“ศรีวราห์”นำทีมยึดไม้ประดู่ ถูกอายัดระหว่างรอส่งออกที่ท่าเรือเชียงแสน

เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 20 สิงหาคม ที่ท่าเรือพาณิชย์แม่น้ำโขงเชียงแสนแห่งที่ 2 ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ชายแดนไทย-สปป.ลาว นายอรรถพล เจริญชันษา รองอธิบดีกรมป่าไม้ พร้อมพล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. นายพินิจ แก้วจิตคงทอง นายอำเภอเชียงแสน นายสมศักดิ์ เจียมสงวนวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2 (เชียงราย) นายทนงศักดิ์ ธรรมโม ผูู้อำนวยการสว่นป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2 (เชียงราย) นายสักรินทร์ ปัญญาใจ ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 3 ภาคเหนือ ผู้แทนกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย มณฑลทหารบกที่ 37 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) เชียงราย หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) เขตเชียงราย ทหารพรานร้อย ทพ.3103 ฉก.ทพ.31 ร่วมกันตรวจยึดไม้ประดู่ท่อน 133 ท่อนของบริษัทคุ้ม เวียงไม้ จำกัด ซึ่งถูกอายัดไว้ที่ท่าเรือดังกล่าว เมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา

 

ซึ่งในวันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่ามีการขนไม้ประดู่ท่อนจำนวนมากไปยังท่าเรือพาณิชย์เชียงแสนแห่งที่ 2 เพื่อเตรียมส่งออก จึงเข้าตรวจสอบเอกสารการขออนุญาตส่งออก และ ตรวจสอบต้นตอ ซึ่งเอกชนเจ้าของไม้แจ้งว่านำมาจากที่ดินกรรมสิทธิ์พื้นที่ จ.บุรีรัมย์ และ จ.กาฬสินธุ์ รวม 6 โฉนด ต่อมาเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบตอไม้ในที่ดินทั้ง 2 จังหวัดดังกล่าว เปรียบเทียบกับลายโคนไม้ถูกอายัด โดยร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านการพิสูจน์ไม้จากสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 (นครราชสีมา) เจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 2 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และ เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าในพื้นที่ ผลพิสูจน์พบตอไม้ประดู่ 11 ตออยู่ในที่ดินที่ จ.บุรีรัมย์ และ 3 ตอ อยู่ในที่ดินที่ จ.กาฬสินธุ์ รวม 14 ตอ แต่พบรอยใกล้เคียงและสัมพันธ์กันเพียง 1 ตอเท่านั้น

Advertisement

เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดไม้ประดู่ท่อน 133 ท่อนที่เหลือดังกล่าว ตามความผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ ปี 2584,พ.ร.บ.ศุลกากรและกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยแจ้งข้อกล่าวหาต่อบริษัทคุ้ม เวียงไม้ จำกัด ให้ได้รับทราบก่อนทำบันทึกตรวจยึด และ รวบรวมเอกสารหลักฐานส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า ตำรวจรับคดีไว้ทำการสอบสวนตามขั้นตอนของกฎหมาย จากนั้นขยายผลกันต่อไป ซึ่งมีหลักฐานที่สามารถดำเนินคดีได้อยู่แล้ว อย่างไรก็ ตามรายละเอียดในสำนวนไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะมีหลักฐาน เอกสารต่างๆ ยืนยันชัดเจน ลักษณะของกลางมีการขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่มาตลอดทาง ทั้งเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ศุลกากร แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจพบหลักฐานดังกล่าวจึงตามมาดำเนินคดีในที่สุด

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image