| ที่มา | อาทิตย์สุขสรรค์ มติชนรายวัน |
|---|---|
| ผู้เขียน | ภูวดล เอี่ยมประไพ, อุดมศักดิ์ ภัคธนาพงศ์ |
| เผยแพร่ |
กอบกู้ศรัทธาของแฟนบอลชาวไทยกลับคืนมาอย่างยิ่งใหญ่สำหรับทัพนักเตะ “ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ซึ่งประกาศศักดาทวงเจ้าอาเซียนคืนมาได้สำเร็จเป็นสมัยที่ 6 ในรอบ 5 ปี จากการคว้าแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020” ที่ประเทศสิงคโปร์ เป็นของขวัญปีใหม่ให้กับชาวไทยทุกคนตั้งแต่ต้นปี
เบื้องหลังความสำเร็จครั้งนี้เกิดขึ้นจากการที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ภายใต้การนำของ “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคม ซึ่งได้มอบหมายให้ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ เข้ามาทำหน้าที่เป็นผู้จัดการทีมชาติไทย ทั้งชุดใหญ่และชุดรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี เมื่อช่วงกลางปีก่อนที่ผ่านมา…
“มาดามแป้ง” ได้แต่งตั้ง มาโน่ โพลกิ้ง กุนซือเชื้อสายบราซิเลียน-เยอรมัน ที่คลุกคลีอยู่ในวงการฟุตบอลไทยมายาวนานหลายปี เข้ามาทำหน้าที่กุมบังเหียนทีมชาติไทย ชุดลุยศึกชิงแชมป์อาเซียนในครั้งนี้ พร้อมกับความหวังในการทวงบัลลังก์อาเซียนกลับคืนมาสู่แผ่นดินไทยอีกครั้ง
“บิ๊กอ๊อด-มาดามแป้ง-มาโน่” ผนึกกำลังร่วมกันนำทัพช้างศึกครองเจ้าอาเซียนได้สำเร็จ พร้อมกับจารึกสถิติใหม่ให้เกิดขึ้นมากมายในเวทีลูกหนังภูมิภาคแห่งนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการเป็นผู้จัดการทีมผู้หญิงคนแรกที่สามารถสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ
ในโอกาสนี้ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ได้เดินทางมาร่วมแสดงความยินดีเนื่องในโอกาสครบรอบ 45 ปีของ “มติชน” พร้อมกับเปิดใจให้สัมภาษณ์พิเศษถึงความสำเร็จของทัพช้างศึก และความฝันครั้งใหญ่ต่อไป ซึ่งถือเป็นความหวังของแฟนบอลชาวไทยทุกคนที่วาดฝันจะได้เห็น “ไทยไปบอลโลก”
● ความรู้สึกหลังคว้าแชมป์ซูซูกิ คัพ 2020
ดีใจมากกับการคว้าถ้วยแชมป์เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 ซึ่งตัวแป้งเองมองว่า ถ้วยใบนี้มีความสำคัญกับคนไทยเป็นอย่างมาก และเป็นถ้วยที่ทีมชาติไทยเคยคว้าแชมป์มาแล้ว 5 สมัย และปีนี้เราก็สามารถบวกเพิ่มเป็นสมัยที่ 6 ได้สำเร็จ
● จุดเริ่มต้นการเป็นผู้จัดการทีมชาติไทย
ส่วนตัวเพิ่งเข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีมฟุตบอลชายทีมชาติไทย เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2564 และได้เริ่มงานแรกกับภารกิจพาทีมชาติไทย ชุดยู-23 ผ่านเข้ารอบสุดท้ายศึกชิงแชมป์เอเชียได้สำเร็จ ในรายการฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย 2022 รอบคัดเลือก ที่ประเทศอุซเบกิสถาน ซึ่งต้องขอขอบคุณ “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ที่ให้โอกาสในครั้งนี้ อีกทั้งยังมอบอำนาจให้อย่างเต็มที่ในการบริหารจัดการหา เฮดโค้ชทีมชาติไทยด้วยตัวเอง
● ความกดดันในการทำหน้าที่แม่ทัพช้างศึก
แป้งมองว่ารู้สึกกดดันในทีมชาติไทย ชุดยู-23 มากกว่า เพราะในช่วงเวลานั้นฟุตบอลไทยลีกยังคงแข่งขันกันอยู่ ทำให้การขอนักเตะเข้ามาเล่นทีมชาติเป็นเรื่องยาก ขณะที่ทีมชาติชุดใหญ่จะเห็นได้ว่า วิกฤตของฟุตบอลในบ้านเรา ตอนนี้สิ่งที่แก้ไขได้ เราจะต้องได้ชัยชนะก่อน และเป็นการเล่นข้ามปีในช่วงปีใหม่ อย่าลืมว่า ทุกทีมในอาเซียนมีการพัฒนาไปเยอะ หรืออาจจะเป็นจุดเดียวที่เราแพ้เวียดนามใน 2-3 ปีหลัง
“หลายคนมองว่าตัวเองรับเผือกร้อน หรือการแต่งตั้งเฮดโค้ชอย่าง มาโน่ โพลกิ้ง เข้ามาเป็นคนคุมทัพให้กับทีมชาติไทย ถือว่ามีหลายเสียงที่คัดค้านไม่เห็นด้วย แต่ก็เป็นแค่สัญญาระยะสั้นของมาโน่
อีกทั้งยังรู้สึกโชคดีที่ได้รับความเมตตาจากประธานสโมสรหลายทีมที่ยอมปล่อยตัวนักเตะให้ไปเก็บตัวฝึกซ้อมเข้าร่วมการแข่งขัน เนื่องจากในตอนนั้นยังคงมีการแข่งขันฟุตบอลลีกอยู่ ทำให้หลายทีมไม่อยากปล่อยตัวไปเล่นกับทีมชาติไทย”
● การแต่งตั้ง เจ-ชนาธิป เป็นกัปตันทีม
การแต่งตั้งกัปตันทีมชาติไทยชุดใหญ่ แป้งคิดว่าควรที่จะต้องเป็น “เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ และตั้งใจที่จะแต่งตั้งเจเป็นกัปตันทีม ซึ่งในเวลานั้นเจยังคงซ้อมอยู่ที่ทีมคอนซาโดเล่ ซัปโปโร เดิมทีเจ้าตัวยังตกใจอยู่ที่ถูกเลือกเป็นกัปตันทีมชุดนี้ และคิดว่าตัวเองยังอายุน้อยที่จะมารับหน้าที่นี้ แต่ส่วนตัวก็คิดว่าเจเหมาะสมที่สุด เพราะเขาเป็นนักเตะที่มีประสบการณ์ในการคว้าแชมป์ถ้วยนี้มาแล้ว 2 สมัย อีกทั้งยังเชื่อว่า เจจะเป็นข้อต่อที่ดีระหว่างผู้เล่นชุดเก่า และผู้เล่นชุดใหม่ที่เพิ่งถูกเรียกตัวมาในครั้งนี้
● การนำกลยุทธ์ธุรกิจบริหารฟุตบอล
แป้งได้นำกลยุทธ์ที่ใช้บริหารงานบริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) มาใช้ในการทำฟุตบอลทีมชาติไทย เนื่องจาก เมืองไทยประกันภัย เป็นธุรกิจที่ช่วยเยียวยาเวลาเกิดภัย เมืองไทยประกันภัยเป็นธุรกิจที่ได้เจอกับคนเยอะ จึงได้นำศาสตร์ความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น และการเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่นว่ามีปัญหาอย่างไร มาปรับใช้กับทีมชาติ ซึ่งสิ่งนี้สามารถทำให้ทุกๆ คนรวมใจกันได้เป็นอย่างดี
“โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ธุรกิจเมืองไทยประกันภัยได้รับผลกระทบอย่างหนัก ประชาชนเองก็เดือดร้อนจากโควิด-19 และเดือดร้อนจากอะไรหลายๆ อย่าง เวลาที่เกิดเหตุแล้วไม่มีอะไรมารองรับ ก็เหมือนกับนักกีฬาฟุตบอล อย่างเช่น ตอง-กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ที่คุณพ่อป่วยหนักจากโรคมะเร็ง ทางทีมงานสต๊าฟก็ตัดสินใจให้บินกลับมาดูอาการของคุณพ่อที่เมืองไทย และตองก็มีน้ำใจนักกีฬา บินกลับมาร่วมฝึกซ้อมช่วยทีมต่อ อีกคนหนึ่งคือ บอย-ฉัตรชัย บุตรพรม ที่เอ็นไขว้หน้าเข่าขาด ซึ่งเป็นการเสียสละของใครหลายๆ คน”
● มิตรภาพนอกสนามลูกหนังอาเซียน
สำหรับเรื่องแรงกิ้งที่ชาติอาเซียนอื่นๆ เขาแซงเราไปช่วงนี้ ก็เลยทำให้ทุกคนรู้สึกอยากที่จะเอาชนะในรายการซูซูกิ คัพ ให้ได้ ตัวเองได้พูดคุยกับทุกคนในทีมช่วงเก็บตัวไปแล้ว และทุกคนก็เชื่อว่าเราจะชนะแน่นอน ซึ่งสุดท้ายแล้วเราก็ทำได้สำเร็จในการคว้าแชมป์ และเอาชนะเวียดนาม ในรอบรองชนะเลิศ ถึงแม้จะมีประเด็นนอกสนามในเกมวันนั้น แต่เชื่อว่ามิตรภาพนอกสนามยังคงมีอยู่ ไม่ว่ากับทีมไหนในอาเซียนก็ตาม
● ความสุขในการอยู่วงการฟุตบอลไทย
แป้งรู้สึกมีความสุข และดีใจเป็นอย่างมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการทำทีมฟุตบอล ตั้งแต่เป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย, ประธานสโมสรการท่าเรือ เอฟ.ซี. ที่ยังดำรงตำแหน่งอยู่ และปัจจุบันที่ได้เป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลชายทีมชาติไทย แป้งก็หวังว่าจะเป็นส่วนเล็กๆ ที่ทำให้คนไทยทุกคนมีความสุข อย่างไรก็ตาม ถ้ายังดำรงตำแหน่งอยู่ เราก็พร้อมที่จะก้าวต่อไปข้างหน้า แม้ว่าจะเป็นก้าวที่ยากก็จะต้องก้าวไป
ให้ได้
“เวลารู้สึกเครียดจากการทำทีมฟุตบอล ก็จะแอบไปร้องเพลงคนเดียว
แม้ว่าเสียงจะไม่ดีก็ตาม นอกจากร้องเพลงแล้วก็ชอบแต่งตัว
อย่างแฟชั่นข้างสนามฟุตบอลก็ไม่เคยเป็นรองใครอย่างแน่นอน!”
● ความฝันใหญ่แฟนบอลหวังไทยไปบอลโลก
ถ้าพูดถึงฟุตบอลโลก แน่นอนว่าทุกชาติในแถบอาเซียน หรือทั้งทวีปเอเชีย ก็อยากไปฟุตบอลโลก ใครไม่อยากไปก็ไม่จริง การพัฒนาฟุตบอลไทยให้ไปถึงฟุตบอลโลกนั้นยากมาก เพราะครั้งนี้เราพลาดตกรอบไปแล้ว แต่รอบหน้าที่ทีมจากเอเชียจะได้โควต้า 8 ทีม ก็ถือว่ายังมีโอกาสอยู่ และเราจะต้องทำให้ได้ แต่หากดูแต่ละประเทศในเอเชียก็ถือว่าหิน และแข็งแกร่งกันหมด
“ฉะนั้นถ้าถามถึงโอกาสการไปบอลโลกที่จะเกิดขึ้นได้ ก็ต้องเกิดจากความสามัคคีของทุกคน และความเมตตาของผู้ใหญ่ในวงการฟุตบอลทุกคน ทุกสโมสรในประเทศ ที่จะช่วยกันผลักดันพัฒนานักเตะขึ้นมาช่วยทีมชาติไทยในอนาคต”
● หลายคนเชียร์ให้นั่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ
สำหรับการที่แป้งจะขึ้นมานั่งเก้าอี้นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ก็ต้องรอให้ระยะเวลาในการนั่งเก้าอี้ของ “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมคนปัจจุบันหมดลงเสียก่อน ส่วนจะได้เป็นหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับสโมสรสมาชิกว่าจะไว้วางใจให้ขึ้นมาทำหน้าที่หรือไม่ ซึ่งยังเป็นเรื่องของอนาคต
● ฝากข้อความถึงแฟนบอลชาวไทยทุกคน
ขอขอบคุณแฟนบอลชาวไทยมากๆ ที่ร่วมส่งกำลังใจให้นักฟุตบอลทีมชาติไทยที่ไปเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน รายการ “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020” ที่ประเทศสิงคโปร์ พวกเราเชื่อว่า การเป็นแชมป์เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ครั้งนี้จะเป็นของขวัญปีใหม่ที่ทำให้แฟนบอลชาวไทย หรือที่เราเรียกกันว่า “ผู้เล่นคนที่ 12” มีความสุขไม่มากก็น้อย
“ฝากฟุตบอลไทยทั้งชายและหญิง เอาไว้ในหัวใจของแฟนบอลชาวไทยด้วย อย่าลืมว่าเกมมีแพ้ มีชนะ แต่ว่ากำลังใจจากแฟนบอลชาวไทยเป็นสิ่งที่สำคัญ เนื่องในโอกาสปีใหม่ ขอให้แฟนบอลชาวไทยทุกคนอยู่รอดปลอดภัย และก้าวข้ามผ่านโรคระบาดโควิด-19 ไปให้ได้ และเนื่องในโอกาสที่ มติชน ครบรอบ 45 ปี ก็ขออวยพรให้มติชนเป็นสื่อที่อยู่คู่กับสังคมไทยไปตลอด” มาดามแป้งกล่าวปิดท้าย
จากความสำเร็จที่เกิดขึ้นทำให้ “มาดามแป้ง” ได้รับฉายา “มาดามขี่ม้าขาว” จากสมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย ซึ่งได้ตั้งฉายาคนกีฬา ประจำปี 2564 หลังจากที่โชว์ฝีมือประสานสิบทิศดึงนักเตะชั้นยอดจากทุกสโมสรทั้งในประเทศ และต่างประเทศมาได้มากที่สุดในรอบหลายปี จนกระทั่งในที่สุดสามารถคว้าแชมป์อาเซียนครั้งนี้มาครองได้สำเร็จ ซึ่งถือเป็นผู้ที่เข้ามากอบกู้ศรัทธาของฟุตบอลไทยได้ทันเวลาพอดี
จากความหวังในการกอบกู้ศรัทธาประสบความสำเร็จ เดินทางสู่ก้าวต่อไปกับความฝันอันยิ่งใหญ่ของ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ กับภารกิจสานฝันแฟนบอลชาวไทย ในการพาทีมชาติไทยไปสู่ฟุตบอลโลกให้ได้ในอนาคต…
เส้นทางบนถนนลูกหนัง
‘มาดามแป้ง’ นวลพรรณ ล่ำซำ
– ปี 2008 ได้รับการแต่งตั้งผู้จัดการทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย
– ปี 2009 ฟุตบอลหญิง ซีเกมส์ ครั้งที่ 25 ที่ประเทศลาว (รองแชมป์)
– ปี 2011 ฟุตบอลหญิงชิงแชมป์อาเซียน ที่ประเทศลาว (แชมป์)
– ปี 2013 ฟุตบอลหญิง ซีเกมส์ ครั้งที่ 27 ประเทศเมียนมา (แชมป์)
– ปี 2014 ฟุตบอลหญิง เอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 17 ที่ประเทศเกาหลีใต้ (รอบก่อนรองชนะเลิศ)
– ปี 2014 ฟุตบอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย ที่ประเทศเวียดนาม (อันดับ 5 คว้าตั๋วฟุตบอลโลก)
– ปี 2015 ฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก ที่ประเทศแคนาดา (รอบแบ่งกลุ่ม)
– ปี 2015 ฟุตบอลหญิง ปรีโอลิมปิก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง
– ปี 2015 ฟุตบอลหญิงชิงแชมป์อาเซียน ที่ประเทศเวียดนาม (แชมป์)
– ปี 2015 เข้ามาทำหน้าที่ประธานสโมสรการท่าเรือ เอฟ.ซี.
– ปี 2016 ฟุตบอลหญิงชิงแชมป์อาเซียน ที่ประเทศพม่า (แชมป์)
– ปี 2017 ฟุตบอลหญิง ซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ประเทศมาเลเซีย (รองแชมป์)
– ปี 2018 ฟุตบอลหญิงชิงแชมป์อาเซียน ที่ประเทศอินโดนีเซีย (แชมป์)
– ปี 2018 ฟุตบอลหญิง เอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่ประเทศอินโดนีเซีย (รอบก่อนรองชนะเลิศ)
– ปี 2018 ฟุตบอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย ที่ประเทศจอร์แดน (รอบรองชนะเลิศ คว้าตั๋วฟุตบอลโลก)
– ปี 2019 ฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก ที่ประเทศฝรั่งเศส (รอบแบ่งกลุ่ม)
– ปี 2019 สโมสรการท่าเรือ เอฟ.ซี. คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ
– ปี 2020 สโมสรการท่าเรือ เอฟ.ซี. รองแชมป์ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนส์คัพ
– ปี 2021 ได้รับการแต่งตั้งผู้จัดการทีมฟุตบอลชายทีมชาติไทย
– ปี 2021 ฟุตบอลชายชิงแชมป์เอเชีย รุ่นยู-23 รอบคัดเลือก ที่ประเทศมองโกเลีย (อันดับ 2 กลุ่มเจ)
– ปี 2021 ฟุตบอลชายชิงแชมป์อาเซียน ที่ประเทศสิงคโปร์ (แชมป์)
