ที่มา | เสาร์ประชาชื่น มติชนรายวัน |
---|---|
เผยแพร่ |
จบไปแล้วอย่างงดงามสำหรับงาน Matichon Book Launch 9 เล่ม ก้าวต่อไปของสำนักพิมพ์มติชน เปิดศักราชใหม่ในปี 2565 คึกคักด้วย 6 วงสนทนาจากการรวมตัวของ 13 นักเขียน นักวิชาการและนักแปลระดับประเทศ กับหนังสือ 9 เล่มใหม่
The Marshal Social Club ซอยประดิพัทธ์ 13 อบอุ่นด้วยแฟนหนังสือที่ทยอยเดินทางเข้าร่วมตั้งแต่ช่วงสายจรดค่ำ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
เปิดบทสนทนาในพื้นที่ส่วนกลาง สร้างสัมพันธ์ระหว่างนักเขียน นักแปล คนทำหนังสือ และนักอ่านเข้าด้วยกัน ในวันที่มติชนก้าวเข้าสู่ปีที่ 45
ประวัติศาสตร์ มานุษยวิทยา วรรณกรรม โบราณคดี การเมืองร่วมสมัย จนถึงบันทึกความทรงจำทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลากหลายหัวข้อชวนติดตาม ไม่ว่าจะเป็น ปราสาทในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดย ศ.ดร.เชษฐ์ ติงสัญชลี, คนจรดาบ โดย วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง, The Portrait of a Lady โดย สุภัตรา ภูมิประภาส และมิ่ง ปัญหา, ไทยในสายตาต่างชาติ กับคนหลากชาติในบางกอก โดย ศ.(พิเศษ) ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ รศ.ดร.ยุกติ มุกดาวิจิตร และ ผศ.ดร.พิเชฐ สายพันธ์, และประวัติศาสตร์การพิมพ์กับอำนาจความรู้ของสามัญชน โดย ศ.(พิเศษ) ธงทอง จันทรางศุ และ ศ.ดร.ธเนศ อาภรณ์สุวรรณ
ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีกิจกรรมเวิร์กช็อป ทัวร์บ้านจอมพลฟื้น โดย อพิสิทธิ์ ธีระจารุวรรณ รองผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลมติชน ถ่ายภาพกับตู้สติ๊กเกอร์สุดเพลินใจ และกิจกรรมพับกระดาษโอริงามิสัตว์มหัศจรรย์ กับ ดร.บัญชา ธนบุญสมบัติ เจ้าของหนังสือ All About Clouds เล่มนี้มีเมฆมาก และผู้ก่อตั้งชมรมคนรักมวลเมฆ
สำนักพิมพ์มติชน คัดสรรส่วนหนึ่งของถ้อยคำในบทสนทนาจากวิทยากรที่ต้องขีดเส้นใต้เน้นย้ำข้อความสำคัญ ดังนี้
1.“รัฐตอแยแค่ไหนกับการพิมพ์
รัฐตอแยเมื่อสิ่งพิมพ์ไปสั่นสะเทือนบทบาทและความเชื่อของรัฐ”
ศ.(พิเศษ) ธงทอง จันทรางศุ
จากเสวนา ‘ประวัติศาสตร์การพิมพ์กับอำนาจความรู้ของสามัญชน’
2.“ภาพแรกที่ผมคิดเกี่ยวกับการพิมพ์ไทย ผมว่ามันมาพร้อมกับความตื่นตัวทางความคิด ความต้องการที่จะรู้สิ่งใหม่ การเปลี่ยนแปลงทั้งหลายในสังคมมันต้องเริ่มที่ความคิดก่อน ถ้าความคิดไม่เปลี่ยนอย่าไปหวังเลย”
ศ.ดร.ธเนศ อาภรณ์สุวรรณ
จากเสวนา ‘ประวัติศาสตร์การพิมพ์กับอำนาจความรู้ของสามัญชน’
3.“ปฏิทินตั้งโต๊ะที่บอกวันหยุด เป็นเหมือนไกด์ไลน์ในการวางแผนชีวิต เป็นกรอบเฟรมพฤติกรรม เขากรุณาปรานีให้หยุด เราจึงได้หยุดเพราะมีวันนั้น นั่นคือ Soft Power รูปแบบหนึ่ง”
ศ.ดร.ชาตรี ประกิตนนทการ
จากเสวนา ‘365 วัน กับความทรงจำใต้อำนาจ’
4.“เราถูกสอนให้กลัวเจ้าอนุวงศ์ว่าเป็นเจ้าลาว เป็นกบฏ แต่จริงๆ เจ้าอนุวงศ์อาจรู้จักกรุงเทพดีกว่าพวกคุณอีก ลองไปหาคำตอบได้ในหนังสือเล่มนี้”
รศ.ดร.ยุกติ มุกดาวิจิตร
กล่าวถึงหนังสือ ‘ก่อร่างเป็นบางกอก’ จาก เสวนา ‘ไทย’ ในสายตาต่างชาติ กับคนหลากชาติในบางกอก
5.“หนังสือ Thai Culture and Behavior เขียนขึ้นมาในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งช่วงนั้นไม่ได้รับการตีพิมพ์ แต่งานมานุษยวิทยาชิ้นนี้กลับโดดเด่นขึ้นมาในช่วงสงครามเย็น”
ศ.(พิเศษ) ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ
จากเสวนา ‘ไทย’ ในสายตาต่างชาติ กับคนหลากชาติในบางกอก
6.“งานของ Edward Van Roy ทำให้เห็นว่า การเกิดขึ้นของกรุงเทพฯ ไม่ใช่เมืองเทพสร้าง มันเกิดขึ้นจากความหลากหลายของทุกคน”
ผศ.ดร.พิเชฐ สายพันธ์
จากเสวนา ‘ไทย’ ในสายตาต่างชาติ กับคนหลากชาติในบางกอก
7.“วรรณกรรมเป็นเหมือนพื้นที่ทดลองว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ กับสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ อย่างเช่นมิตรภาพของคนอินเดียและอังกฤษ”
มิ่ง ปัญหา
จากเสวนา The Masterpiece A Passage to India – The Portrait of a Lady
8.“ปราสาทคือบ้านของพระเจ้า ไม่เหมือนสถูปที่เป็นหลุมฝังศพ พระเจ้าในที่นี้คือ ยังทรงพระชนม์และอมตะ ดังนั้น เราสร้างปราสาทเป็นที่ประทับและเป็นที่แสดงพลังอำนาจของพระองค์ไปในตัว”
ศ.ดร.เชษฐ์ ติงสัญชลี
จากเสวนา เที่ยวทิพย์ปราสาทในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
9.“คนจรดาบเป็นนิยายทดลอง ว่าผู้อ่านจะตอบรับอย่างไร ผมใช้เป็นภาษาพงศาวดารที่ทำให้ง่าย และแปลงให้ได้รสชาติเป็นพงศาวดารจำแลง ประหนึ่งอ่านพงศาวดารแต่เป็นนิยาย
ตัวละครเอกเป็นตำรวจกองปราบ มีหน้าที่จับผู้ร้ายให้ได้ เป็นหน้าที่และการเอาตัวรอด เรื่องการโยงไปยังความรักชาติไม่มีเพราะยังไม่มีชาติ จะมีเรื่องอาณาจักร เจ้านาย บุญคุณ ผมไม่ได้สะท้อนถึงขั้นวิพากษ์วิจารณ์ แต่ให้อ่านเอาสนุก มันคือเรื่องสืบสวนการฆาตกรรมในยุคไม่มีอินเตอร์เน็ต ไม่มีเทคโนโลยี”
วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง
นักเขียนและผู้กำกับภาพยนตร์
จากเสวนา ‘กำลังภายใน พงศาวดารและวรรณกรรมนักเลง ใน หนังสือเรื่องคนจรดาบ’