| ที่มา | หน้าประชาชื่น มติชนรายวัน |
|---|---|
| ผู้เขียน | ทีมข่าวเฉพาะกิจ |
| เผยแพร่ |
เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้ว ตั้งแต่ 10 ธันวาคมที่ผ่านมา สำหรับ ‘Winter Book Fest 2020’ เทศกาลหนังสือฤดูหนาวที่เหล่าสำนักพิมพ์คุณภาพกว่า 90 แห่งขนผลงานแน่นๆ มาโอบกอดนักอ่านในบรรยากาศส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ณ มิตรทาวน์ ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ 10 วันเต็ม นับแต่นี้ถึง 20 ธันวาคม ภายใต้ความร่วมมือจากภาคส่วนต่างๆ ในวงการ ไม่ว่าจะเป็นนักเขียน นักแปล สำนักพิมพ์ ผู้จัดจำหน่ายทั้งเล็ก กลาง ใหญ่กว่า 90 สำนักพิมพ์ 180 บูธ อาทิ Salmon Books, แสงดาว, สถาพรบุ๊คส์, แจ่มใส, สยามอินเตอร์, Groove Publishing, นานมี, Dexpress, ฟ้าเดียวกัน, 10 mm, a book, Hermit, Koob นิ้วกลม, ณ บ้านวรรณกรรม, SALT, ยิปซี, Merry-Go-Round Publishing, Animag, อมรินทร์, เป็ดเต่าควาย, Way, 13357, Bibli, Luckpim และอีกมากมาย
แน่นอนว่ารวมถึง ‘สำนักพิมพ์มติชน’ ที่ขนหนังสือดี หนังสือเด็ด หนังสือดัง มานำเสนอยังเทศกาลดังกล่าวอย่างมากมาย
“ผมอยากขอเชิญชวนทุกท่านให้มาร่วมงานนี้ เพื่อช่วยให้วงการหนังสือสามารถดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่นและให้ผู้อ่านทุกคนได้รับความสุขจากการมอบหนังสือเพื่อเป็นของขวัญให้แก่กันในวันปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงครับ”
คือคำกล่าวของ วีระ โรจน์พจนรัตน์ ประธานกรรมการสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (สบร.) และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งให้เกียรติมาเป็นประธานเปิดงาน ซึ่งมาในธีม GIFT ME BOOKS หนังสือคือของขวัญ เพื่อให้นักอ่านได้ส่งมอบวัฒนธรรมที่มาพร้อมกับการอ่านให้แก่กัน
ไม่เพียงเท่านั้น ส่งเสริมนโยบาย ‘ช้อปดีมีคืน’ ของภาครัฐ ในการกระตุ้นเศรษฐกิจในหลากหลายภาคส่วน โดยสามารถนำใบกำกับภาษีไปใช้ลดหย่อนภาษีได้ การซื้อหนังสือเพื่อเป็นของขวัญให้แก่กันในงานนี้ จึงเป็นทั้งการส่งเสริมธุรกิจวงการหนังสือ รวมถึงเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวมด้วย
ด้าน จรัญ หอมเทียนทอง ผู้อำนวยการการจัดงาน เล่าถึงภาพรวมว่า งานนี้จัดขึ้นในรูปแบบเฟสติวัล หรืองานเทศกาล ดังนั้น นอกจากไฮไลต์สำคัญจะเป็นหนังสือราคาพิเศษจากสำนักพิมพ์ต่างๆ แล้ว ยังมากมายด้วยกิจกรรมสนุกสนาน สำหรับคนรักการอ่านทุกเพศทุกวัย เพราะทุกวันนี้ตลาดหนังสือเปลี่ยนแปลงไปมาก งานหนังสือจึงต้องเปลี่ยนแปลงด้วยเช่นกัน โดยเป็นการจัดงานที่ยึดความต้องการของนักอ่านเป็นสำคัญ ให้ทุกคนมาสนุกและมีความสุขร่วมกันได้
การจัดงานหนังสือยังจำเป็น แต่เป็นความจำเป็นในบริบทที่จำกัด ขนาดของงานหนังสือไม่ใช่ปัจจัยหลักอีกต่อไป เพราะคุณภาพของสำนักพิมพ์ที่มาร่วมงานคือตัวแปรของงาน โดยมีคนอ่านเป็นตัวชี้วัด เราติดกับดักความสำเร็จแบบเดิมไม่ได้แล้ว โลกของคนอ่านเปลี่ยนไปแล้ว ถ้าคนอ่านต้องการมาแค่ซื้อหนังสือ ไปซื้อออนไลน์ก็ได้ แต่งานหนังสือทำให้คนอ่านและคนทำมาพบหน้าและพูดคุยกัน เป็นคุณภาพของงานหนังสือที่เกิดขึ้นในปัจจุบันและอนาคต
“งานหนังสือคือการตอบสนองความต้องการของคนทำสำนักพิมพ์ที่อยากจะเจอคนอ่าน เป็นสถานที่ที่คนรักหนังสือได้มาพบปะพูดคุยกัน งานหนังสือใหญ่ๆ ที่ผ่านมาสถานที่ไม่ค่อยเอื้อเท่าไหร่ พอไม่เอื้อ คนก็ไม่มา เพราะฉะนั้นอย่าไปติดรูปแบบงานเดิมที่เป็นงานใหญ่ ขนาดของงานหนังสือไม่ใช่ตัวชี้วัดแล้ว แต่เป็นเนื้อหาของงานที่จะเป็นตัวชี้วัดว่าคนจะมาแค่ไหน
ความยากสุดของงานนี้คือการหาสปอนเซอร์ และด้วยสถานการณ์บ้านเมืองต่างๆ รวมทั้งโควิด-19 ที่ยังมีอยู่ แต่สำนักพิมพ์ 90 กว่าแห่งที่มาร่วมงานนี้ก็เข้าใจ พร้อมลุยและจัดกิจกรรมต่างๆ เต็มที่ เพื่อมอบความสุขผ่านหนังสือให้คนอ่านมากที่สุด” จรัญ ให้สัมภาษณ์ ‘สำนักพิมพ์มติชน’
นอกจากหนังสือหนังหาน่าซื้อเก็บไว้นอนอ่านในช่วงเทศกาลหยุดยาว งานนี้ยังมีไฮไลต์ห้ามพลาดอย่าง นิทรรศการ Tolerance Posters Exhibition – แตกต่าง เข้าใจ จัดแสดงโปสเตอร์ที่ออกแบบโดยศิลปินทั่วโลก 164 ชิ้น ส่งสารว่าด้วยการยอมรับทางสังคม ไปสู่ผู้คนในประเทศต่างๆ ที่มีความหลากหลายในเชิงโครงสร้าง สังคม และวัฒนธรรม
ผลักดันแนวคิดการรวมเป็นหนึ่งเดียวที่นำไปสู่ความเข้าใจในความแตกต่าง บนโลกที่มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์ เชื้อชาติ ศาสนา เพศสภาพ โดยผู้ก่อตั้งโปรเจ็กต์นี้ไม่ใช่ใคร แต่เป็นศิลปินดังอย่าง เมอร์โค่ อิลิค ซึ่งปัจจุบันพำนักในนิวยอร์ก ผู้ออกแบบโลโก้อมตะนิรันดร์กาล I love NY ?
ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีกิจกรรมและเวทีสนทนาจากหลากหลายสำนักพิมพ์กว่า 30 รายการ ที่จะสั่นสะเทือนสังคมไทย อาทิ เสวนา “เด็กไทยอ่านอะไรอยู่” เสวนา “ศิลปะขับเคลื่อนสังคม” หรือกิจกรรม “รวมพลคนรักสามเกลอ” โดยสำนักพิมพ์แสงดาว
พร้อมด้วยโปรโมชั่น ปล่อยของ ราคาเดียว 99 บาท ซื้อ 1 แถม 1 และลดราคาสูงสุด 80%
ด้านมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่คนไทยต้องกลับมาตื่นตัวกันอีกระลอกนั้น ภายในงานมีการดำเนินการตามมาตรการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล หรือ social distancing มีการตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าพื้นที่โดยพยาบาล เว้นระยะห่างแต่ละบูธ เพิ่มพื้นที่ทางเดิน มีบริการเจลแอลกอฮอล์ รณรงค์การจ่ายเงินด้วยระบบโอนผ่าน QR Code และต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยอย่างเคร่งครัด
เป็นอีกหนึ่งงานที่นักอ่าน และนักอยากอ่านต้องกาดอกจันไว้ในปฏิทินก่อนสิ้นปี 2563 ที่กำลังจะผ่านพ้น
