‘สุขภาพดี วิถีใหม่ ใจชนะ’ Healthcare 2020 ครบถ้วนทุกมิติชีวิต

ผู้ร่วมงานฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่จากโรงพยาบาลศิริราช จากการสนับสนุนของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ จากบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM รวม 1,300 เข็ม

ปิดฉากลงอย่างงดงาม สำหรับ “Healthcare 2020” งานแฟร์สุขภาพ อันดับ 1 ของประเทศ ซึ่งเครือมติชนร่วมกับพันธมิตร เดินหน้าจัดงานมาเป็นปีที่ 12 โดยในปีนี้มาในชื่อ “HEALTHCARE 2020 สุขภาพดี วิถีใหม่ ใจชนะ” ระหว่างวันที่ 3-6 กันยายนที่ผ่านมา ณ สามย่านมิตรทาวน์ฮอลล์ แหล่งนัดหมายใจกลางกรุง

มากมายด้วยกิจกรรมดีๆ ที่ได้รับความสนใจอย่างคับคั่ง ไม่ว่าจะเป็นบริการตรวจสุขภาพฟรีจากโรงพยาบาลชั้นนำกว่า 10 แห่ง ฉีดวัคซีนนับพันเข็มจากโรงพยาบาลศิริราช สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM พร้อมความพิเศษฉลอง 12 ปี ด้วยบริการตรวจพิเศษ 12 รายการ อีกทั้ง “Health Forum เวทีทอล์ก เรื่องสุขภาพ” ที่มีผู้เชี่ยวชาญผลัดเปลี่ยนจับไมค์ให้ความรู้ตลอด 4 วันเต็ม ไหนจะเวิร์กช็อปบำบัดสุขภาพใจ ไม่ว่าจะเป็นการจัดดอกไม้ อิเคบานะ, เยียวยาใจภายในด้วยการปั้นดิน ปั้นความสุข, อ่านเรื่องสั้น ตีความ ออกแบบปกกับศิลปินแถวหน้า เป็นต้น

สุรพล พิทยาสกุล ที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การก้าวเข้าสู่ปีที่ 12 ของงานเฮลท์แคร์ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างดี ประชาชนยังคงให้ความสนใจเข้ารับการตรวจสุขภาพ โดยมาต่อแถวรอคิวตั้งแต่ยังไม่เปิดงาน ประกอบกับการลงทะเบียนง่าย เพราะใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียว ที่สำคัญภาคสาธารณสุขก็ให้การสนับสนุนเต็มที่

“ผู้ร่วมงานส่วนใหญ่มาฉีดวัคซีนและการสุขภาพจากโรงพยาบาลชั้นนำ เราคิดว่าคนที่เข้ามาจะเป็นผู้สูงอายุเป็นหลัก แต่พบว่ามีประชาชนวัยกลางคน และครอบครัวมารับการตรวจจำนวนมาก หากเป็นผู้หญิงจะเน้นเรื่องตรวจมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูก ที่สำคัญคือมีผู้ร่วมงานท่านหนึ่งซึ่งดูภายนอกแล้วอาการปกติ เข้ารับการตรวจสายตากับโรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องค์การมหาชน) แล้วแพทย์ระบุว่า หากปล่อยทิ้งไว้ อีกไม่นานเขาจะตาบอด โชคดีที่เขามางานนี้” สุรพลเล่า

Advertisement

ผู้ร่วมงานลงทะเบียน-รอคิวตรวจสุขภาพฟรีจากโรงพยาบาลชั้นนำ

ด้าน สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเดินทางร่วมชมกิจกรรมต่างๆ ภายในงาน บอกว่า งานเฮลท์แคร์ 2020 จัดได้อย่างดี มีกิจกรรมให้ความรู้มากมาย โดยส่วนตัวสนใจเรื่องอาหารเป็นพิเศษ สำหรับตอนนี้เรื่องสุขภาพจิตสำคัญ เนื่องจากเราต้องเผชิญกับสถานการณ์ต่างๆ อาทิ สถานการณ์ทางเศรษฐกิจ อยากให้คิดบวกในทุกสถานการณ์ จะทำให้สามารถผ่านความเครียดและวิกฤตไปได้ สำหรับเรื่องสุขภาวะนั้นต้องสูงสุดสู่สามัญ เพราะการกินและการออกกำลังกายเป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน

นอกจากนี้ ยังยืนยันในงานนี้ว่า กระแสข่าวอันสืบเนื่องจากกรณีดีเจหนุ่มติดเชื้อโควิดนั้นประชาชนไม่ควรกังวลถึงขนาดไม่ไป จ.นนทบุรี โดยสิ่งที่กลัวคือเรายังไม่สามารถหาได้ว่าผู้ป่วยติดเชื้อจากไหน ต่างจากเคสทหารอียิปต์ที่ทราบว่ามาจากต่างประเทศ กรมต่างๆ ภายใต้การดูแลของ สธ.ได้ทำงานอย่างเต็มที่ เราไม่ปกปิดข้อมูล ซึ่งข่าวต่างๆ ที่ส่งต่อกันในโซเชียล อาทิ สธ.ประกาศภาวะฉุกเฉิน ห้ามเข้าสถานที่ต่างๆ ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง นั่นคือเฟคนิวส์

Advertisement

“วันนี้คนไทยการ์ดตกไปนิดหน่อย เพราะเราเห็นเลข 0 ในประเทศมานาน แต่ในมุมกลับกัน เคสที่เกิดขึ้นอาจทำให้เราระวังตัวมากขึ้น โดยเฉพาะหากรักษา 3 มาตรการอย่างเข้มงวดก็จะทำให้เราปลอดภัยจากโควิดได้กว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ขอให้ทุกคนช่วยกัน” รมช.สาธารณสุขกล่าว

สอดคล้องกับถ้อยคำของ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในวันเปิดงาน ซึ่งเน้นย้ำว่า ท่ามกลางสถานการณ์วิกฤตที่ท้าทาย ได้พิสูจน์ให้ทั่วโลกเห็นว่าประเทศไทยมีระบบสาธารณสุข การแพทย์ การพยาบาล การดูแลรักษาที่ดีและกลายเป็นประเทศเป้าหมายจากทั่วโลกที่ต้องการเข้ามาพำนักหลังจบสถานการณ์โควิด-19

“การดึงจุดแข็งกลุ่มธุรกิจบริการด้านการแพทย์จะสามารถสร้างเศรษฐกิจด้วยการแพทย์” รมว.สาธารณสุขเปิดวิสัยทัศน์

‘อนุทิน ชาญวีรกูล’ ประธานในพิธีเปิดงานเฮลท์แคร์ 2020 พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ เดินหน้าขับเคลื่อนการสาธารณสุขไทย ประชาชนปลอดภัย เศรษฐกิจไทยเข้มแข็ง

ในขณะที่บรรยากาศบนเวทีเสวนาตลอด 4 วัน แน่นหนักด้วยข้อความรู้และความก้าวหน้าใหม่ๆ อีกทั้งคำแนะนำในการดูแลสุขภาพกายใจในห้วงเวลาที่โลกยังคงสู้รบกับไวรัสโควิด-19

ส่วนในไทย หากมีการระบาด “รอบ 2” อ.ดร.พญ.วรรษมน จันทรเบญจกุล กุมารแพทย์โรคติดเชื้อ ศูนย์โรคอุบัติใหม่ด้านคลินิก รพ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เชื่อว่า ประเทศไทยมีประสบการณ์ จึงรู้วิธีที่จะรับมือ แต่คนไทยก็ต้องพร้อมและปรับตัวในการใช้ชีวิต โดยหัวใจหลักยังคงเป็นการเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตร ใส่หน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือ ใส่เฟซชีลด์ ปรับ 4 พฤติกรรมนี้ในการดำเนินชีวิต

นอกจากความพร้อมใจในการป้องกันตัวเอง และดูแลคนรอบข้าง ปัจจุบันยังมีเทคโนโลยีซึ่งสอดคล้องกับวิถีชีวิตใหม่ ซึ่ง รศ.นพ.เชิดชัย นพมณีจำรัสเลิศ รองผู้อำนวยการ โรงพยาบาลศิริราช เปิดเผยในงานเฮลท์แคร์ปีนี้ว่า ในวันที่มีเทคโนโลยี 5G ในประเทศไทยมาถึงพร้อมกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงเป็นโอกาสในการนำเทคโนโลยีมาช่วยลดช่องว่าง เข้ามาเติมเต็ม แก้ปัญหาและยกระดับการทำงานด้านการแพทย์

“เพราะข้อมูลเชื่อมโยงด้วยอินเตอร์เน็ต หลายนวัตกรรมทางการแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจรักษาด้วยระบบพบแพทย์ออนไลน์ (Telemedicine) หรือการขนเวชภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ด้วยรถอัจฉริยะไร้คนขับ (Unmanned Car) นำไปสู่การบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีเครื่องมือเข้ามาช่วย” รศ.นพ.เชิดชัยกล่าว

เมื่อกล่าวถึงประเด็นเทคโนโลยี ยังมี “หุ่นยนต์ทางการแพทย์” ล้ำสมัยที่ รศ.น.ท.ดร.นพ.สรยุทธ ชำนาญเวช แห่งโรงพยาบาลรามาธิบดี บอกเล่าอย่างน่าตื่นใจยิ่ง

“ทางโรงพยาบาลรามาธิบดีได้ซื้อหุ่นยนต์ทางการแพทย์จากเงินบริจาค 100% เพื่อใช้ผ่าตัดสมองและกระดูกสันหลัง ใน พ.ศ.2560 ได้ผ่าตัดให้ผู้ป่วย 2 ราย ซึ่งเป็นครั้งแรกในเอเชีย แพทย์จะนำเครื่องเอกซเรย์สมองของผู้ป่วยในขณะผ่าตัดซ้อนกับภาพถ่าย IRM เพื่อสร้างแผนที่ขึ้นมา หลังจากนั้นแพทย์สามารถจุดพิกัดลงในแผนที่ที่สร้างขึ้นมาเพื่อให้หุ่นยนต์ทำการผ่าตัดจริง เพื่อช่วยให้แพทย์ทำการผ่าตัดจุดที่มีขนาดเล็กกว่า 2 เซนติเมตร ได้อย่างแม่นยำซึ่งหากใช้มนุษย์ในการผ่าตัดดังกล่าวมีโอกาสที่จะหาจุดพิกัดไม่พบสูงมาก” รศ.น.ท.ดร.นพ.สรยุทธกล่าว

อีกโรคภัยสำคัญในประวัติศาสตร์โลก คือ “โรคหลอดเลือดหัวใจ” ซึ่ง พญ.ทรายด้า บูรณสิน แพทย์อายุรศาสตร์โรคหัวใจและหลอดเลือด รพ.เวชธานี กล่าวในงานว่า โรคหลอดเลือดหัวใจมีมานานกว่า 4,000 ปีแล้ว และในปัจจุบันนี้กลายเป็นโรคที่ทำให้เกิดอัตราการเสียชีวิตสูงเป็นอันดับ 1 ของโลก มีผู้เสียชีวิตมากถึง 17 ล้านคนในปี 2017 มาจากสาเหตุหลากหลาย หนึ่งในนั้นคือ “โรคอ้วน” เพราะทำให้มีไขมันไปเกาะที่เส้นเลือดแดงเลี้ยงหัวใจ ส่งผลให้เส้นเลือดตีบหรือตัน เลือดและออกซิเจนเข้าไปเลี้ยงหัวใจได้ยากขึ้น หากแน่นหน้าอกตรงกลางเหมือนโดนบีบรัด ปวดร้าวร่างกายส่วนบน หายใจไม่อิ่ม วูบไม่ทราบสาเหตุบ่อยๆ ควรพบแพทย์ทันที

หุ่นยนต์ทางการแพทย์ล้ำสมัยที่ รพ.รามาธิบดี จัดซื้อจากเงินบริจาค 100% ทำการผ่าตัดสมองและกระดูกสันหลัง

จากนั้นมาฟังแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในสาเหตุการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ อย่างโรคอ้วน

“โรคอ้วนพบมากขึ้นเรื่อยๆ ในปัจจุบัน แต่คนไทยจำนวนมากละเลยเรื่องนี้ จนทำให้ตอนนี้ประเทศไทยมีประชากรน้ำหนักเกินมาตรฐานเป็นอันดับ 2 จากกลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้ว โดยคิดเป็นร้อยละ 32.2 จากประชากรทั้งหมด ดังนั้น เราควรปรับเปลี่ยนความคิดและการใช้ชีวิตให้ดีกว่าเดิม” คือข้อมูลและคำแนะนำจาก น.ท.นพ.บุญเลิศ อิมราพร แพทย์อายุรศาสตร์โรคระบบทางเดินอาหาร รพ.เวชธานี

ต่อด้วยโรคที่เหล่าสตรีต้องระวังภัยเป็นพิเศษ นั่นคือ “มะเร็งปากมดลูก” ซึ่ง นพ.รัฐพล เตรียมวิชานนท์ ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ระบุว่า นี่คือมหันตภัยเงียบของผู้หญิง สาเหตุที่ผู้หญิงเป็นมะเร็งปากมดลูกมาจากการติดเชื้อเอชพีวี (HPV : Human Papillomavirus) จากการมีเพศสัมพันธ์กับคู่นอนที่มีเชื้อ ในการลดการสุ่มเสี่ยงก็ต้องระมัดระวังอย่างเคร่งครัด ที่สำคัญคือต้องป้องกันด้วยวิธีต่างๆ ซึ่ง สปสช.จึงได้จัดหาวัคซีนเอชพีวีเพื่อฉีดให้กลุ่มเป้าหมายคือนักเรียนหญิงตั้งแต่ชั้น ป.5 ทั่วประเทศ

ด้าน นพ.ณัฐวุฒิ กันตถาวร ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายบริการวิชาการและสังคม คณะแพทยศาสตร์ และการสาธารณสุข วิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เผยข้อมูลว่า มะเร็งปากมดลูกที่ผู้หญิงทั่วโลกรวมถึงคนไทยพบเจอเป็นอันดับต้นๆ ป้องกันได้ด้วยการตรวจคัดกรองอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงอย่างการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร การสูบบุหรี่ หรือมีคู่นอนหลายคน จากสถิติมีผู้ป่วยใหม่ปีละกว่า 8,000 ราย และเสียชีวิตประมาณ 5,000 ราย เนื่องจากส่วนใหญ่ไม่ได้พบเจอในระยะแรก

จากฝั่งสตรี มาสแกนปัญหาสุขภาพในฝั่งผู้ชายกันบ้าง โดยหนึ่งในนั้นคือการ หย่อนสมรรถภาพทางเพศ ศ.นพ.สมเกียรติ วัฒนศิริชัยกุล คลินิกสุขภาพชาย รพ.แพทย์รังสิต เริ่มด้วยคำถามว่า รู้หรือไม่ว่าเมื่อคุณอายุ 40 ปี ฮอร์โมนเพศชายจะลดลงอย่างรวดเร็ว กว่า 80% ของคนอ้วนลงพุงมีฮอร์โมนเพศชายต่ำ และกระตุ้นให้ต่อมลูกหมากโต นอกจากนี้ เหล้า บุหรี่ และอาหารที่มีไขมันสูง ความเครียดสะสม และนอนไม่หลับต่อเนื่อง เป็นสาเหตุที่ทำให้ฮอร์โมนเพศชายลดลง

อีกหนึ่งสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะผู้สูงวัย คือการดูแลสุขภาพช่องปาก ซึ่ง ผศ.ทพ.ดร.สุชิต พูลทอง คณบดีคณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ยืนยันว่ามีความสำคัญมาก เพราะปัญหาไม่ได้จำกัดเฉพาะในช่องปากและฟัน แต่มีโอกาสลุกลามไปยังระบบอื่นของร่างกาย โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ ซึ่งมีความเสี่ยงและส่งผลรุนแรง บางรายอาจเสียชีวิต ดังนั้น จึงแนะนำให้ตรวจสุขภาพช่องปากทุก 6 เดือน หรือ 1 ปี

ส่วนโรคแสนคุ้นเคย แต่ไม่ควรหลงลืมอย่าง ไข้หวัดใหญ่และไข้เลือดออก นั้น มีการระบาดทุกปี ในแต่ละปีมีผู้ป่วยมากมาย โดยในปี 2563 จากเดือนมกราคมถึงเมษายน มีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่กว่า 90,000 ราย ในขณะที่ไข้เลือดออก จากมกราคมถึงกันยายน มีจำนวนผู้ป่วย 30,000 ราย

ผศ.ดร.พญ.วัชรี อรุณสดใส อาจารย์ประจำภาควิชากุมารเวชศาสตร์เขตร้อน คณะเวชศาสตร์เขตร้อน ม.มหิดล กล่าวว่า ในไข้หวัดใหญ่ หากไวรัสกลายพันธุ์ มีโอกาสอย่างยิ่งที่จะกลายเป็นไข้หวัดที่ระบาดไปทั่วโลก ซึ่งอาจมีความรุนแรงถึงแก่ชีวิตได้ เฉกเช่นโรคโคโรนาไวรัส 2019 หรือโควิด-19 ส่วนโรคไข้เลือดออก 6% มีอาการรุนแรง น้ำเลือดออกในเยื่อหุ้มปอด บวมน้ำในช่องท้อง ซึ่งมี 1% รุนแรงถึงช็อก ความดันเลือดตก ตับอักเสบรุนแรง อวัยวะต่างๆ ล้มเหลว มีอัตราเสียชีวิต 0.6% ในกลุ่มที่มีอาการหนัก พบว่าทุกรายเคยมีประวัติการป่วยเป็นไข้เลือดออกในอดีต แต่ป่วยคนละสายพันธุ์ ดังนั้น เมื่อเป็นไข้อย่านิ่งนอนใจ โปรดไปพบแพทย์

ปิดท้ายด้วยเรื่องราวของ “สมุนไพร” ซึ่งผู้ร่วมงานต่างต่อคิวรับอย่างคึกคัก

“สมุนไพรไทยมีมากมาย ให้ฤทธิ์และสรรพคุณทางยาที่แตกต่างกัน หากใช้เหมาะกับโรค เหมาะกับความเจ็บป่วย แล้วเลือกรับประทานสมุนไพรให้ถูกชนิด ในปริมาณที่เหมาะสม จะช่วยบรรเทารักษาอาการที่ป่วยไข้ได้ดี นอกจากฤทธิ์ในการบรรเทาความเจ็บป่วย ดูแลสุขภาพกายแล้ว สามารถใช้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพใจได้ด้วย อย่างไรก็ตาม ควรใช้ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด” คือคำแนะนำจาก ภญ.วัจนา ตั้งความเพียร เภสัชกรชำนาญการ หัวหน้างานบริการเภสัชสนเทศกลุ่มงานเภสัชกรรม โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าว

สมเป็นงานแฟร์สุขภาพอันดับ 1 ที่ให้ความสำคัญทั้งสุขภาพกาย สุขภาพใจ เทคโนโลยีล้ำสมัย และวิถีแพทย์แผนไทย ครบถ้วนทุกมิติอย่างแท้จริง

‘สาธิต ปิตุเตชะ’ รมช.สธ. เป็นประธานมอบเงินจากกิจกรรมสาธารณกุศล แก่คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, รพ.บ้านแพ้ว (องค์การมหาชน) และ รพ.จุฬาภรณ์ โดยมี ‘ปานบัว บุนปาน’ เอ็มดีมติชน ร่วมพิธี
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นำนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ ธีม CU Innovation ด้วยแนวคิด Innovation For Society จัดแสดงภายในงานเฮลท์แคร์ 2020

รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศรแจกต้นสมุนไพรฟรี วันละ 50 ต้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image