หนุ่มซิ่งกระบะแหกด่านชนตร.ดับ เข้ามอบตัว อ้างไม่เห็นด่าน-พอชนเเล้วตกใจเลยหนี

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า จากกรณีที่ดาบตำรวจ กิตติศักดิ์ แปวกระโทก อายุ 44 ปี ผู้บังคับหมู่งานป้องกันและปราบราม สถานีตำรวจภูธรโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งถูกรถยนต์กระบะชนเสียชีวิตขณะกำลังตั้งจุดตรวจสกัดกั้นยาเสพติด และเรียกตรวจรถยนต์คันดังกล่าว อยู่บนทางหลวงหมายเลข 24 หลักกิโลเมตรที่ 51 ฝั่งขาเข้าตัวอำเภอโชคชัย บ้านปรางค์น้อย หมู่ที่ 9 ตำบลพลับพลา อำเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งต่อมาเช้าวันนี้ตำรวจได้ติดตามยึดรถยนต์กระบะต้องสงสัย ยี่ห้อเชฟโรเลต สีขาว ลักษณะแต่งซิ่ง ซึ่งถูกจอดทิ้งเอาไว้ภายในอู่ซ่อมรถบรรทุกแห่งหนึ่งใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุนั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 30 สิงหาคม นายสุภวิทย์ ก่อหาญ อายุ 20 ปี ชาวอำเภอห้วยแถลง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นคนขับรถยนต์กระบะที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยมารดา และนายเกริกฤทธิ์ โชติธาพิพัฒน์ ทนายความส่วนตัว ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับ พลตำรวจตรีวัชรินทร์ บุญคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา โดยนายสุภวิทย์ได้ยอมรับว่า เป็นคนขับรถยนต์กระบะที่พุ่งชนตำรวจจริง โดยให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถยนต์ไปส่งเพื่อนที่บ้าน ซึ่งอยู่ในเขต ต.บ้านเกาะ อ.เมือง จ.นครราชสีมา และกำลังขับรถกลับไปที่ทำงานซึ่งเป็นอู่ซ่อมรถบรรทุก อยู่ใน อ.โชคชัย เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุตนได้ขับรถยนต์กระบะตามหลังรถยนต์เก๋งที่วิ่งอยู่ด้านหน้า โดยวิ่งอยู่ทางเลนด้านขวาของถนน ใช้ความเร็วประมาณ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุมีตำรวจพุ่งออกมาขวางหน้ารถตนกระชั้นชิด โดยที่ตนไม่ทันเห็นจึงขับรถพุ่งชนอย่างจัง เนื่องจากตนมองไม่เห็น และไม่ทราบว่ามีด่านตรวจอยู่ จนกระทั่งขับรถชนเสร็จถึงรู้ว่ามีการตั้งด่านตรวจ ตนตกใจมากจึงขับรถหลบหนีไป จนกระทั่งทราบข่าวว่าตนได้ชนตำรวจเสียชีวิตจึงติดต่อให้ครอบครัวพาเข้ามอบตัวกับตำรวจดังกล่าว พร้อมกันนี้ตนต้องกราบขอโทษครอบครัวของตำรวจที่เสียชีวิตในอุบัติเหตุครั้งนี้ด้วย และยินดีจะชดใช้ค่าเสียหายทุกอย่างที่เกิดขึ้น

ด้านพลตำรวจตรีวัชรินทร์ บุญคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า หลังจากคนขับรถยนต์กระบะได้เดินทางเข้ามอบตัวแล้ว จากนี้ก็จะส่งมอบตัวไปให้พนักงานสอบสวน สภ.โชคชัยเจ้าของพื้นที่ดำเนินคดีต่อ เบื้องต้นก็จะแจ้งข้อหาฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากการสอบปากคำพยานที่เป็นเอนตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่พบว่า พฤติกรรมของคนขับขณะเห็นด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ได้มีการชะลอรถแล้ว ก่อนจะเร่งเครื่องพุ่งชนเจ้าหน้าที่ตำรวจจนเสียชีวิต ส่วนคนขับจะให้การอย่างไรก็เป็นสิทธิ์ที่กระทำได้ ซึ่งตำรวจจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศงานศพ ดาบตำรวจ กิตติศักดิ์ แปวกระโทก ซึ่งจัดขึ้นที่ศาลา1 วัดท่าอ่าง ต.ท่าอ่าง อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา บรรยากาศงานศพเป็นไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจของญาติ พี่ น้อง และเพื่อนบ้าน โดยมีตัวแทน และหน่วยงานต่างๆ นำพวงหรีดมาแสดงความอาลัยเป็นจำนวนมาก หนึ่งในนั้นมีพวงหรีดของ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.ด้วย โดยคืนนี้จะมีพิธีสวดพระอภิธรรมศพเป็นคืนที่ 2 ซึ่งทางตำรวจภูธรภาค 3 จะเป็นเจ้าภาพในพิธี

ทั้งนี้นางคะนึง บดกระโทก อายุ 54 ปี พี่สาวของดาบตำรวจกิตติศักดิ์ แปวกระโทก เปิดเผยว่า ครอบครัวของตนเอง มีพี่น้องอยู่ด้วยกันทั้งหมด 4 คน ดาบตำรวจกิตติศักดิ์ เป็นน้องคนสุดท้อง ส่วนพ่อ กับแม่ เสียชีวิตตั้งแต่ยังเด็กแล้ว กลายเป็นเด็กกำพร้า ซึ่งในวัยเด็กนั้น กิตติศักดิ์ฯ เป็นคนที่ร่าเริงแจ่มใส่ ชอบเข้าวัดทำบุญกับญาติๆ เป็นประจำ แต่ด้วยความยากจนทำให้ไม่มีเงินเรียนหนังสือ น้องชายของตนจึงได้บวชเณรตั้งแต่จบชั้น ป.6 และได้เรียน กศน.โดยอาศัยฟังจากวิทยุ และอ่านหนังสือเอง กระทั่งต่อมาได้ลาสิกขาบทไปสอบติดเป็นตำรวจ สร้างความภาคภูมิใจให้กับพี่น้องเป็นอย่างมาก

ซึ่งชีวิตในช่วงเป็นตำรวจ ก็ขยันทำงาน หาเงินมาเลี้ยงดูครอบครัว ที่มีภรรยา และลูก 2 คนอย่างสุดความสามารถ เป็นเสาหลักให้กับครอบครัวเป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังเป็นที่พึงของญาติพี่น้องได้อีกด้วย แต่เมื่อทราบข่าวว่าต้องมาเสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ก็ทำให้ตนรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก และเป็นห่วงหลานทั้ง 2 คนที่ยังเรียนหนังสืออยู่ คือ น.ส.ศิรามนต์ แปวกระโทก อายุ 17 ปี กำลังเรียนอยู่ชั้น ม.5 และ ด.ช.ศิระภพ แปวกระโทก กำลังเรียนอยู่ชั้น ป.3 หลังจากนี้ก็ขอให้น้องชายไปสู่สุคติ ส่วนหลานทั้ง 2 คน ก็หวังว่าทางราชการจะช่วยเหลือให้ได้เรียนหนังสือจนจบ และมีงานทำอย่างมั่นคงในอนาคต นางคะนึงฯ กล่าว

Advertisement

ด้าน พ.ต.อ.จักรภัณฑ์ จันทรอุทัย ผู้กำกับการ สภ.โชคชัย เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รายงานการเสียชีวิตของดาบตำรวจกิตติศักดิ์ แปวกระโทก ไปให้ ผบ.ตร.ทราบแล้ว ซึ่งเบื้องต้นทราบว่าจะมีการปูนบำเหน็จให้เลื่อนขั้น 4 ชั้นยศ เป็นยศ พันตำรวจตรี พร้อมกับขึ้นเงินเดือนให้ 5 ขั้น เนื่องจากเป็นการเสียชีวิตขณะปฏิบัติงานราชการ ส่วนการช่วยเหลือสวัสดิการให้กับครอบครัวนั้น อยู่ระหว่างพิจารณาว่าอาจจะให้คนในครอบครัวเป็นข้าราชการ และให้ทุนการศึกษากับบุตรของผู้เสียชีวิตจนเรียนจบระดับปริญญาตรีต่อไป ขณะที่งานบำเพ็ญกุศลศพ มีกำหนดการที่จะบำเพ็ญกุศลศพดาบตำรวจกิตติศักดิ์ ไปจนถึงวันที่ 1 กันยายน และจะประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ ในวันอาทิตย์ที่ 2 กันยายน 2561 เวลา 16.00 น. ที่เมรุวัดท่าอ่าง ต.ท่าอ่าง อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image