เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน นายนิพนธ์ คนขยัน นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬ ในฐานะที่ปรึกษาชุมนุมสหกรณ์กองทุนสวนยางจังหวัดบึงกาฬ เปิดเผยว่า จากกรณีนายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรฯ นำเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เห็นชอบแนวคิดการผลิตอุปกรณ์เครื่องนอนให้แก่หน่วยราชการ ได้แก่ โรงเรียน โรงพยาบาล กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงกลาโหม เป็นต้น โดยขณะนี้ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำรวจความต้องการใช้อุปกรณ์ทั้งหมด และแจ้งข้อมูลกับกระทรวงเกษตรฯ ภายในวัน 16 พฤศจิกายนนี้ว่า เป็นแนวทางที่ดีสำหรับเกษตรในการแก้ปัญหายางพาราอย่างยั่งยืน
นายนิพนธ์ กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้รัฐบาลให้งบประมาณ ก่อตั้งสหกรณ์กองทุนสวนยางจังหวัดบึงกาฬ 193 ล้าน ซึ่ง ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ได้พูดถึงแนวทางบึงกาฬโมเดลไว้ โดยก่อสร้างโรงงานแปรรูปยางพารา 5 โรงงาน ซึ่งจะตอบโจทย์การแก้ปัญหายางพาราอย่างมีประสิทธิภาพ ตามแนวคิดการหาทางออกยางพาราด้วยการระบายยางและสร้างมูลค่าเพิ่มของนายพินิจ จารุสมบัติ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีน และส่งเสริมความสัมพันธ์, นางณพรัตน์ วิชิตชลชัย ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมยาง การยางแห่งประเทศไทย และ นายจาง เหย็น ประธานกรรมการ บริษัท รับเบอร์วัลเล่ย์ กรุ๊ป นอกจากนี้จากการก่อสร้างโรงงานแปรรูปยางพาราสำนักงบประมาณได้ลงมาติดตามและให้บึงกาฬเตรียมต่อยอดเพิ่มเติมโดยใช้งบเพิ่มเติมกลุ่มภาคปี 62 จำนวน 200 ล้าน ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ในการเอายางแผ่นมาทำสนามกีฬา และผลิตภัณฑ์จากยางพาราด้วย
“แนวคิดของรมว.เกษตรฯ และรัฐบาลถูกต้องมาถูกทางแล้วชาวบึงกาฬรู้สึกขอบคุณ ส่วนท้องถิ่นจะต้องรับลูกโดยภาครัฐต้องให้การสนับสนุน วันนี้ต้องมีการสั่งการให้ อบต.และอบจ.ทั่วประเทศ ที่มีศูนย์เด็กเล็ก 400 กว่าแห่งให้ซื้อที่หนอน หมอนยางพาราให้เด็กได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าและระบายยางพาราไปได้เยอะ นอกจากนี้ยังมีเรื่องถนนยางพาราดินซีเมนต์ของมหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ซึ่งจะช่วยเรื่องการใช้ยางอย่างมาก อย่างไรก็ตามเรื่องสำคัญคือจะต้องซื้อน้ำยางพาราสดจากเกษตรกรโดยตรง รวมถึงหมอนและที่นอนจะต้องซื้อจากสหกรณ์ฯ ทั่วประเทศ ไม่ใช้ซื้อจากนายทุน” นายนิพนธ์ กล่าว
