เมื่อเวลา 12.10 น.วันที่ 12 มกราคม ที่อาคารเก็บเครื่องจักร หจก.เพชรสมวงศ์การโยธา อ.คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายอดิศร เพียงเกษ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชน เยี่ยมเยียนเกษตรกรเพื่อสอบถามปัญหาความทุกข์ยาก ก่อนกำหนดเป็นนโยบาย ช่วยเหลือ โดยมีนายบุญแก้ว สมวงศ์ ว่าที่ผู้ลงสมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขต 2 ยโสธร นายปิยวัฒน พันธ์สายเชื้อ ว่าที่ผู้ลงสมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขต 1 ยโสธร ดร.ธนากร ไชยวงศ์ ว่าที่ผู้ลงสมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขต 3 ยโสธร และมีชาวบ้านกว่า 3,000 คนให้การต้อนรับพร้อมทั้งยืนรอเข้าแถวมอบดอกกุหลาบก่อนที่จะขึ้นเวทีปราศรัย
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวปราศรัยบนเวทีว่า ไม่ได้เจอกันนานคิดถึงพี่น้องมาก ก่อนหน้านี้เขาห้ามเคลื่อนไหวทางการเมืองจึงทำให้ไม่ได้ลงพื้นที่พบปะพี่น้อง พร้อมได้ถามกับชาวบ้านว่า พี่น้องรวยขึ้นกันเยอะหรือไม่ ชาวบ้านตอบว่าไม่ พอถามว่าพี่น้องมีหนี้สินเยอะหรือไม่ ชาวบ้านตอบว่าเยอะ พร้อมกับบอกว่าลุงเขาดูแลพวกเราอย่างไรถึงทำให้หลายคนมีหนี้สิน เราเสียใจที่เขามายึดอำนาจไปจากพี่น้องและแทนที่จะดูแลพี่น้องให้มีความสุขกับให้พี่น้องมีความทุกข์มีหนีสินเพิ่มมากขึ้นขายของไม่ได้ราคา ยากจนลง ถ้าเขายึดอำนาจไปแล้วทำให้พี่น้องมีความสุขเราจะไม่เสียใจเลย วันนี้ตนยังไม่สามารถทำอะไรได้เนื่องจากยังไม่ถึงวันเลือกตั้ง แต่ขอมาให้กำลังใจพี่น้องขอให้พี่น้องอดทนอีกนิด หากวันไหนที่เลือกตั้งคือวันที่เราออกจากความทุกข์ 17ปีแล้วที่เราอยู่กับพี่น้อง พวกเราไม่เคยทำให้พี่น้องยากลำบากขนาดนี้ใช่หรือไม่ ชาวบ้านตอบว่าใช่ อยู่กับพวกเราข้าวกิโลกรัมละ 20-25 บาทถูกหรือไม่ ชาวบ้านตอบว่าถูก และเดียวนี้ราคาเท่าไหร่กัน ชาวบ้านตอบว่ากิโลกรัมละ 8 บาท
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวต่อว่า ตราบใดที่พี่น้องเกษตรกรซึ่งเป็นกำลังชื้อใหญ่สุดของประเทศไม่มีเงินเศรษฐกิจก็ไปไม่ได้ ที่รัฐบาลบอกว่าเศรษฐกิจดี พวกเราไม่ได้รู้สึกว่าเศรษฐกิจดีแต่กลับแย่ลงเพราะราคาสินค้าเกษตรต่ำเอามาก เมื่อ4-5ปีที่ผ่านมา พี่น้องยากจนลงเยอะ เขาก็บอกว่าคนไทยจนขอให้ไปขึ้นทะเบียนคนจน เริ่มต้นที่ 11 ล้านคน อีกไม่กี่เดือนถัดมาคนจนเพิ่มขึ้นมาเป็น 13 ล้านคนและตอนนี้พอใกล้จะเลือกตั้งคนจะอดตายทั้งประเทศแล้วขอขึ้นทะเบียนคนจนเพิ่มอีกเป็น 17 ล้านคน ยิ่งทำงานยิ่งทำให้คนจนมากขึ้นแล้วจะอยู่ไปทำไม พรรคเพื่อไทยไม่แจกนะบัตรคนจนแจกแต่บัตรคนรวย
“พี่น้องคนไหนได้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐบ้าง แล้วการไปรูดใช้บัตรรู้ไหมว่ารูดบัตรแล้วคนที่ได้เงินคือเจ้าสัวใหญ่ๆทั้งนั้น แล้วเขาบอกว่าตัวเลขเศรษฐกิจดีมาก แต่มันมีแค่คน1 เปอร์เซ็นที่พี่น้องประชาชนรูดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐแล้วเงินขึ้นไปหาเขา ดีแค่ 1 เปอร์เซ็นของประเทศแต่นอกนั้นจนหมด จึงเกิดคำที่เรียกว่ารวยกระจุกจนกระจาย พี่น้องรู้หรือไม่ว่าเงินงบประมาณที่รัฐใช้ไปแล้วสูงถึง 11.4 ล้านล้านบาทแล้วทำไมเราถึงจนอยู่แบบนี้พี่น้อง”คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวต่ออีกว่า ตนเชื่อว่าพี่น้องที่นั่งอยู่ตรงนี้ไม่อยากถูกเรียกว่าคนจน หรืออยากถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือบัตรคนจนไปตลอดชีวิต ถูกหรือไม่พี่น้อง รอวันเลือกตั้งมาถึงพวกเราจะได้ออกจากความทุกข์อย่างถาวร การเลือกตั้งครั้งนี้แตกต่างจากทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้มีการใช้อำนาจอันยิ่งใหญ่มาก สร้างกติกาที่บิดเบี้ยวเอาเปรียบเราทุกอย่าง เมื่อวานก่อนตนไปที่ จ.พะเยา ได้ขออนุญาตใช้สนามกีฬาถูกต้องแล้ว แต่เวลา 22.00 น.มีผู้ยิ่งใหญ่จากกรุงเทพฯโทรไปสั่งให้ข้าราชการผู้ใหญ่ในจังหวัดห้ามให้เพื่อไทยขึ้นปราศรัย ใจตนอยากจะต่อสู้แต่กลัวราชการเดือนร้อน ซึ่งเราก็ไม่เขาไปในที่เขาห้ามแค่จะไปกราบขอโทษพี่น้องที่มา แต่ได้ยินเสียงจากพี่น้องตอบกลับมาว่าให้กลับมาเร็วๆเพราะลำบากกันไปหมด ซึ่งขณะนี้ตนเองก็ถูกชายชุดดำเดินติดตามตลอดเวลา จึงเป็นการเลือกตั้งที่หนักมากไม่มีความยุติธรรมและเอาเปรียบทุกอย่าง
“การเลือกตั้งครั้งนี้พี่น้องต้องคิดให้ดีเพราะกุญแจที่ไขออกจากความทุกข์ได้มีชื่อว่าพรรคเพื่อไทย และขอให้พี่น้องอดทนอีกนิดเดียว รู้ว่าพี่น้องทุกข์ยากลำบากและจะหมดแรงอยู่แล้ว”คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวปราศรัยบนเวทีเสร็จได้มีเสียงดังกระหึ่มจากพี่น้องประชาชนกว่า 3,000 คน ได้กล่าวคำว่า “อยู่กับเรากระเป๋าตุง อยู่กับลุงกระเป๋าแบน” ต่อมาคุณหญิงสุดารัตน์ ได้ลงจากเวทีและเดินไปให้กำลังใจกับพี่น้องประชาชนผู้ที่มาต้อนรับและมีการสวมกอดบรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่น
