จากเหตุการณ์สะเทือนขวัญรักสามเส้า ในรอบปี 2561 ซึ่งเป็นคดีดังใน จ.พิจิตร โดยเมื่อวันที่ 19 มกราคม เวลา 10.00 น. พ.ต.ท.ยงยุทธ ทองใบ รอง ผกก. สภ.บึงนาราง จ.พิจิตร ได้รับแจ้งว่าพบศพถูกหั่นเป็น 2 ท่อน ถูกเผานั่งยาง เหลือแขน ขา เหตุนำศพใส่รถยนต์มาเผานั่งยางทิ้ง เหตุเกิดบริเวณป่าละเมาะข้างอ่างเก็บน้ำ บ้านบึงทับจั่น หมู่ที่ 3 ต.แหลมรัง ตรงข้ามกับอบต. แหลมรัง
ต่อมา พล.ต ต. ธวัธชัย มวลนรา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร ได้สั่งการให้ พ.ต.อ. ชัยเสถียร มณีจักร ผกก. บึงนาราง เร่งคลีคลายคดีดังกล่าว จนรู้ว่าผู้ตายคือ นายจูเซปเป้ เดอ สเตฟานี อายุ 61 ปี เป็นชาวอิตาลี ถูกนางรุจิรา เอี่ยมละม้าย อายุ 38 ปีอยู่ที่บ้านเลขที่ 314/2 หมู่ 12 ต.แหลมรัง อ.บึงนาราง จ.พิจิตร ภรรยาผู้ตาย และนายฮามัวรี่ ริกกัว วัย 34 ปี เป็นชาวฝรั่งเศส ร่วมกันฆ่าอย่างโหดเหี้ยม จึงได้ขออนุมัติหมายศาลพิจิตร ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและปิดบัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ หรือส่วนของศพ เพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตายฯ
หลังจากก่อเหตุ นางรุจิราและนายฮามัวรี่ หลบหนีไปหลบซ่อนตัวอยู่ในสวนลำไยของชาวบ้าน ข้างคลองเชียงทอง บ้านใหม่ชัยมงคล หมู่ 10 ต.เชียงทอง อ.วังเจ้า จ.ตาก ฝั่งตรงข้ามเป็นบ้านชายน้ำ ต.โกสัมพี อ.โกสัมพีนคร จ.กำแพงเพชร พร้อมด้วย รถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา ทะเบียน กค 1374 สมุทรสงคราม พาหนะของคนร้ายที่ใช้หลบหนี ที่นำสีสเปรย์สีดำมาพ่นทับ จอดทิ้งอยู่กลางป่า เต็นท์พักแรม อุปกรณ์เครื่องสนาม เสบียงอาหาร และสุนัขพันธุ์ไทยสีดำ 1 ตัว
ต่อมา พ.ต.อ. ชัยเสถียร มณีจักร ผกก. บึงนาราง ตร. บึงนาราง จึงได้ สนธิกำลังกับตำรวจภาค 6 ออกค้นหาปิดล้อม จนสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ทั้งคู่ ทั้งสองให้การรับสารภาพว่า วันเกิดเหตุคือวันที่ 18 มกราคม นางรุจิราพร้อมนายฮามัวรี ได้ขับรถไปรับนายจูเซปเปที่บ้านของนางรุจิรา เลขที่ 134 เพื่อตกลงกันระหว่างนายจูเซปเป้ และนาย ฮามัวรี่ เพื่อตกลง กันในเรื่องของนางรุจิรา แต่นายจูเซปเปไม่ยอมเนื่องจากรักนางรุจิรามาก โดยพูดว่าซื้อนางรุจิรามาแล้ว 1 แสนบาท จะทำอะไรกับนางรุจิราก็ได้จากนั้นได้มีการโต้เถียงกันจน เป็นเหตุให้นายฮาโมรีใช้มีดฟันไปที่ศีรษะนายจูเซปเป้ 2 ครั้ง จนแน่นิ่งและเสียชีวิต จากนั้นได้ช่วยกันนำศพใส่รถเก๋งโตโยต้า ยาริส สีขาว ทะเบียน กค-1374 สมุทรสงคราม รอจนค่ำ แล้วจึงนำศพไปเผายางที่บริเวณอ่างเก็บน้ำบ้านบึงจั่น
ต่อมาเมื่อต้นเดือนธันวาคม 2561 ศาลจังหวัดพิจิตรได้มีคำพิพากษาตัดสินคดีนี้ โดยสั่งจำคุกนางรุจิราและนายฮามัวรี่ ริกกัว โดยตัดสินจำคุก คนละ 20 ปี เนื่องจากผู้ต้องหา รับสารภาพลดโทษ ให้1/3เหลือจำคุก 14 ปี 8 เดือน ขณะนี้จำคุกอยู่ที่เรือนจำจังหวัดพิจิตร