เมื่อวันที่ 1 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวสุรินทร์ถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่ 1 งวดวันที่ 1 ก.ย. 61 ถึง 3 ราย รายแรกคือนายธวัชชัย บรรลือทรัพย์ อายุ 25 ปี ซึ่งมีอาชีพซ่อมรถ และช่างทำเฟอร์นิเจอร์ส่งตามร้านทั่วไป และได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ขณะที่กำลังทำเฟอร์นิเจอร์อยู่ที่บ้านได้มีคนขายลอตเตอรี่ผ่านมาขายให้ ตอนแรกตั้งใจจะซื้อเลข 12 ซึ่งเป็นทะเบียนรถ แต่ว่าเลข 12 ไม่มี มีแต่ 10 และเป็นเลขชุด 3 ใบ ตนเองก็เลยซื้อเอาไว้
โดยมีลุงซึ่งเป็นญาติ ได้มาขอแบ่งไป 1 ใบ พอมาวันนี้หลังจากเลขออกจึงได้นำไปตรวจ จึงรู้ว่าถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่ 1 ตนถึงกับกระโดดจนตกโต๊ะเก้าอี้เพราะความดีใจ ที่ถูกรางวัลได้เงินถึง 12 ล้าน ส่วนลุงก็ได้ 6 ล้าน โดยก่อนหน้านั้น นางปภัสรา สมานโส อายุ 25 ปี เมียตนเองเคยฝันว่าได้กินอุจจาระ แต่ก็ไม่ได้คิดว่าจะได้โชคใหญ่ขนาดนี้
สำหรับเงินรางวัลที่ได้นี้ตนเองก็จะนำไปใช้หนี้เป็นอันดับแรก และก็จะแบ่งไปทำบุญ ที่เหลือก็จะเก็บไว้เป็นทุนการศึกษาให้กับลูกเพื่อเรียนต่อไป สวนลุงซึ่งเป็นญาติกันนั้นชื่อนายนิพนธ์ นพพิบูลย์ อายุ 54 ปี ซึ่งอยู่หมู่บ้านเดียวกันแต่ว่าอยู่คนละคุ้ม และในช่วงเย็นก็มีชาวบ้านร่วมแสดงความยินดีกับผู้ที่ถูกรางวัล กันโดยไม่ขาดสาย
รายที่ 3 เป็นคนขายล็อตเตอรี่ งวดนี้ขายไม่หมดดวงเฮงรับอีก 12 ล้าน คือนายบูรณะ รุ่งเรืองอายุ 53 ปี ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านของนางเคย รุ่งเรืองอายุ 52 ปี ภรรยานายบูรณะ พบว่ามีเพื่อนเป็นจำนวนมากมาร่วมแสดงความยินดี จากการสอบถามนายสันติ รุ่งเรือง ลูกชายผู้ถูกลอตเตอรี่ 12 ล้านบอกว่าพ่อมีอาชีพทำนาและขายลอตเตอรี่มากกว่า 30 ปี ซึ่งตนเองนั้นได้ช่วยพ่อทำนาและขายล็อตเตอรี่เป็นอาชีพเสริมจนถึงทุกวันนี้
โดยก่อนหวยออกในงวดนี้ ตนเองได้ไปขายล็อตเตอรี่ตามปกติและฉบับที่ถูกรางวัลที่ 1 นั้น เหลือไม่มีผู้คนซื้อ ซึ่งงวดก่อนลอตเตอรี่เลข 10 ก็ขายไม่ได้เหมือนกัน ตนเองจึงเก็บไว้ พอถึงเวลาหวยออก ตนจึงนำมาตรวจสอบลอตเตอรี่ฉบับที่เหลือจึงทราบว่าตนเองถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 และรางวัลนั้นมีมีมูลค่าถึงจำนวน 12 ล้านบาท
ก่อนที่ตนเองและพ่อจะนำลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัลดังกล่าวไปแจ้งความไว้ที่ สภ. พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เป็นที่เรียบร้อย ส่วนเงินรางวัลที่ได้จะเก็บไว้เป็นทุนชีวิตและส่งลูกชายทั้งสองคนให้ได้รับการศึกษาสูงสุด และอีกส่วนหนึ่งก็จะแบ่งไว้ทำทุนขายลอตเตอรี่ต่อไป จะไม่ทิ้งอาชีพที่ตนเองเคยทำมา ซึ่งทั้งพ่อและแม่ก็ยืนยันว่าจะไม่ทิ้งอาชีพขายลอตเตอรี่แน่นอน เนื่องจากเป็นอาชีพที่ สุจริต และทำให้ครอบครัวตนเองมีรายได้ดำรงชีวิตมาอยู่จนทุกวันนี้
