เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม ที่เรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายเวชยันต์ ชมภูบุตร ทนายความ สำนักงานทนายความเพื่อประชาชน พร้อมด้วยทีมทนายความ นาย สมควร ดาราคำ อายุ 41 ปี พ่อนายสุรพล หรืออ๊อฟ ดาราคำ ที่ตกเป็นต้องหาในคดี กักขังหน่วงเหนี่ยวทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต และฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ในคดีน้องหญิงเสียชีวิตอย่างเป็นปริศนา ได้เดินทางมาติดต่อขอเยี่ยมนายอ๊อฟพร้อมทั้งทำหนังสือ ให้นายอ๊อฟเซ็นต์ เพื่อยื่นต่อพนักงานสอบสวน ให้ส่ง ผลการตรวจผ่าพิสูจน์ศพ ทั้งภาพถ่าย และผลการเอ็กซเรย์ ให้กับ สมาคมแพทย์นิติเวชแห่งประเทศไทย เพื่อขอให้ตั้งคณะกรรมการพิจารณาและให้ความเห็นทางนิติวิทยาศาสตร์ที่เชื่อว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญการพิสูจน์ด้วยหลักนิติวิทยาศาสตร์ ว่าตรงกันหรือไม่ โดยการเข้าเยี่ยม มีเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม เข้าเยี่ยมด้วย เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม ใช้เวลานานกว่า 1 ชม.
นาย สมควร ดาราคำ อายุ 41 ปี พ่ออ๊อฟ ออกมาเปิดเผยว่า จากการที่ได้เข้าไปเยี่ยมลูก 3 ครั้งจะสอบถามลูกทุกครั้งว่า ได้ทำร้ายร่างกายหรือลวนลามน้องหญิงหรือไม่ คำตอบคือไม่ได้ทำ น้องตกรถลงไปเอง อ๊อฟบอกว่า ขณะจอดรถเพื่อปัสสาวะ มีรถยนต์กระบะสีขาวจอดอยู่ด้านหน้า พอปัสสาวะเสร็จได้หักหัวรถออก เพื่อให้พ้นท้ายของรถยนต์กระบะ จังหวะนั้นมองไปทางน้องหญิงเห็นน้องหญิงตกจากรถแล้ว จึงรีบจอดรถลงไปช่วยและยังได้ขอความช่วยเหลือ คนขับรถยนต์กระบะช่วยยกน้องหญิงขึ้นรถเทเลอร์ นำส่งโรงพยาบาล ตนจึงอยากฝากบอกให้ คนขับรถยนต์กระบะสีขาว ที่ช่วยอุ้มน้องหญิงขึ้นรถ ช่วยมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ ติดต่อกับมาที่ตนเองด้วย เพื่อมาเป็นพยานให้กับลูกชายด้วย ส่วนเรื่องเงินจำนวน 300,000 บาท ตนเองไม่มีเงินมากมายตามที่มีการกล่าวอ้างกันและไม่รู้ว่าคลิปเสียงที่มีการพูดคุยกันใครเป็นคนคุยกันบ้าง
นายเวชยันต์ ชมภูบุตร ทนายความ สำนักงานทนายความเพื่อประชาชน กล่าวว่า ได้พูดคุยและซักถามอ๊อฟยังคงยืนยันว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ วันนี้ได้ทำหนังสือมาให้นายอ๊อฟเซ็นต์ เพื่อยืนต่อพนักงานสอบสวน ผลการตรวจผ่าพิสูจน์ศพ ทั้งภาพถ่าย และผลการเอ็กซเรย์ ให้กับ สมาคมแพทย์นิติเวชแห่งประเทศไทย เพื่อขอให้ตั้งคณะกรรมการพิจารณา ให้ความเห็นทางนิติวิทยาศาสตร์ ผลการชันสูตรศพน้องหญิง เพราะแพทย์ที่ทำการผ่าชันสูตรศพน้องหญิงของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่แพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องนิติเวช ซึ่งหากผลการพิจารณาของคณะกรรมการมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เราสามารถยื่นประกันตัวนายอ๊อฟ และต่อสู้คดีนี้ได้
การเข้ามาทำคดีนี้ เพราะทางครอบครัวได้ติดต่อไปที่ สำนักงานทนายความเพื่อประชาชน ก่อนที่จะมารับคดีเราได้มีทีมทนายความลงพื้นที่สอบสวนนายอ๊อฟ ครอบครัวผู้เกี่ยวข้อง จนแน่ชัดว่านายอ๊อฟ ไม่ได้ฆ่าน้องหญิง จึงเข้ามารับทำคดีนี้ ทีมทนายความมีการลงพื้นที่รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆโดยเฉพาะมีแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องการชันสูตรพลิกศพ ให้กับมูลเรื่องของการชันสูตรพลิกศพน้องหญิงซึ่งมีความขัดแย้งกับทางของแพทย์สถาบันนิติวิทยาศาสตร์
ในส่วนของการให้ข่าวข้อมูลว่าพ่อนายอ๊อฟ ใช้เงินจำนวน 300,000 บาท ในการวิ่งเต้นคดี ได้ยื่นฟ้องหมิ่นประมาท เพื่อดำเนินคดีกับนายอัจฉริยะ ที่ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ศาลจังหวัดเดชอุดม ศาลจังหวัดร้อยเอ็ด เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา
