| ผู้เขียน | พันธุ์ทิพย์ ธีระเนตร |
|---|
Knowledge Book Fair ‘อ่านเต็มอิ่ม’ ชิม (อรรถ) รส จากใต้ดินถึงอวกาศ
“การอ่านคือเรื่องสนุก ความรู้เป็นความสุข”
คือคำตอบของ ปานบัว บุนปาน กรรมการผู้จัดการบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) ต่อคำถามถึงแนวคิดของ Knowledge Book Fair เทศกาลหนังสือที่มีชื่อภาษาไทยจดจำง่ายว่า ‘อ่านเต็มอิ่ม’ สื่อความหมายด้วยนัยยะไม่ซับซ้อน ทว่า น่าสนใจอย่างยิ่ง นั่นคือ การผนวกกันแบบ ‘ทูอินวัน’ ของ อาหารรสเลิศที่ชวนให้ลองลิ้มชิมรส และอาหารสมองที่ชวนให้ลองเสพอรรถรสหลากหลายผ่านตัวอักษรในหน้าหนังสือ
ทั้งคู่ต่างหล่อเลี้ยงลมหายใจ ชีวิต และจิตวิญญาณ
เสาร์ที่ 18-อาทิตย์ที่ 19 กุมภาพันธ์นี้ อาหาร 2 แบบ จะมารวมกัน ณ มิวเซียมสยาม พร้อมเสิร์ฟโดยสำนักพิมพ์มติชน ร่วมกับ สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) หรือ OKMD, มิวเซียมสยาม พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้, หน่วยวิจัยแผนที่และเอกสารประวัติศาสตร์สถาปัตยกรรม, Spaceth.co, MTEC ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ, สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.), สมาคมป้ายยาหนังสือ, สมาคมการ์ตูนไทย, Sentangsedtee และศูนย์ข้อมูลมติชน (MIC)
จากจุดเริ่มต้นในชื่อ Knowledge Book Fair โดย OKMD สู่การขยายสเกล ผ่านการตีความเป็น ‘อ่านเต็มอิ่ม’ โดย สำนักพิมพ์มติชน จับมือพันธมิตร พร้อมอีกกว่า 15 สำนักพิมพ์ จัดกิจกรรมกระตุ้นการเรียนรู้หลากหลายรูปแบบ สนุกกับหลากสีสันความรู้และความบันเทิง ตั้งแต่ใต้ดินไปจนถึงอวกาศ รวมพลนักเขียน นักแปล นักวิชาการ นักชิม นักเล่นนักวิ่ง นักสร้างสรรค์ มาพบปะ พูดคุย สบสายตา
ศิลปวัฒนธรรม สารคดี วิทยาศาสตร์ วรรณกรรม การเมือง วิชาการ สุขภาพ แรงบันดาลใจ และอีกมากมาย คือเมนูหลากหลายในศาสตร์ ‘ต่างรสชาติ’ ที่ล้วนชวนอ่านอย่าง ‘เอร็ดอร่อย’ และ ‘เต็มอิ่ม’
พร้อมชิมอาหารอร่อยจากนานาร้านดังทั่วเมืองไทย มีให้เลือกครบรสทั้งคาวหวานและเครื่องดื่มชื่นใจ คัดแล้วคัดอีก โดย Sentangsedtee
เรียนรู้เรื่องราวลึกลงไปตั้งแต่ ใต้ผืนดิน ของกรุงธน-กรุงเทพฯ ย้อนฟังพงศาวดารกระซิบ สุ้มเสียงจากวันวาน ไปจนถึงการสำรวจท้องฟ้า จินตนาการถึง ห้วงอวกาศ ผ่านข้อมูลเข้มข้นด้านวิทยาศาสตร์ อันเป็นเสียงเพรียกจากอนาคต
อ่านสนุก กินอร่อย ย่อย ‘องค์ความรู้’ หลากมิติ
เพราะหนังสือ ‘ไม่ใช่แค่อ่าน แล้วจบ’
ปานบัว เผยว่า อยากทำเทศกาลที่ตอบโจทย์องค์ความรู้ได้ คิดว่าทุกคนกระหายความรู้ ไม่ต่างจากอาหาร ซึ่งมติชนเชี่ยวชาญทั้ง 2 ด้าน
“ต้องกินทั้งคู่ ไม่ว่าจะอาหาร หรืออาหารสมอง ซึ่งมติชนเชี่ยวชาญทั้ง 2 ด้านจริงๆ คือ เชี่ยวชาญด้านหนังสือมากๆ และเชี่ยวชาญด้านอาหารมากๆ ด้วย เลยคิดว่า เอาไป 2 ด้านเลย ทูอินวัน ‘อ่านเต็มอิ่ม’ สนุกกับการเรียนรู้ แวดล้อมไปด้วยอาหารอร่อย จะได้อยู่ร่วมทำกิจกรรมได้ทั้งวัน อาหาร 2 แบบจะร่วมมือกันหล่อเลี้ยงความรู้และความสุขให้กับคนในสังคม”
สำหรับอาหารสมอง เอ็มดีมติชนย้ำว่า หนังสือไม่ใช่แค่อ่านแล้วจบ แต่มีมิติมากกว่านั้น จึงเป็นที่มาของกิจกรรมหลากหลายในเทศกาลครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็น วอล์กกิ้งทัวร์, อาร์ตทัวร์, บุ๊กทอล์ก, บุ๊กเทสต์, เวิร์กช็อป ไปจนถึงเพลย์กราวด์ สำหรับเด็กๆ รวมไปถึงดนตรีในช่วงค่ำที่แย้มว่า มีเซอร์ไพรส์ แน่นอน
“งานนี้วางกิจกรรมทุกอย่างเต็มที่ที่สุดเท่าที่มติชนเคยทำมา มีวอล์กกิ้งทัวร์ช่วงเช้า เสวนาตลอดทั้งวันโดยนักคิดนักเขียนที่ทุกคนอยากเจอ หรือถ้าเป็นคนที่ชอบทำกิจกรรมก็มาวิ่งกับครูดิน ชมงานอาร์ตเบียนนาเล่กับภาณุ และถ้าเป็นเด็กเล็กก็มาฝึกพับกระดาษกับอาจารย์บัญชา” ปานบัว หมายถึง เวิร์กช็อป วิ่งเลาะวัง โดย สถาวร จันทร์ผ่องศรี หรือครูดิน กิจกรรม “Art Observed : ศิลปะพอสังเกต” โดย “ภาณุ บุญพิพัฒนาพงศ์” และเพลย์กราวด์ พับกระดาษและสำรวจท้องฟ้า โดย ดร.บัญชา ธนบุญสมบัติ
สะท้อนภาพชัดของการแตกแขนง ต่อยอด พร้อมเปิดเวทีให้มากที่สุด มีกิจกรรมให้หลากหลายที่สุด โดยทุกคนมีสิทธิร่วมกิจกรรมที่สนใจด้วยตัวเอง จะเลือกทัวร์ เทสต์ ทอล์ก หรืออื่นๆ ก็คัดสรรรสชาติที่ชอบได้ตามใจปรารถนา ซึ่งทุกสิ่งล้วนเป็นองค์ความรู้
“Knowledge คือ ทุกมิติ วรรณกรรม ก็เป็น Knowledge ประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ก็ใช่ อะไรก็เป็นทั้งนั้น แม้กระทั่งพื้นที่จัดงาน พื้นที่คือองค์ความรู้แรกที่ต้องทำความรู้จัก อย่างครั้งนี้จัดงานที่มิวเซียมสยาม ตัวสถานที่มีความน่าสนใจมาก จึงจัดวอล์กกิ้งทัวร์ขึ้นมา ให้เข้าใจประวัติศาสตร์ของท่าเตียนและมิวเซียมสยาม โดยหวังว่าเมื่อฟังและเห็นมากขึ้นก็จะนำไปสู่การอ่าน การเรียนรู้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ต่อเนื่องกัน” ปานบัวอธิบาย
ดีเบตจานแซ่บ-แชร์คอมเมนต์ หนังสืออะไร เปลี่ยนชีวิตคุณ
ส่วนกิจกรรมอื่นๆ อาทิ บุ๊กเทสต์ ก็ชวนน้ำลายสอด้วย 2 รสมือ ได้แก่ BREWING FOR MASTERPIECE โดย โตมร ศุขปรีชา – ภชภร นิชชากร และรสไทยแท้ มีจริงหรือ โดย อาสา คำภา ดำเนินรายการโดย คำ ผกา การันตี ความ แซ่บลื้ม
“พี่โตมร เป็นต้นแบบของคนมีความรู้และมีความสุขในการใช้ชีวิต ด้วยความรู้ที่มีทำให้สามารถหยิบจับอะไรมาเล่าและอธิบายก็ได้อย่างรื่นรมย์ ในงานนี้คือกาแฟและวรรณกรรม เราพยายามสื่อว่า หนังสือจับคู่สนทนาหรือร่วมกิจกรรมกับอะไรก็ได้ กาแฟ อาหาร เพลง วอล์กกิ้งทัวร์ เวิร์กช็อป จะอ่านไป กินไป คุยไปก็ได้ นี่คือการเปิดมุมมองด้านหนังสือให้ไม่น่าเบื่อ
ส่วนรสไทยไม่แท้ซึ่งเป็นหนังสือที่ประสบความสำเร็จสูงมาก เลยชวนพี่แขก คำ ผกา มาดีเบตข้างฟู้ดโซนไปเลย ที่ทำทั้งหมด ไม่ได้แค่ชวนอ่าน ชวนซื้อ แต่ชวนถกเถียง แลกเปลี่ยนความเห็น นี่คือความพยายามที่จะทำให้หนังสือแวดล้อมด้วยมิติต่างๆ” เอ็มดีมติชนกล่าว ทั้งยังเล่าเกร็ดที่ว่า เวลาใครไปเจอ สุจิตต์ วงษ์เทศ จะถูกชวน กินข้าว พร้อมพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้ผ่านบทสนทนา
ส่วนในเทศกาลครั้งนี้ สุจิตต์เตรียมเสิร์ฟเมนูอมตะ ‘จารึกพ่อขุนรามคำแหง วรรณกรรมการเมืองสมัยรัตนโกสินทร์’ ที่ยอดจองโต๊ะล้นหลามเกินพิกัดไปเรียบร้อยแล้ว
อีกกิจกรรมพิเศษที่เชื่อว่ามาแรงอย่างไม่ต้องสงสัย คือ Book sharing แจกหนังสือ Best seller เกือบ 240 ปก รวมกว่า 2,000 เล่ม ตลอด 2 วัน เพียงเขียนความเห็นว่าหนังสืออะไร เปลี่ยนชีวิตคุณ เพื่อระดมความเห็นต่อประเด็นที่มีผลกระทบกับสังคมไทยอย่างมาก
“เราแลกเปลี่ยนกัน คุณให้ความเห็นว่า หนังสืออะไรที่เปลี่ยนชีวิตคุณ แล้วก็จะได้รับเล่มใหม่ไปเติมเสริมความรู้ จริงๆ ไม่มีใครรู้หรอกว่าหนังสืออะไรเปลี่ยนชีวิตใคร หรือหนังสือแนวไหนเปลี่ยนชีวิตคนไทย งานนี้น่าจะเป็นงานแรกที่จะได้ข้อมูลเบื้องต้นว่า ตกลงแล้วหนังสือที่มีอิมแพคกับคนไทยคือหนังสืออะไร อาจเป็นหนังสือที่เราคิดไม่ถึงก็ได้” ปานบัวกล่าวไ
เปิดความรู้ ดูความจริง เห็นความงาม
ผ่านงานแฟร์ ‘ที่ไม่ได้เคร่งขรึมวิชาการจ๋าจัด’
ถามถึงความแตกต่างระหว่างเทศกาลนี้ กับงานหนังสืออื่นๆ ปานบัวตอบทันทีว่า แตกต่างทั้งหมดเลย
“เราไม่ได้เน้นออกบูธขายอย่างเดียว สิ่งที่มติชนทำมาตลอดคือการสร้างองค์ความรู้อย่างต่อเนื่องและจริงจังด้วยความรับผิดชอบ ที่ผ่านมามีการเปิดตัวสำนักพิมพ์ใหม่ในเครือที่อ่านง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็น SILPA ZIP ประวัติศาสตร์อ่านง่าย รวมถึง Broccoli Book วิถีชีวิตอ่านง่าย และกำลังจะเปิดตัว sundogs วิทยาศาสตร์อ่านง่าย เราแตกไลน์หนังสือใหม่ สร้างรีดดิ้งกรุ๊ป ทำวอล์กกิ้งทัวร์ เปิดบาวบุ๊คมุมหนังสือเพื่อชุมชน จัดโกดังหนังสือดี มอบรางวัลมติชนอวอร์ด เพิ่มงานหนังสือสัญจร เสริมงานห้องสมุดมีชีวิต จนมาถึงงานนี้ ซึ่งอยู่ในร่มของแนวคิด ‘สังคมอุดมปัญญา’
นี่คือสิ่งที่มติชนตั้งใจให้หนังสือเข้าถึงระดับคนอ่านให้สนุกที่สุดด้วยรูปแบบที่หลากหลาย” ปานบัวอธิบาย พร้อมทิ้งท้ายว่า หากเทศกาลนี้ประสบความสำเร็จ อยากให้มีโอกาสได้สัญจรทั่วประเทศ เพราะความรู้เป็นเสน่ห์ เป็นความน่าตื่นเต้น เป็นเรื่องชวนค้นหา และเป็นสิ่งที่ต้องสร้างขึ้นอย่างเข้มแข็ง
สอดคล้องกับมุมมองของ โตมร ศุขปรีชา ผู้อำนวยการสำนักยุทธศาสตร์และนวัตกรรมการเรียนรู้แห่ง OKMD ที่บอกว่าเวลามีงานหนังสือในไทย เรามักจะเห็นงานหนังสือแบบ ‘ทั่วไป’ เสียเป็นส่วนใหญ่ กล่าวคือไม่ได้แบ่งแยกว่าเป็นหนังสือประเภทไหน แต่ Knowledge Book Fair ที่ OKMD จัดร่วมกับมติชน มิวเซียมสยาม และภาคีเครือข่ายอื่นๆ เป็นงานหนังสือที่มุ่งเน้นไปที่เรื่องของ ‘ความรู้’ เป็นสำคัญ หรือเป็นหนังสือประเภทที่ฝรั่งเรียกว่า Brainy Books
“ถ้าสังเกตดูในตลาดหนังสือโลก เราจะเห็นว่าหนังสือประเภทนี้ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ หลายคนอาจจะบอกว่าสมัยนี้เราสามารถค้นคว้าหา ข้อมูล กันได้ง่ายแค่ปลายนิ้ว แต่ในโลกที่ข้อมูลหาง่าย เรากลับพบว่า ความจริง ในข้อมูลกลายเป็นสิ่งที่มีค่ามากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเราไม่รู้เลยว่าข้อมูลที่ได้มานั้น มีการกลั่นกรองคัดสรรมามากน้อยแค่ไหน แม้กระทั่งการพูดคุยกับ Chat AI บางครั้งเราก็อาจได้พบกับ ท่าที อันทรงภูมิและวิธีเขียนที่น่าเชื่อถือ แต่เป็นท่าทีที่อาจกลบข้อมูลที่วันนี้ยังไม่สมบูรณ์ดีพอก็ได้
แต่หนังสือไม่เป็นอย่างนั้น เพราะหนังสือผ่านการคัดเลือกและกลั่นกรองมาแล้วทั้งจากผู้เขียน บรรณาธิการ และสำนักพิมพ์ ยิ่งถ้าเป็นหนังสือแนว ความรู้ ก็ยิ่งต้องพิถีพิถันกับข้อมูลความรู้ที่อยู่ในหนังสือมากขึ้นไปอีก ในโลกที่ข้อมูลหาง่าย ความจริงหายาก เราจึงหันกลับมาเชื่อมั่นใน หนังสือ กันมากขึ้นด้วยเหตุนี้นี่เอง
แต่ความรู้ไม่ได้มีด้านเดียว ดังนั้น งานอย่าง Knowledge Book Fair ที่รวบรวมเอาสำนักพิมพ์ที่ผลิตงานเชิงความรู้หลากสาขามาอยู่ที่เดียวกัน จึงเป็นงานที่น่าจะทำให้ผู้มาเยี่ยมชมได้เปิดพรมแดนแห่งความรู้ของตัวเองให้กว้างขึ้นไปได้อีกไม่รู้จบ ยิ่งเป็นงานแบบ ‘งานแฟร์’ ที่ไม่ได้เคร่งขรึมวิชาการจ๋าจัด แต่มีการจัดแจงให้เกิดกิจกรรมสนุกๆ ก็ยิ่งทำให้สมองของเรา เปิด พร้อมรับความรู้ ความจริง และไล่เลยไปถึงกระทั่งความงามใหม่ๆ ในชีวิตได้อีกมาก” โตมรกล่าว
เมื่อถามถึงความคาดหวัง ผอ.ยุทธศาสตร์ OKMD เผยว่า อาจจะตอบไม่ได้ว่าจะเห็นผลในทันทีต่อสังคม แต่หากมีงานแบบนี้ต่อเนื่อง สิ่งเหล่านี้จะค่อยๆ ฟูมฟักตัวเองอยู่ในผู้คนมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วสร้างเป็นโลกและผู้คนรายล้อมรอบตัวเราที่กระหายใคร่รู้ สนใจในความรู้ใหม่ๆ ตรวจสอบความรู้เหล่านั้น และใช้ความรู้เหล่านั้นมาตรวจสอบความคิดความเชื่อเก่าๆ ของตัวเองไปพร้อมกัน
หนังสือ บ่อแร่ความรู้ สู่ความกระหายไม่สิ้นสุด ปลุกประเทศเข้มแข็ง
สำหรับมุมมองของคนทำหนังสืออย่าง มณฑล ประภากรเกียรติ ผู้จัดการสำนักพิมพ์มติชน มองว่า สิ่งพิมพ์กระดาษเป็นเสมือนบ่อแร่ความรู้ที่ไม่มีสิ้นสุด หนังสือจึงเป็นเครื่องมือสื่อกลางในการสื่อสารระหว่างกระดาษสู่สังคมมนุษย์ การอ่านช่วยให้พัฒนาศักยภาพอย่างเต็มรูปแบบได้ แต่เราก็ยังกระหายที่จะเรียนรู้อย่างไม่สิ้นสุด ในหลากหลายรูปแบบ ไม่เพียงจำกัดเฉพาะการอ่านเท่านั้น สำนักพิมพ์นอกจากเป็นตัวแทนของคนทำหนังสือที่ผลิตสื่อกระดาษแล้ว ยังเป็นตัวแทนของการส่งต่อความรู้สู่สังคมในหลายรูปแบบเรื่องการเรียนรู้
“การจัดกิจกรรมในงาน Knowledge Book Fair หมุดหมายอยู่ที่สร้างการเรียนรู้จากหนังสือ แต่ไม่ใช่เพียงแค่การอ่านเท่านั้น แต่ยังมีกิจกรรมอีกหลากรูปแบบ แม้กระทั่งการเรียนรู้เรื่องเร้นลับที่หาคำตอบได้ด้วยเหตุวิทยาศาสตร์ ทั้งหมดนี้เรามีจุดมุ่งหวังว่า หากจะเกิดความรู้ได้ เราอาจไม่ได้ใช้เพียงแค่การอ่านอย่างเดียว แต่หากหนังสือเป็นเพียงเชื้อไฟในการเรียนรู้ ที่จะต่อยอดสู่ความรู้ในหลากรูปแบบที่ยิ่งใหญ่กว่า
สำหรับงานนี้ สำนักพิมพ์มติชนไม่ได้มาโชว์ของแค่แห่งเดียว เราชวนเพื่อนสำนักพิมพ์ร่วมอุดมการณ์มาร่วมสร้างการเรียนรู้ร่วมกันด้วย อาทิ สำนักพิมพ์สารคดี-เมืองโบราณ สำนักพิมพ์แสงดาวสำนักพิมพ์ต้นฉบับ สำนักพิมพ์ริเวอร์บุ๊คส์ มูลนิธิโครงการตำราฯ สำนักพิมพ์ Salt สำนักพิมพ์ Salmon สำนักพิมพ์แอร์โรว์ สำนักพิมพ์ยิปซี สำนักพิมพ์นานมีบุ๊คส์ สำนักพิมพ์อะโวคาโด สำนักพิมพ์ Bookscape สำนักพิมพ์สุขภาพใจ และสำนักพิมพ์ Sophia มั่นใจได้เลยว่าทั้งกลุ่มเพื่อนสำนักพิมพ์ และสำนักพิมพ์มติชน มาอัดแน่นความรู้แบบสนุกๆ สร้างอิมแพคต่อสังคมไม่แพ้งานหนังสือไหนๆ เลย” มณฑลกล่าว
ปิดท้ายด้วยการย้ำชัดของ นฤตย์ เสกธีระ กรรมการผู้จัดการบริษัท งานดี จำกัด ซึ่งเผยว่า เครือมติชนต่อสู้ในเรื่อง ‘การอ่าน’ ตลอดมา ผ่านโครงการและกิจกรรมหลากหลาย ทั้งที่เกี่ยวข้องกับหนังสือ และอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นวอล์กกิ้งทัวร์ชุมชน โดยศูนย์ข้อมูลมติชน หรือ MIC รวมถึงการจับมือระหว่างคาราบาวกรุ๊ป และเครือมติชน เปิด ‘บาวบุ๊ค’ แผงหนังสือคู่ชุมชนในร้าน ‘ซีเจ ซูเปอร์มาร์เก็ต’ การเปิดโกดังหนังสือราคาย่อมเยาให้คนทั่วไปเข้าถึงได้
จนถึง โครงการชุมชนอุดมปัญญา ภายใต้แนวคิด ‘ชุมชนเข้มแข็งด้วยหนังสือ’ จัดซื้อหนังสือและสมัครสมาชิกนิตยสารรายปีมอบให้ชุมชนทั่วประเทศ สร้างภูมิต้านทาน เสริมพลังแข็งแกร่ง จุดไอเดียความคิดในด้านต่างๆ ทั้งการบ้านการเมือง การประกอบอาชีพ จัดเสวนาฟื้นคืนชีวิตให้ห้องสมุดเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ที่แท้จริง กระทั่งมาถึง Knowledge Book Fair เทศกาลอ่านเต็มอิ่ม ในครั้งนี้ ซึ่งล้วนมีวัตถุประสงค์เดียวกันคือการส่งเสริมการอ่าน
“ถ้าปลุกคนให้อ่านได้ ประเทศชาติจะดีขึ้นเยอะ” เอ็มดีงานดี กล่าวกระชับ ได้ใจความ
นับเป็นเทศกาลสุดปังที่เปิดครบทุกมิติ พร้อมเสิร์ฟองค์ความรู้หลากรสชาติจากศาสตร์หลายแขนงให้ดื่มด่ำอย่างเต็มอิ่มและคุ้มค่าในทุก (ถ้อย) คำ
Knowledge Book Fair เทศกาลอ่านเต็มอิ่ม
18-19 กุมภาพันธ์นี้ ที่มิวเซียมสยาม เวลา 15.00-21.00 น.
หมายเหตุ : กิจกรรม เริ่ม 09.00 น. เป็นต้นไป
มีอาหารอร่อยจากนานาร้านดังทั่วเมืองไทยมาให้เลือกครบรสทั้งคาวหวานและเครื่องดื่ม คัดสรรโดย Sentangsedtee ไม่ว่าจะเป็นร้าน ฮ่องเต้ กุยช่ายบางกรอบ / แคลิฟอร์เนียแซนด์วิช / ไต๋ไต๋ แกงกะหรี่ / บั๋นหมี่สะใภ้เวียดนาม / สเต็กฅน“กาง”แจ้ง / ณอชอครอฟเฟิล Norchor croffle and bakeroom / แม่ หมูสะเต๊ะ / EATORY / ทะเลดอง AAA บายคุณอั้ม / Fair Chocolate / Slow’s Coffee / ขนมจีนทอดมันน้ำยาปู by พิม / เนื้อแคมป์ไฟมาสเตอร์เชฟจูเนียร์ / หมีกระป๋อง / ลูกชิ้นชาวเรือ / จินหลง สุกี้โบราณ/ Charcuterie.Bkk ชีสบอร์ด / Fatboy Craft & BBQ
ดื่มด่ำบรรยากาศสบายๆ ฟังเพลงชิลชิล ในสวนโดยวง Roberto Uno
ติดตามความเคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊ก Matichon book-สำนักพิมพ์มติชน โทร 0-2589-0020
พันธุ์ทิพย์ ธีระเนตร
