| ผู้เขียน | ณัฐสุดา พิพัฒฐาดร |
|---|
เปิดตัวไปอย่างสวยงามกับภาพยนตร์เรื่อง Earth : One Amazing Day หรือ “เอิร์ธ 1 วันมหัศจรรย์สัตว์โลก” ภาพยนตร์สารคดีระดับโลกที่สร้างโดยทาง BBC โดยได้ ริชาร์ด เดล ผู้กำกับ นักเขียนบทภาพยนตร์มือรางวัล BAFTA และ Emmy ถ่ายทอดเรื่องราวของสรรพสัตว์ ได้โปรดิวเซอร์อย่าง “สตีเฟน แมคโดโน” ถ่ายทำด้วยเทคโนโลยีเฟรมเรท 1,000 เฟรมต่อ 1 วินาที โดยไม่ใช้คอมพิวเตอร์กราฟิกแต่อย่างใด
ใช้เวลาถ่ายทำถึง 3 ปี ถ่ายทำชีวิตสัตว์ป่าถึง 38 ชนิด และด้วยความที่ฟุตเทจเยอะมากเท่ากับขนาด DVD จำนวน 250,000 แผ่น ซึ่งต้องใช้เวลาตัดต่อ 1 ปีเลยทีเดียว โดยผู้สร้างไม่เพียงต้องการภาพยนตร์ที่สามารถแข่งกับหนังดังๆ ในฮอลลีวู้ดได้ ยังต้องการให้เยาวชนรุ่นหลังได้เห็นสิ่งที่สวยงามของโลกใบนี้
“เอิร์ธ 1 วันมหัศจรรย์สัตว์โลก” เปิดตัวพร้อมกับการ “บลูคาร์บอน โซไซตี้” (Blue Carbon Society) หรือ “ชุมชนพิทักษ์โลกให้สวยงาม” เมื่อวันจันทร์ที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา องค์กรที่เป็นการสร้างเครือข่ายผู้ที่ชื่นชอบทะเล ผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงกลุ่มอาสาสมัคร เพื่อร่วมกันดูแลสิ่งแวดล้อมทางทะเล ตลอดจนสัตว์น้ำที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ โดยมี ดร.ชวัลวัฒน์ อริยวรารมย์ และ
คู่ชีวิต ทิพพาภรณ์ อริยวรารมย์ นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มบริษัทดีที ที่ห่วงใยสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างเครือข่ายคนรักโลก และพัฒนาระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่งอย่างยั่งยืน
ที่ผ่านมาเรามักจะคุ้นกับคำว่า “Green Carbon” ซึ่งมี “ต้นไม้” เป็นฮีโร่ทำหน้าที่ดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ และปล่อยออกซิเจนออกมาให้มนุษย์ แต่ด้วยสัดส่วนของโลกที่มีพื้นดินเพียงแค่ 1 ในสี่ของโลกเท่านั้น จึงไม่สามารถดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้ทั้งหมด
ขณะเดียวกันจะเห็นว่าชั่วเวลาเพียงแค่ 50 ปี พื้นที่สีเขียวของประเทศไทยลดลงไปกว่าครึ่ง จากปี 2504 มีพื้นที่สีเขียวราว 53% ในปี 2556 ลดลงเหลือเพียง 31% เท่านั้น หากจะต้องทำให้พื้นที่สีเขียวกลับมาเป็นอย่างเดิม รัฐบาลต้องใช้ปริมาณเงินมากถึง 6 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งมากเกินที่รัฐบาลจะรับภาระไหว
แต่ตอนนี้โลกของเราสามารถดึงศักยภาพของทะเล พืชในน้ำ ต้นไม้ที่อยู่ติดกับริมทะเล ริมน้ำ ป่าฝั่งชายเลน เรียกว่า “บลูคาร์บอน” ที่ดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศได้มากกว่ากรีนคาร์บอน
ดร.ชวัลวัฒน์จึงมองว่า “Blue Carbon” เป็นตัวช่วยให้โลกรอดพ้นจากภาวการณ์เปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ และภาวะโลกร้อนได้ ด้วยพื้นที่น้ำที่มีถึง 3 ใน 4 ของพื้นที่ทั้งโลก บลูคาร์บอนจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ในโลกของเรา ที่ทำหน้าที่เสมือน “เครื่องฟอกอากาศของโลก” ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์จึงหันไปให้ความสนใจกับบลูคาร์บอน และพบว่าบลูคาร์บอนมีศักยภาพในการเก็บกักคาร์บอนได้สูงกว่ากรีนคาร์บอนเสียอีก
ทางด้าน มาร์ติน ฮาร์ท-ฮาร์เซน รองผู้แทนโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ ประจำประเทศไทย (UNPD) บอกว่า ประเทศไทยเป็นหนึ่งใน 20 ประเทศ ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ แต่ประเทศไทยก็เป็นประเทศที่ทิ้งขยะ
ลงในแม่น้ำติดอันดับต้นๆ ของโลกด้วยเช่นกัน ส่งผลให้ขยะไหลลงสู่ทะเลเป็นอาหารสำหรับสัตว์น้ำโดยเฉพาะวาฬ
ขณะที่ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดร.วิจารย์ สิมะฉายา ระบุ ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เป็นทรัพยากรที่มีมูลค่ามหาศาล ทั้งเป็นแหล่งกักเก็บคาร์บอน, แหล่งท่องเที่ยวทางทะเลและชายฝั่ง, แหล่งพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน และความหลากหลายทางชีวภาพ ซึ่งขณะนี้บริบทของประเทศไทยและโลกให้ความสำคัญกับเรื่องขยะทะเลโดยเฉพาะพลาสติก ที่ส่งผลต่อสัตว์ทะเล
“มนุษย์สร้างขยะวันละ 1 กิโลกรัม 1 ขีด ต่อคนต่อวัน ใช้เวลาย่อยสลายเป็นไมโครพลาสติกค่อนข้างนาน และสะสมในสัตว์น้ำส่งผลต่อระบบนิเวศทะเลไทย ดังนั้น การลดปริมาณขยะต้องเริ่มจากทุกๆ คน โดยเน้นการสร้างองค์ความรู้ถึงการอนุรักษ์ เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์ทรัพยากรได้อย่างยั่งยืน ซึ่งในส่วนของภาครัฐก็ให้ความสำคัญถึงการปฏิรูปปัญหาทางทะเลและชายฝั่ง และการมีส่วนร่วมของภาคอย่าง Blue Carbon Society จะเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนการทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
สำหรับพันธกิจของบลูคาร์บอนโซไซตี้ ประกอบด้วย Blue content เสริมสร้างศักยภาพของระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่งทะเล ในการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ Blue diversity ปกป้องและอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพของระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่งทะเล Blue activity พัฒนากิจกรรมเพื่อขยายความร่วมมือที่หลากหลาย ที่จะทำให้สังคมมนุษย์และระบบนิเวศทางธรรมชาติอยู่ร่วมกันได้อย่างสมดุล
Blue research เป็นศูนย์ข้อมูลการเรียนรู้ด้านการอนุรักษ์ระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่งทะเล Blue partnership สร้างและรวบรวมเครือขายพันธมิตรอย่างยั่งยืน เพื่อร่วมดำเนินกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับบลูคาร์บอน และ Blue people พัฒนาบุคลากรด้านการอนุรักษ์ฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพของระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่งทะเลอย่างยั่งยืน
การเปิดตัว “บลูคาร์บอน โซไซตี้” เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร เพื่อหวังจะเชิญชวนคนไทยทุกคนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลรักษาระบบนิเวศทางทะเล และชายฝั่งทะเล และเป็นพื้นที่ของการเรียนรู้เกี่ยวกับการดูแล รักษาและฟื้นฟูระบบนิเวศของทุกคน
เช่นเดียวกัน “เอิร์ธ 1 วันมหัศจรรย์สัตว์โลก” ที่เราจะเห็นว่าสัตว์ทุกตัวก็มีชีวิตเหมือนกับเราต้องดิ้นรน แสวงหาอาหารและหลบภัยธรรมชาติ การปลูกฝังจิตสำนึกแก่เยาวชนให้ตระหนักถึงความสำคัญของธรรมชาติป่าและน้ำ จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อบ้านหลังใหญ่ใบนี้งดงามอยู่กับเรานานๆ ตลอดไป
