เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย พร้อมด้วยนายพรอนันต์ เกิดทองดี และตัวแทนชาวบ้าน 150 คนในพื้นที่ ต.แหลมใหญ่ อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม ซึ่งประกอบอาชีพทางการประมง เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เดินทางมายังศูนย์รับเรื่องร้องเรียนฯ ทำเนียบรัฐบาลเพื่อขอให้คณะรัฐมนตรี(ครม.) ใช้อำนาจในการยกเว้นมติ ครม.วันที่ 15 ธันวาคม 2530 เพื่อให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) อนุมัติหรืออนุญาตให้บริษัท เอ็นเอสแก๊ส แอลพีวี จำกัด สามารถใช้พื้นที่ป่าชายเลนเป็นทางผ่านสำหรับการวางท่อก๊าซปิโตรเลียมที่เข้ามาก่อสร้างคลังก๊าซในพื้นที่ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน หรือชุมชนในการพัฒนาเศรษฐกิจและอาชีพ
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า สืบเนื่องจากบริษัท เอ็นเอสแก๊ส แอลพีจี จำกัด ได้เข้าไปก่อสร้างคลังก๊าซแอลพีจีเพื่อจำหน่ายทั่วไปในพื้นที่หมู่ที่ 7 ต.แหลมใหญ่ โดยได้รับใบอนุญาตให้ก่อสร้างได้จาก อบต.แหลมใหญ่ และสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 3 โดยผู้ประกอบการได้ก่อสร้างเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ติดปัญหาหลังจาก ทช.ตรวจสอบพบว่าบริเวณท่อขนส่งก๊าซและท่าเทียบเรืออยู่ในพื้นที่ความรับผิดชอบของ ทช. มีมติ ครม.ห้ามไว้ แต่มีข้อยกเว้นเนื่องจาก ทช.สามารถอนุญาตได้หากเป็นการดำเนินโครงการที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ รวมทั้งมีความจำเป็นและเป็นประโยชน์ต่อประเทศ ทั้งนี้การก่อสร้างคลังจำหน่ายก๊าซแอลพีจีในพื้นที่ จะเป็นประโยชน์ต่อชุมชนที่จำเป็นต้องใช้ก๊าซแอลพีจีในการหุงต้มและใช้ในยานยนต์ทุกประเภท จะได้ใช้ประโยชน์ได้โดยลดค่าใช้จ่ายในด้านการขนส่ง
นายพรอนันต์ เกิดทองดี แกนนำชาวบ้าน กล่าวว่า ขอให้ ครม.พิจารณาอนุญาตให้ ทช. ใช้ข้อยกเว้นในการอนุญาตให้ผู้ประกอบการคลังก๊าซได้สามารถใช้พื้นที่ป่าชายเลนประมาณ 1.67 ไร่เป็นทางผ่านสำหรับการวางท่อก๊าซที่เข้ามาก่อสร้างคลังก๊าซในพื้นที่ ต.แหลมใหญ่ โดยยืนยันว่าโครงการดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อชาวประมง และสภาพแวดล้อม หลังจากที่ผ่านมามีกลุ่มแกนนำและชาวบ้านออกมาประท้วง เนื่องจากอาจจะขัดกับผลประโยชน์ของบริษัทก๊าซขนาดใหญ่ระดับประเทศไม่ต้องการให้มีคู่แข่งทางการค้า
อ่านเพิ่มเติม
‘ศรีสุวรรณ’ พร้อมชาวแหลมใหญ่ยื่นหนังสือ ‘บิ๊กตู่’ หนุนสร้างท่าเรือก๊าซแอลพีจี