“กลุ่มค้านไฟฟ้าชีวมวล” เผาพริกเกลือสาปแช่ง กกพ. ลั่นเตรียมชุมนุมใหญ่ที่กรุงเทพฯ

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 19 มกราคม ที่ศูนย์อนุรักษ์ลำน้ำเซบาย ต.เชียงเพ็ง อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร น.ส.นวพร เนินทราย อายุ 28 ปี กรรมการกลุ่มอนุรักษ์ลำน้ำเซบาย พร้อมด้วยชาวบ้านกว่า 100 คน ร่วมกันเผาพริก เผาเกลือ และเผาหุ่นฟางสาปแช่งคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ. )จากกรณีเมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา กกพ.เดินทางลงพื้นที่รับฟังข้อมูลข้อเท็จจริงกรณีการคัดค้านโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาด 61 เมกะวัตต์ ที่อยู่ในรัศมี 5 กิโลเมตร พื้นที่จังหวัดยโสธร ช่วงเช้าได้มีการประชุม ที่ศาลากลางจังหวัดยโสธร โดยมีนายเสมอใจ ศุขสุเมฆ ประธานกรรมการกำกับกิจการพลังงาน และนายบัญฑูร เศรษฐศิโรตน์ กรรมการกำกับกิจการพลังงาน และนายนิกร สุกใส ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร นั่งร่วมประชุมรับฟัง ซึ่งมีตัวแทนกลุ่มอนุรักษ์ลำน้ำเซบาย ต.เชียงเพ็ง อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร จำนวน 15 คน และเครือข่ายอนุรักษ์ลำน้ำเซบาย ต.น้ำปลีก อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ จำนวน 15 คน อีกทั้งยังมีตัวแทนชาวบ้านกลุ่มสนับสนุนเข้าร่วมกว่า 50 คน ซึ่งในการประชุมครั้งนั้นมีการตกลงกันอย่างชัดเจนกับ กกพ. ว่าเป็นการให้กลุ่มผู้คัดค้านได้นำเสนอข้อกังวลห่วงใยเข้าประชุมฝ่ายเดียวเท่านั้นและการที่ กกพ. ลงพื้นที่เป็นเพราะทางเครือข่ายกลุ่มอนุรักษ์ลำน้ำเซบาย ได้เดินทางเข้ากรุงเทพฯ 2 ครั้ง เพื่อยื่นหนังสือให้ กกพ. ลงพื้นที่รับฟังข้อมูลข้อเท็จจริงของชาวบ้านที่คัดค้าน หลังจากการประชุมเสร็จ ได้มีมติการประชุมว่าทาง กกพ.จะลงพื้นที่เวลา 14.30 น. เพื่อลงไปดูพื้นที่จริงและพบกับชาวบ้านที่รออยู่ในพื้นที่ แต่ชาวบ้านก็ผิดหวัง เพราะหลังจากที่ กกพ. ลงพื้นที่ ได้ไปหากลุ่มสนับสนุนโรงไฟฟ้าชีวมวลก่อน ซึ่งเป็นการทำผิดข้อตกลงที่ได้พูดคุยในที่ประชุมช่วงเช้าว่าจะลงพื้นที่ของกลุ่มพี่น้องคัดค้านก่อนเมื่อมาถึงพื้นที่ของกลุ่มคัดค้านจึงทำให้มีเวลาน้อยในการพูดคุยกัน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าทำให้พี่น้องกลุ่มอนุรักษ์ลำน้ำเซบายผิดหวังและเสียใจมาก

น.ส.นวพร กล่าวว่าจากความเจ็บปวดและผิดหวังของชาวบ้านที่ต้องระดมทุน หาเงินค่ารถไปเพื่อยื่นหนังสือให้ทาง กกพ.ลงพื้นที่ ด้วยจิตสำนึกของชาวบ้านที่ต้องการปกป้องทรัพยากรและธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมชุมชน ปกป้องลูกหลานของตน แต่ทาง กกพ. กลับกระทำในสิ่งที่น่าละอาย และไม่รักษาเกียรติของตนอีกทั้งยังเหยียบย่ำหัวใจของชาวบ้านเป็นอย่างยิ่ง จากเหตุการณ์ในครั้งนี้กลุ่มอนุรักษ์ลำน้ำเซบาย ขอประกาศอย่างชัดเจนว่า พวกเราจะเดินทางไป กรุงเทพฯอีกครั้งอย่างแน่นอน

นายสิริศักดิ์ สะดวก ที่ปรึกษากลุ่มอนุรักษ์ลำน้ำเซบาย กล่าวว่า วันนี้พี่น้องได้แสดงเจตนารมณ์โดยการเผาพริกเผาเกลือสาปแช่ง กกพ. จากการลงพื้นที่เมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า กกพ. ควรเลิกเล่นละครสร้างภาพตบตาชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ลำน้ำเซบาย หลังจากที่กลุ่มอนุรักษ์ลำน้ำเซบายได้เข้ากรุงเทพยื่นหนังสือให้กกพ. ลงพื้นที่รับฟังข้อมูลข้อเท็จจริงเพื่อนำไปประกอบการพิจารณาการออกใบอนุญาตโรงไฟฟ้าชีวมวล ขนาด 61 เมกะวัตต์ เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ทาง กกพ. ได้กำหนดวันลงพื้นที่เพื่อรับฟังข้อมูลข้อเท็จจริงจากกลุ่มคัดค้านในวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา ที่ศาลากลางจังหวัดยโสธร โดยมีตัวแทนจากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน เข้าร่วมประชุม สองคน และมีหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมทั้งกลุ่มที่สนับสนุนและกลุ่มที่คัดค้าน ในห้องประชุมศาลากลางกลุ่มอนุรักษ์พอใจ แต่ช่วงเวลาลงพื้นที่กลุ่มอนุรักษ์ไม่พอใจ และในวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมาเวลาประมาณ 12.00 น. ได้มีตัวแทนเจ้าหน้าที่ กกพ.โทรศัพท์มาเช็คข้อมูลกระบวนการลงพื้นที่ของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานหลังจากที่มีข่าวบอกว่าให้เวลากับกลุ่มสนับสนุนมากกว่ากลุ่มอนุรักษ์ทั้งๆที่กลุ่มอนุรักษ์ลำน้ำเซบายที่คัดค้านโรงไฟฟ้าชีวมวลได้เข้าไปยื่นหนังสือที่ กกพ. เพื่อให้ กกพ. ลงพื้นที่ แต่ทาง กกพ. กลับผิดข้อตกลงและเงื่อนไขในการลงพื้นที่ครั้งนี้ โดยทางเจ้าหน้าที่ กกพ. ได้ขอความเป็นธรรม ซึ่งตนมองว่า การลงพื้นที่ของ กกพ เมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา ทาง กกพ. ควรที่จะให้ความสำคัญกับกลุ่มอนุรักษ์ลำน้ำเซบายที่คัดค้านโรงไฟฟ้าชีวมวลมากกว่าที่จะลงพื้นที่ไปในโรงงาน เนื่องจากในช่วงระยะเวลาที่ชาวบ้านเข้าไป กกพ. เพื่อยื่นหนังสือได้มีข้อตกลงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเข้าไปในโรงงานแต่การลงพื้นที่ในครั้งนี้ กกพ. ในเบื้องต้น แต่กลับไม่ทำตามข้อตกลง จึงทำให้ชาวบ้านที่คัดค้านโรงไฟฟ้าชีวมวลไม่พอใจต่อการลงพื้นที่ของ กกพ. ดังนั้นการลงพื้นที่ของ กกพ. ในครั้งนี้ ชาวบ้านที่คัดค้านจึงมีความรู้สึกที่ไม่พอใจเนื่องจาก 1.การลงพื้นที่ไปดูจุดที่สำคัญจะต้องให้ชาวบ้านที่คัดค้านเป็นคนอธิบายข้อคัดค้าน 2.ควรที่จะประสานงานกับตัวแทนกลุ่มคัดค้านให้ชัดเจน 3.ถ้าแสดงความจริงใจต่อชาวบ้านกลุ่มคัดค้าน กกพ. ควรที่จะระงับการพิจารณาและลงพื้นที่อีกครั้ง 4.ตัวแทน กกพ. จะมาอ้างว่าหลงทางไม่ได้ ซึ่งจากการลงพื้นที่ในครั้งนี้ของ กกพ. ทำให้ชาวบ้านไม่พอใจและเตรียมที่จะเข้าไปคัดค้านในกรุงเทพต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image