เพียงศิลปะและสถาปัตยกรรม หากแต่เป็นความงดงามด้วยพลังแห่งศรัทธาและคุณความดีตลอดทุกวินาทีที่ผ่านพ้นไป จากเมื่อวานจนถึงวันนี้
ศุภมงคลสมัย 150 ปีแห่งการสถาปนา
วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม
ตั้งแต่วันที่ 23 มกราคม-2 กุมภาพันธ์ วันจันทร์-วันพฤหัสบดี เวลา 09.00-21.00 น.
วันศุกร์-วันอาทิตย์ เวลา 09.00-22.00 น.
ภายในงานมีกิจกรรมนิทรรศการแสดงเครื่องราชสักการะที่ได้รับพระราชทานถวายในโอกาสต่างๆ และสิ่งของเครื่องใช้ของอดีตเจ้าอาวาส นิทรรศการ “นำชมวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม” ให้ข้อมูลความรู้ทางศิลปสถาปัตยกรรม ภายในวัด แสงเสียงและสื่อผสม ห้องภาพ “ฉายานิติกร” นิทรรศการโครงการสถานปฏิบัติธรรมสมเด็จพระสังฆราช (อมฺพรมหาเถร) และของที่ระลึกเนื่องในศุภมงคลสมัย 150 ปีแห่งการสถาปนาวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม
สำหรับนิทรรศการแสดงเครื่องราชสักการะที่ได้รับพระราชทานถวายในโอกาสต่างๆ และสิ่งของเครื่องใช้ของอดีตเจ้าอาวาสในทุกยุค จัดแสดงสิ่งของเครื่องใช้สำคัญ, ข้อมูลความรู้ทางสถาปัตยกรรมภายในวัด ซึ่งมีความวิจิตรงดงามโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมสะท้อนความเป็นไทย
ห้องภาพฉายานิติกร ให้บริการถ่ายภาพด้วยฉากขึ้นมาใหม่จากมุมสถาปัตยกรรมภายในวัดราชบพิธ ราคา 99 บาท เป็นรอบๆ วันศุกร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น. ที่อาคารภุชงค์ประทานวิทยาสิทธิ์ 2 รายได้ทั้งหมดบำรุงพระอาราม วัดราชบพิธฯ