| ที่มา | หน้าประชาชื่น มติชนรายวัน |
|---|---|
| ผู้เขียน | พันธุ์ทิพย์ ธีระเนตร-เรื่อง, อธิษฐาน จันทร์กลม-ภาพ |
| เผยแพร่ |
นับเป็นสัญญาณบวกที่ชวนสะดุ้งเบาๆ เมื่อมีข่าวสายการบินจีนประสานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยติดต่อขอเหินฟ้าเข้าราชอาณาจักรไทยในเดือนพฤษภาคมนี้ ผนวกกับภาพชุดมวลมหาประชาชนจีนที่พากันออกเดินทางไปท่องเที่ยวอย่างเนืองแน่นในสถานที่ต่างๆ หลังสถานการณ์ “โควิด” ในประเทศคลี่คลาย ในขณะที่ประเทศไทยยังอยู่ใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
ขยับไปดู 2 พันธมิตรชานม ที่เพิ่งจบสงครามมหาเอเชียบูรพาในสมรภูมิทวิตเตอร์ อย่างไต้หวันและฮ่องกง ก็ใส่ฟุตเวิร์กเตรียมพร้อมในด้านการวางแผนฟื้นฟูและกวักมือเชิญชวนทั้งนักท่องเที่ยวไทยและทั่วโลกกลับไปเยี่ยมเยือนหลังจบศึกไวรัส
นี่คืออีกประเด็นน่าจับตาในกลยุทธ์เมื่อห้วงเวลา “หลังโควิด” มาถึง
‘ศบค.’ เบรก ‘ทัวร์จีน’ ททท.จ้อง ‘พื้นที่ปิด’ เล็งตลาดยุโรปหนาวนี้
หลังสายการบินจีนโบกธงขอเข้าไทยในเดือนนี้ นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เปิดไมค์ฝันนักท่องเที่ยวจีน โดยบอกว่า “เป็นไปได้ยากมาก” เนื่องจากมีการขยายเวลาการประกาศห้ามอากาศยานบินเข้าสู่ประเทศไทยเป็นการชั่วคราว ดังนั้น นักท่องเที่ยวยังมาไม่ได้ ขอให้ประชาชนสบายใจได้
ฟากฝั่ง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. คาดการณ์ว่าหลังจากนี้ 5 เดือน ประเทศไทยจะเริ่มฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้ ผู้ประกอบการท่องเที่ยวเองก็ต้องเร่งปรับตัวโดยให้ความสำคัญกับสุขอนามัยและสุขภาพ
ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. ยอมรับว่า ในสถานการณ์ที่ไทยยังต้องการนักท่องเที่ยวต่างชาติเพื่อใช้เป็นแหล่งรายได้และฟื้นฟูเศรษฐกิจ
อาจมีการเลือก พื้นที่ปิด เช่น ภูเก็ต และเกาะสมุย โดยจะไปหารือกับหน่วยงานในพื้นที่ที่ประเมินความเป็นไปได้ แต่เบื้องต้นคงยังไม่น่าจะทำได้เร็ว อย่างไวคงอยู่ในไตรมาส 4 นั่นคือฤดูหนาว ซึ่งนักท่องเที่ยวจาก “ตลาดยุโรป” อาจมาไทย แต่ก็ต้องดูสถานการณ์ต่อไปและต้องสอบถามคนในพื้นที่ด้วยว่าจะเห็นด้วยหรือไม่
ผู้ว่าการ ททท.ยังบอกว่า ตอนนี้นอกจากเยียวยาผู้ประกอบการ ช่วยนักท่องเที่ยวที่ติดค้างในไทย ยังเร่งเตรียมความพร้อมทั้ง “ซ่อมและสร้าง” แหล่งท่องเที่ยว รับมือกับรูปแบบการท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลง เน้นความปลอดภัยและสุขอนามัย รวมถึงการกระตุ้นตลาด ผลักดันให้การท่องเที่ยวเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการในแผนการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ
“ในเร็วๆ นี้ ททท.กำลังทำแผนฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวอยู่ ซึ่งจะช่วยสร้างการมีส่วนร่วมของคนทั้งประเทศ ทั้งในส่วนของผู้ประกอบการและประชาชน หลังจากนั้นค่อยมาขับเคลื่อนแผนงานร่วมกัน แต่ยังต้องรอความชัดเจนนโยบายของรัฐบาลก่อนว่าจะสามารถเริ่มต้นเดินทางท่องเที่ยว หรือเริ่มจัดกิจกรรมในภาคการท่องเที่ยวได้หรือยัง ตราบใดที่ยังเดินทางไม่ได้และรวมกลุ่มทำกิจกรรมไม่ได้ ภาคการท่องเที่ยวก็คงยังไม่สามารถขยับได้ แต่ก็ต้องเตรียมไว้ เพราะหวังว่าหากปลดล็อกมาตรการล็อกดาวน์แล้วน่าจะเกิดการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศก่อน แต่รูปแบบอาจเปลี่ยนแปลงไป อาทิ กลุ่มเล็กลง เดินทางระยะใกล้ขึ้น เดินทางผ่านรถส่วนตัว และเดินทางแบบครอบครัวมากขึ้น
“ส่วนระยะไกลอาจเดินทางแบบเท่าที่มีคววามจำเป็น หลังจากนั้นหวังว่าในเดือนตุลาคม ตลาดต่างชาติน่าจะดีขึ้น โดยเฉพาะตลาดในระยะใกล้ อาทิ จีน เอเชียตะวันอออก ส่วนปลายปีคาดว่าจะเริ่มเห็นตลาดยุโรปและสหรัฐอเมริกากลัมามากขึ้น” ผู้ว่าการ ททท.กล่าว
‘ชานมไต้หวัน’ เคาะประตูบ้าน ‘ออนไลน์’ #TimeforTaiwanBKK
หันดูพันธมิตรเอเชียตะวันออกอย่างไต้หวัน ที่การจัดการสงครามโควิดประสบความสำเร็จ ได้รับความชื่นชมล้นหลาม โดยเตรียมการมาตั้งแต่ปลายปี 2562 เพราะเจ็บมาก่อนจากโรคซาร์ส
ล่าสุด ศูนย์บัญชาการกลางไต้หวันออกประกาศให้เปลี่ยนแปลงเวลา “งดการเปลี่ยนเครื่อง/แวะผ่านที่ไต้หวัน” จากวันที่ 30 เมษายน 2563 ให้เลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรค
ในขณะที่ สำนักการท่องเที่ยวไต้หวัน ประจำกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐบาลไต้หวันประจำประเทศไทย นอกจากแชร์ภาพชุดแหล่งท่องเที่ยวงดงามสุดบรรยายในไต้หวันผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ Taiwan Tourism Bureau TH ยังชวนคนไทยร่วมกิจกรรมออนไลน์อย่างคึกคัก อาทิ “สุขสันต์วันชานมไข่มุกแห่งชาติ” 30 เมษายน แจกชุด DIY สำหรับทำชานมไข่มุกที่บ้านเข้าสถานการณ์โควิด โดยให้กดไลค์ แชร์ โพสต์รูปเมนูชานมไข่มุกที่คิดถึงมากที่สุดจากทริปไต้หวัน และติดแท็กชวนเพื่อนที่จะชวน มาทําชานมไข่มุกกินเล่นด้วยกัน โดยประกาศผลผ่านเฟซบุ๊ก ซึ่งแม้จะยังมีคนติดตามไม่มากไม่มาย แค่หลัก 2 หมื่นต้นๆ แต่ก็มีนักท่องเที่ยวไทยร่วมสนุกล้นหลาม
แอดมินการท่องเที่ยวไต้หวันฯ ยังสะกิดเตือนว่ารอสถานการณ์ดีขึ้นเมื่อไหร่ เตรียมเก็บกระเป๋ากลับไปเที่ยวไต้หวันกัน! พร้อมติดแฮชแท็ก #เที่ยวไต้หวัน #TaiwanTourismBureauTH#TimeforTaiwanBKK
ถกภูมิทัศน์ท่องเที่ยวหลัง ‘โควิด’
ทริประยะสั้น-สุขภาพมาแรง
มาถึงฮ่องกงอีกหนึ่งจุดมุ่งหมายของคนไทยโดยเฉพาะขาช้อป ล่าสุด การท่องเที่ยวฮ่องกงจัดประชุมทางไกลออนไลน์เมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา เพื่อหารือกรอบแนวคิดและกลยุทธ์แผนฟื้นฟูการท่องเที่ยว โดยมีผู้เข้าร่วมถึงราว 1,500 ราย ทั้งตัวแทนจากหน่วยงานด้านการท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยว โรงแรม สายการบิน ธุรกิจค้าปลีกและร้านอาหารต่างๆ รวมถึงกลุ่มอุตสาหกรรมไมซ์ และธุรกิจเรือสำราญ อีกทั้งตัวแทนจากสำนักงานการท่องเที่ยวฮ่องกงประจำภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก
ดร.วายเค แปง (Dr.YK Pang) ประธานการท่องเที่ยวฮ่องกง เชื่อว่า ภูมิทัศน์ด้านการท่องเที่ยวจะเปลี่ยนไปหลังโควิด-19 สงบลง คาดว่าความนิยมและพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวจะให้ความสำคัญกับนโยบายด้านสาธารณสุขของเมืองจุดหมายปลายทาง รวมทั้งมาตรฐานสุขอนามัยของระบบขนส่งมวลชน ตลอดจนโรงแรมที่พักและสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มากขึ้น
“ผู้คนจะเลือกเดินทางแบบระยะใกล้มากขึ้นและมีแพลนการท่องเที่ยวที่สั้นลง ทริปท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพจะกลายเป็นเทรนด์ใหม่มาแรง นี่จึงเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ต้องทบทวนและพิจารณา
“สถานะของฮ่องกงในตลาดการท่องเที่ยวโลก และยกระดับมาตรฐานการบริการท่องเที่ยวให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งการท่องเที่ยวฮ่องกงได้ทำงานร่วมกับธุรกิจการท่องเที่ยวต่างๆ ในการร่างกลยุทธ์แผนการเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวฮ่องกงในระยะยาวร่วมกัน”
ข้อมูลโดยสังเขปจากการประชุมออนไลน์ในวันนั้นระบุว่าการแข่งขันในตลาดจะรุนแรงยิ่งกว่าครั้งไหน โดยหน่วยงานการท่องเที่ยวและธุรกิจการท่องเที่ยวของประเทศต่างๆ จะทุ่มข้อเสนอโปรโมชั่นมากมายเพื่อจูงใจนักท่องเที่ยวให้ได้มากที่สุด
เรย์มอนด์ ชาน (Raymond Chan) ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวฮ่องกงประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เผยอีกว่า ฮ่องกงวางแผนงานที่จะขยายกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวมุสลิมไว้ในแผนฟื้นฟูการท่องเที่ยวฮ่องกงสำหรับตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมพัฒนาบริการการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรต่อชาวมุสลิมเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าว
‘ฮ่องกง’ เปิดกลยุทธ์แรกฟื้นฟูท่องเที่ยว
เน้น ‘คนใน’ ชูวัฒนธรรมชุมชน
ย้อนไปก่อนหน้านี้ การท่องเที่ยวฮ่องกงเคยประกาศจัดสรรงบจำนวน 400 ล้านเหรียญดอลลาร์ฮ่องกง หรือราว 1.6 พันล้านบาท ดันโปรโมชั่นของธุรกิจท่องเที่ยว
แม้เจอมาหนัก ทั้งการชุมนุมทางการเมืองที่ต่อเนื่องยาวนาน กระทั่งโดนโควิดซ้ำ แต่ก็ต้องมูฟออน
เดน เฉิง (Dane Cheng) ผู้อำนวยการบริหารการท่องเที่ยวฮ่องกง ระบุถึงแผนฟื้นฟูการท่องเที่ยวไว้ที่ 3 ระยะ โดยขึ้นอยู่กับสถานการณ์การระบาดของโควิด-19
ระยะที่ 1 คือ ปัจจุบัน จะปรับตามสถานการณ์ และเดินหน้าวางแผนฟื้นฟู
ระยะที่ 2 คือ เมื่อสถานการณ์โควิด-19 ส่งสัญญาณเบาบางลง การท่องเที่ยวฮ่องกงจะเน้นกระตุ้นนักท่องเที่ยว “ในประเทศ” ของตัวเองเป็นอันดับแรก ด้วยการเชิญชวนให้ชาวฮ่องกงออกมาเที่ยวสำรวจย่านท้องถิ่นและวัฒนธรรมชุมชนเพื่อสื่อภาพลักษณ์ที่ดีและกระตุ้นความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยว
ในขณะเดียวกัน จะออกโปรโมชั่นร่วมกับธุรกิจการค้าการท่องเที่ยวในประเทศที่เหมาะสม ตามความพร้อมของสถานการณ์ของแต่ละประเทศ เพื่อกระตุ้นความสนใจให้คนกลับมาเที่ยวฮ่องกง
ระยะที่ 3 เปิดตัวแคมเปญ จัดงานอีเวนต์ครั้งใหญ่ทั่วภูมิภาคต่างๆ พร้อมนำเสนอแคมเปญแบรนด์การท่องเที่ยวโฉมใหม่เพื่อสร้างภาพลักษณ์การท่องเที่ยวใหม่ๆ
ส่วนตลาดท่องเที่ยวระยะไกล
คาดว่าจะใช้เวลาอีกนาน ไวสุดคงเป็นไตรมาสสุดท้ายของปี การท่องเที่ยวฮ่องกงเชื่อว่า นักท่องเที่ยวเชื้อสายเอเชียด้วยกันจะเป็นกลุ่มแรกที่เดินทางมาฮ่องกงหลังโควิด-19 สงบ และเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในแคนาดา ฝรั่งเศส และเยอรมนี ค่อนข้างจะเป็นไปในทิศทางที่ดีกว่าประเทศอื่น
ทำนาย ‘จีนแผ่นดินใหญ่’ ระวังใช้จ่าย
เที่ยววันหยุด ‘คุ้มราคา’
ปิดท้ายด้วยการคาดการณ์ถึงนักท่องเที่ยวชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งจะค่อยๆ กลับมาดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ผู้คนต่างเริ่มกลับมาทำงานตามปกติ แต่เนื่องจากผลกระทบจากโควิด-19 ต่อเศรษฐกิจ เชื่อว่าจะทำให้ผู้บริโภคในจีนระมัดระวังการใช้จ่ายโดยเฉพาะราคาสินค้ากันมากขึ้น กลุ่มช้อปหนักก็ชักผ่อนๆ การเลือกแพคเกจท่องเที่ยวในวันหยุดก็เน้นแบบที่คุ้มราคายิ่งขึ้น นอกจากนี้ หลังมาตรการกักตัวอยู่บ้านที่ยาวนานทำให้ผู้คนให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพและธรรมชาติเป็นอันดับแรก โดยอาจเลือกไปเที่ยวเมืองที่มีความเสี่ยงด้านผลกระทบต่อสุขภาพน้อยสำหรับทริปท่องเที่ยวครั้งถัดไป
นี่คือส่วนหนึ่งของข้อมูลอัพเดตประเด็นท่องเที่ยวระหว่างไทย จีน และอีก 2 พันธมิตรชานม ที่ไม่ว่าจะผ่านศึกไหนก็ยังผูกพัน พร้อมต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองของกันและกันไม่แปรเปลี่ยน
