‘ผู้ว่าฯ วีระศักดิ์’ เอาจริง! ลุยปรับคลองภาษีเจริญ พลิกฟื้นท่องเที่ยวสมุทรสาคร

‘ผู้ว่าฯ วีระศักดิ์’เอาจริง! ลุยปรับคลองภาษีเจริญ พลิกฟื้นท่องเที่ยวสมุทรสาคร : โดย เบญจพร ถูระวรรณ์

“ปัญหาทุกข์ร้อนของประชาชน ไม่ได้อยู่ที่ออฟฟิศ ไม่ได้อยู่ที่ศาลากลาง หรืออยู่ที่ที่ว่าการอำเภอ เราไม่นั่งรอปัญหา ต้องทำงานเชิงรุก ปัญหาอยู่ที่ไหนที่ทำงานของเราอยู่ที่นั่น ปัญหาอยู่ที่ท้องนาที่ทำงานของเราก็อยู่ที่ไร่นาของประชาชน ปัญหาอยู่ที่โรงพยาบาลที่ทำงานของเราก็อยู่ที่โรงพยาบาล ทุกที่คือที่ทำงานของเรา”

เสียงของ นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ขณะลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้า “โครงการกำจัดตะกอนเลนเพื่อฟื้นฟูคุณภาพน้ำคลองภาษีเจริญ” เมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยนำหัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอ ปลัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ประกอบการในพื้นที่เทศบาลตำบลสวนหลวง อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ลงพื้นที่ตรวจดูสภาพคลองแนวลิขิต 1 ดูระบบบำบัดน้ำเสีย และดูปลายท่อระบายน้ำทิ้งรวมก่อนปล่อยลงสู่คลองสาธารณะ ประเมิน-แก้ไขปัญหาน้ำเน่าเสีย เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดผลสัมฤทธิ์อย่างยั่งยืน

เรียกได้ว่า เป็นอีกหนึ่งภารกิจสำคัญเพื่อพี่น้องชาวสมุทรสาคร ที่ต้องเดินหน้าอย่างเร่งด่วนภายหลังมาตรการโควิด-19 เริ่มผ่อนคลาย เพราะ “คลองภาษีเจริญ” เป็นคลองสายสำคัญในการติดต่อค้าขายระหว่างชุมชนในแถบแม่น้ำท่าจีนกับกรุงเทพฯ ซึ่งมีปัญหาเรื่อง “น้ำเน่าเสีย” สะสมมานาน ประชาชนในพื้นที่ไม่สามารถนำน้ำมาใช้ประโยชน์ได้ พบสารต่างๆ ปนเปื้อนอยู่ในลำคลองสาขาของคลองภาษีเจริญ ยิ่งในช่วงฤดูฝนหากปล่อยเอาไว้ จะระบายน้ำไม่ทัน ทำให้น้ำเอ่อท่วมเมืองสมุทรสาครได้

“น้ำเน่ามีแต่ขยะ ใครที่ไหนจะมาเที่ยว คลองภาษีเจริญรับน้ำมาจากคลองแนวต่างๆ มันมากกว่าคำว่าเน่า ผมไม่ได้โทษโรงงานอย่างเดียว ต้องอาศัยทุกฝ่ายร่วมมือกัน คลองภาษีเจริญเหมือนเป็นเส้นเลือดหลักที่ทุกคนรุมใช้ ถ้าโรงงานแย่ ชุมชนก็แย่เหมือนกัน วันนี้ต้องลืมภาพเก่าที่คิดว่าทำไม่ได้ เราต้องทำได้ ต่อไปนี้เราจะช่วยกันดูแลรักษา ไม่ให้โรงงาน ชุมชน ปล่อยน้ำเสียลงแม่น้ำสาขาต่างๆ ถึงจะยากแต่ทำได้ถ้าเอาจริงเอาจังและเข้มแข็ง หากแก้ไขได้คลองนี้จะมีชีวิตชีวา มีความสะอาดมากขึ้น สร้างความอยู่ดีมีสุข สร้างคุณค่าและเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า และบริการการท่องเที่ยวในท้องถิ่น”

Advertisement

 


ผู้ว่าฯ วีระศักดิ์
มองปัญหาดังกล่าวว่า ไม่ได้เป็นความผิดของใคร แต่ให้ทุกฝ่ายช่วยกัน ทั้งภาครัฐ ผู้ประกอบการ ชุมชน ต้องจับมือร่วมกัน เฉพาะเรื่องน้ำเรื่องเดียวจากการได้วิเคราะห์สายน้ำในสมุทรสาคร มีหลายสาย แต่ที่เป็นหัวใจสำคัญคือ คลองภาษีเจริญ ซึ่งมี “คลองแนวลิขิต 1” เป็นคลองสาขาของคลองภาษีเจริญที่สำคัญ โดยเป็นจุดเชื่อมระหว่างสายน้ำคลองบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ และแม่น้ำท่าจีน อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร

Advertisement

เรื่องน้ำเน่าเสีย เป็นปัญหาที่หมักหมมสะสมกันมานาน ซึ่งก็ได้ขับเคลื่อนการแก้ปัญหาตรงนี้ภายใต้กรอบการดำเนินงาน 1.คลองสาขาย่อยของคลองภาษีเจริญ ทุกสายต้องนำน้ำออกและกำจัดตะกอนเลน 2.ต้องใช้มาตรการทางกฎหมายกับแหล่งกำเนิดน้ำเสียอย่างเคร่งครัด และ 3.ต้องหาพันธมิตรร่วมกันกำจัดน้ำเสียอย่างเป็นรูปธรรม

“จากที่ได้วางรากฐานไว้เมื่อ 4-5 เดือนก่อน ขณะนี้เริ่มเห็นผลเป็นระยะ น้ำที่สูบออกจากคลองแนวลิขิต 1 เพื่อไปคลองภาษีเจริญ ดีขึ้นกว่าเดิม และทุกเดือนต้องดีขึ้นตามลำดับ โลกทุกวันนี้เป็นโลกที่ไร้พรมแดน ถ้าพิสูจน์ได้ว่าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไม่ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ในระยะยาวก็จะยิ่งทำให้ผู้ประกอบการ หรือโรงงานอุตสาหกรรมในสมุทรสาคร ขายดีมากกว่าเดิม เศรษฐกิจโดยรวมก็จะดีขึ้นและยั่งยืน วันนี้เราต้องเริ่มเดินไปข้างหน้า อดีตเป็นบทเรียนที่สอนมา อนาคตอาจจะไกล แต่สักวันหนึ่งต้องไปถึง ให้เด็กรุ่นหลังมีความหวังกับอนาคตของสมุทรสาครให้ได้”

ผู้ว่าฯ วีระศักดิ์ ย้ำอีกว่า การทำให้คลองภาษีเจริญดีแบบเก่าแม้จะทำได้ยาก แต่สิ่งที่ทำได้คือ ทำอย่างไรไม่ให้กลับไปเน่าแบบเดิม ทำอย่างไรไม่ให้ชาวบ้านปล่อยขยะ ทำอย่างไรไม่ให้โรงงานแอบลักลอบปล่อยน้ำเสีย นั่นหมายความว่าต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยหลังจากนี้ หากมีใครปล่อยน้ำเสียลงคลองสาขาของคลองภาษีเจริญ ไม่ว่าจะเป็นคลองแนวลิขิต 1 คลองนางสาว คลองอ้อมแขม คลองสหราษฎร์ และคลองราษฎร์นิยม ถือว่าเป็นความผิดตามกฎหมาย เราเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้ จะไม่ปล่อยให้ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ

“ที่นี่เป็นเมืองโรงงานอุตสาหกรรม มีไม่ต่ำกว่า 6,000 โรงงาน เรื่องเกี่ยวกับการใช้น้ำปล่อยน้ำเสีย ไม่ได้โทษโรงงานอย่างเดียว ต้องโทษคนในชุมชนด้วย ต้องช่วยกันสอดส่องดูแล แสวงหาความร่วมมือของคนในชุมชน ช่วยกันบอกว่าโรงงานไหนยังไม่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ชุมชนไหนยังเอาขยะมาทิ้งลงแม่น้ำอยู่ ต้องช่วยกัน ต้องอาศัยจิตสำนึกร่วมกัน แล้วจะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวมของจังหวัด และได้ธรรมชาติกลับคืนมา เชื่อว่าอะไรก็แล้วแต่ต้องเริ่มจากจุดเล็กๆ ของสังคม ถ้าอยากให้ชุมชนดีต้องเริ่มจากตัวเรา อยากให้ประเทศชาติเราดีต้องเริ่มที่จังหวัดของเรา จังหวัดของเราต้องนำหน้าก่อน”

ขณะที่ นายนิรันดร์ ป้อมน้อย นายกเทศมนตรีตำบลสวนหลวง กล่าวว่า ต้องเกาะติดสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินการตอนนี้ล่าช้าไปบ้าง ส่วนหนึ่งมาจากฝนตกด้วย ซึ่งแนวทางต่อไปคือการลอกตะกอนเลนทั้งสายคลอง แล้วตรวจพิสูจน์การทิ้งน้ำของผู้ประกอบการ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เป็นแค่ขั้นตอนทดลองโครงการแรก ซึ่งจะนำประสบการณ์ไปสู่ คลองอ้อมแขม คลองสหราษฎร์ คลองศรีสำราญ ที่อยู่ทางตอนบนต่อไป ทั้งนี้ โดยภาพรวมของคุณภาพน้ำ ถือว่าเริ่มดีขึ้น กลับสู่สภาพเดิม แต่ยังมีคราบน้ำมันเกาะติดอยู่ ชี้ให้เห็นว่าตอนนี้ยังมีการลักลอบปล่อยสารเคมี จึงอยากขอความร่วมมือทุกฝ่ายช่วยเป็นหูเป็นตา ไม่ทิ้งขยะ ไม่ปล่อยน้ำเสียลงในแม่น้ำลำคลอง

“แน่นอนว่าหากวันนี้คลองภาษีเจริญมีคุณภาพน้ำดี ไม่ใช่แค่จะดีต่อเกษตรไร่นาสวนผสม และภาคการท่องเที่ยวของจังหวัดสมุทรสาครเท่านั้น แต่น้ำที่ไหลลงสู่แม่น้ำท่าจีน และไหลลงสู่อ่าวไทย ก็จะมีคุณภาพน้ำที่ดีตามไปด้วย ซึ่งจะมีส่วนช่วยทำให้เรามีอาหารตามธรรมชาติ ที่สามารถส่งต่อให้กับคนรุ่นต่อๆ ไปได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด”

ด้าน นายบรรพต จันทรวงษ์ นายอำเภอกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร บอกว่า โครงการนี้ทำเพื่อพี่น้องประชาชน เมื่อพี่น้องประชาชนมีปัญหาได้รับความเดือดร้อน และถ้าหน่วยงานที่รับผิดชอบตามกฎหมายสามารถแก้ไขปัญหา หรือบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนได้ ประชาชนอยู่ดีมีสุข เราก็มีสุข จึงอยากขอความร่วมมือกับพี่น้องประชาชน รวมถึงผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมอุตสาหกรรม ผู้ประกอบการห้องเช่า หอพักต่างๆ ว่าขณะนี้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดได้พิจารณาจัดสรรงบประมาณมาขุดลอกคลองให้สะอาดขึ้นแล้ว ต่อไปในเรื่องการระบายน้ำที่ใช้แล้ว ขอความร่วมมือให้ผ่านกระบวนการบำบัดให้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ หรือผ่านระบบบ่อดักไขมันที่ถูกต้องก่อนที่จะระบายลงสู่ลำคลองต่างๆ ถ้าช่วยกันตรงนี้ได้ จะแก้ปัญหาได้ระยะยาว

“อำเภอจะเป็นจุดรับเรื่องร้องทุกข์ปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับน้ำเสีย เมื่อพี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะนี้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ได้แต่งตั้งคณะกรรมการประจำสายคลองสาขาต่างๆ ที่เชื่อมกับคลองภาษีเจริญแล้ว เพื่อดูแลและรักษาสายคลองในพื้นที่แต่ละสายคลอง หากพบว่ามีผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรม สถานประกอบ หรือประชาชนที่ปล่อยน้ำเสียโดยไม่ผ่านการบำบัดให้รีบแจ้งศูนย์ดำรงธรรมอย่างเร่งด่วน เพื่อจะประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาดู และให้บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง”

ทั้งหมดสะท้อนภาพให้เห็นชัดว่างานนี้ “ผู้ว่าฯ วีระศักดิ์” เอาจริงและตั้งใจทำหน้าที่อย่างสุดกำลัง ทำทันทีภายหลังมาตรการโรคโควิด-19 ผ่อนคลาย

ด้วยมองเห็นว่าทุกเรื่องเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องรีบแก้ เพื่อการพัฒนาจังหวัดให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งโครงการนี้จะช่วยฟื้นฟูคุณภาพน้ำของคลองภาษีเจริญได้มากแค่ไหน เป็นโครงการที่ต้องจับตาดูกันต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image