ย้อนรอย”แอ๊ด เทวดา” เจ้าตำนาน”จอโค้งเรดาร์-จอยักษ์ผ่าโลก”

ภายหลังการจากไปของ “นายวัชรพล ลิมปะพันธุ์” อายุ 71 ปี หรือ รู้จักกันในฉายา “แอ๊ด เทวดา” อดีตเจ้าพ่อหนังกลางแปลง ชื่อเสียงโด่งดังรู้จักกันดีจากผลงานการฉ่ายหนัง “จอยักษ์ผ่าโลก” “จอโค้งเรดาร์”ในอดีต  ซึ่งเสียชีวิตด้วยอาการสงบจากโรคประจำตัว ที่บ้านพักของตัวเองใน จ.พิษณุโลก สร้างความโศกเศร้าเสียใจแก่ครอบครัว และผู้คนที่รู้จักมักคุ้น
ย้อนรอยประวัติ”แอ๊ด เทวดา” จากการบันทึกและการบอกเล่าของผู้ใกล้ชิด “แอ๊ด เทวดา” ถือเป็นผู้บุกเบิกวงการหนังจอยักษ์โค้งเรดาร์ และ เป็นเจ้าของรายการโลกสีขาว สื่อวิทยุในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ในช่วงหลังหันมาประกอบธุรกิจเคมีเกษตรที่พิษณุโลก ส่วนการฉายภาพยนตร์กลางแปลงได้ยุติกิจการมาเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว
ส่วนที่มาของฉายา “แอ๊ด เทวดา” เป็นฉายาที่ตั้งขึ้นเอง มีที่มาจากการเป็นตำรวจพลร่ม ที่ค่ายนเรศวรหัวหินอ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ แต่เพราะไปมีปัญหากับผู้บังคับบัญชา ส่งผลให้ตกงานอยู่ระยะหนึ่ง ก่อนยึดอาชีพนักจัดรายการวิทยุ และโด่งดังในเมืองสองแคว และเข้าสู่วงการหนังกลางแปลง หรือ รถเร่ฉายหนังขายยา โดยใช้ฉายาว่า “แอ๊ด เทวดา”ตั้งแต่นั้นมาก จากนั้นชีวิตก็เจริญรุ่งเรืองมาทุกวันนี้

สำหรับ จอโค้งเรดาร์ ของแอ๊ด เทวดา มีขนาดความกว้าง 42 เมตร ความสูงประมาณ 18 เมตร ความสูงของนั่งร้านที่ต่อขึ้นไป 13 ชั้น พื้นที่ของจอเกือบ 800 ตารางเมตร ใหญ่กว่าจอภาพยนตร์ชั้นพรีเมี่ยมในห้างดังปัจจุบัน กว่า 2 เท่า ใช้ระบบแสงกว่า 10,000 โวลต์ ในการขนย้ายอุปกรณ์แต่ละครั้ง ใช้รถบรรทุก 10 ล้อ กว่า 20 คัน เอกลักษณ์อย่างหนึ่งที่คนจดจำ คือ ทีมงานหัวเกรียนทุกคน ในการฉายแต่ละครั้งจะมีสปอนเซอร์สนับสนุน เช่น บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด และ บริษัท ลีเวอร์ บราเธอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด นอกจากนี้มีหนังอีกรูปแบบหนึ่งคือ “จอบรอนซ์สะท้อนแสงจอแรกของโลก” เป็นคำโฆษณาซึ่งมักได้ยินตามสถานีวิทยุจนติดหู นับได้ว่าทันสมัยมากในยุคนั้น
นายวรพล ศรีรอด ผู้จัดการทั่วไป บริษัท แอ๊ดเทวดาโฆษณา จำกัด เล่าว่า “แอ๊ด เทวดา” ถือเป็นเจ้าแห่งตำนานหนังกลางแปลง ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2520 จอหนังของแอ๊ด เทวดา เป็นจอหนังกลางแปลงที่เรียกกันว่า จอซุปเปอร์ลูกทุ่ง หลังจากนั้น ประมาณปี 2523-2524 ได้ขยับขยายเป็นจอตรงขนาดใหญ่ เรียกกันว่า เป็นจอยักษ์ผ่าโลก ขนาดความสูงเท่ากับตึก 4 ชั้น กว้างตึก 10 ห้อง หรือสูง 15.3 เมตร กว้าง 32.40 เมตร ต่อมาไม่กี่ปี การออกฉายหนังด้วยจอยักษ์ผ่าโลก ได้เกิดเหตุการณ์ที่น่าสลดใจ ที่ ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ทำให้มีพนักงานที่กำลังขึ้นจอ เสียชีวิตจากเหตุการณ์นั้นถึง 3 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกหลายคน

จากเหตุการณ์ครั้งนั้น “แอ๊ด เทวดา” จึงประดิษฐ์คิดค้น “จอโค้งเรดาร์” ขึ้นมา เป็นจอลักษณะโค้ง 2 จอหันหลังชนกัน เพื่อรับแรงลม มีความปลอดภัยมากขึ้น มีคุณลักษณะพิเศษ คือ สามารถฉายหนังได้พร้อมกันทั้ง 2 จอ และมีขนาดใหญ่ จนกินเนสบุ๊คลงบันทึกสถิติไว้ว่า เป็นจอหนังกลางแปลงที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยจอโค้งเรดาร์ขนาดความกว้าง 42 เมตร ความสูงประมาณ 18 เมตร ความสูงของนั่งร้านที่ต่อขึ้นไป 13 ชั้น พื้นที่ของจอ 756 ตารางเมตร

นอกจากนี้มีการบันทึก ตำนาน “การฉายหนังข้ามแม่น้ำน่าน”ด้วย ผู้จัดการ บริษัท แอ๊ดเทวดาโฆษณา เล่าว่า สืบเนื่องเมื่อปี 2533 จังหวัดพิษณุโลก จัดงานงานฉลองครบรอบครองราชย์ 400 ปี สมเด็จพระนเรศวรมหาราช วันที่ 29 กรกฎาคม – 2 สิงหาคม พ.ศ.2533 มีกิจกรรมที่สำคัญภายในงานภาคกลางวันมีการแข่งเรือยาว ตอนกลางคืน มีการฉายหนังกลางแปลงข้ามแม่น้ำน่าน และ มีมหรสพต่างๆร่วมเฉลิมฉลองมากมาย
ซึ่ง“แอ๊ด เทวดา” รับผิดชอบดูแลการฉายหนังกลางแปลงข้ามแม่น้ำน่าน แต่ปรากฏว่า ทั้งจอ และอุปกรณ์การฉายหนังที่มีอยู่ ไม่สามารถฉายได้ เพราะมีข้อจำกัด ทั้งเรื่องแสงและเสียง ที่สะท้อนจากแม่น้ำ ทำให้ต้องทำจอ และ ดัดแปลงเครื่องฉาย เพื่อให้ภาพและเสียงออกมาคมชัด โดยจอฉายหนังข้ามแม่น้ำน่าน ต้องทำขึ้นจากไม้อัดทาสีถึง 116 แผ่น ทดลองฉายก่อนฉายจริงเกือบ 1 เดือน เพื่อให้ภาพและเสียงออกมาคมชัดที่สุด เพื่อให้ได้มาตรฐาน“แอ๊ด เทวดา” โดยภาพยนตร์ที่นำมาฉายในครั้งนั้น คือ เรื่อง “มหาราชดำ”

Advertisement

นับเป็นเพียงครั้งเดียวในประวัติศาสตร์การฉายหนังข้ามแม่น้ำน่าน หลังจากที่ “แอ๊ด เทวดา” ทำไว้แล้ว ยังไม่เคยมีใครเคยทำอีกเลย กระทั่้งในงานประเพณีแข่งเรือในปี 2558 จะมีการนำหนังกลางแปลงมาฉายข้ามแม่น้ำน่านอีกครั้ง แต่ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อเป็นการย้อนอดีต “แอ๊ดเทวดา จอผ่าโลก”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image