เมื่อวันที่ 21 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ร่วมกับเครือญาติได้ทำบุญเลี้ยงพระเนื่องครบรอบวันเกิด 7 รอบ 84 ปี คุณแม่สมปอง วงศ์หนองเตย มารดา ที่วัดประสิทธิชัย หรือวัดท่าจีน ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่และมีหลวงพ่อวัน มะนะโส อดีตเจ้าอาวาสพระเกจิชื่อดังของ จ.ตรัง
ทั้งนี้ นายสาทิตย์กล่าวว่า ด้านการเมือง ณ วันนี้ความสับสนความไม่แน่นอน นำมาซึ่งความเสียหายของประเทศชาติและประชาชน ความเสียหายที่มากที่สุดคือ ความไม่ชัดเจนในด้านการเมืองมีผลกระทบต่อการลงทุนต่อเศรษฐกิจ เพราะในแต่ละฝ่ายไม่สามารถคาดการณ์ได้ไม่ว่าจะมีความเปลี่ยนแปลงในเชิงนโยบาย
“เพราะฉะนั้นการเลื่อนช้าออกไปมันก็ยิ่งทำให้เกิดความเสียหายมากขึ้น ความเชื่อมั่นของประเทศมันก็จะลดลง ที่สำคัญการเลือกตั้งเป็นความหวังของประชาชนที่จะหลุดพ้นไปจากวังวนเรื่องของปัญหาเศรษฐกิจ เพราะฉะนั้นการกำหนดความชัดเจนเร็วๆ มันจะเป็นผลดีต่อประเทศชาติและประชาชนเอง ต่างก็เฝ้ารออยู่ว่าเมื่อไหร่ ประชาชนก็ถามอยู่ทุกวันว่ารัฐบาลจะเลือกตั้งเมื่อไหร่ ซึ่งไม่มีความชัดเจนขึ้นมาเลยก็เลยทำให้เกิดความสับสนและมีความไม่เชื่อมั่น” นายสาทิตย์กล่าว และว่า ส่วนการที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะลงในนามพรรคการเมืองใด หรือไม่ลงนั้น เป็นเรื่องส่วนตัว
“ท่านจะลงพรรคไหน ไม่ลงพรรคไหน ชาวบ้านเขาก็รู้กันแล้วว่าพรรคไหนเชียร์ท่าน พรรคไหนรัฐบาลประยุทธ์ และพรรคพลังประชารัฐ พรรครัฐบาลชุดปัจจุบัน เห็นหลายครั้งที่ให้สัมภาษณ์ก็ไปในทิศทางเดียวกันมาตลอดไม่ต้องประกาศ คนเขาก็รู้กันแล้ว แต่ชาวบ้านเขาบอกว่าเขารออยู่ว่าพรรคการเมืองใดที่มีนโยบายชัดเจนที่จะแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชน อย่างที่พรรคประชาธิปัตย์นำเสนอประกันรายได้ยางราคา 60 บาท ประกันราคาปาล์มกิโลกรัมละ 4 บาท นโยบายเกิดปั๊บรับแสน อันนี้ก็เป็นความหวังหนึ่งของประชาชน ซึ่งพรรคการเมืองอื่นก็มีสิทธิที่จะนำเสนอนโยบายต่างๆ เหล่านี้ด้วย ซึ่งจะทำให้ประชาชนมีทางเลือก ถ้ารัฐบาลชุดนี้ยังอยู่ต่อ ชาวบ้านยังอยู่ในสภาพที่หมดหวังเพราะเวลาล่วงเลยมา 4-5 ปี แล้ว นานไปแล้ว” นายสาทิตย์กล่าว
นอกจากนี้ นายสาทิตย์กล่าวว่า ส่วนกรณีที่รัฐบาลนี้เอาเงินภาษีของประชาชนมาแจกครั้งใหญ่ถ้ามองในแง่ของประชาชน ชาวบ้านคิดว่ารัฐบาลเอาเงินภาษีมาช่วยชาวบ้านก็เป็นเรื่องที่ควรจะได้รับ โดยเฉพาะเป็นการช่วยเหลือที่ดีกว่าการแจกเงิน เช่น ทำให้สินค้าการเกษตรดีขึ้น ทำให้ราคาสินค้าที่แพงอยู่ในขณะนี้ลดลง มีการควบคุม มีนโยบายที่ทำให้เศรษฐกิจปากท้องชาวบ้านดีขึ้น เป็นสิ่งที่ควรทำมากกว่าการแจกเงินเสียอีกแต่รัฐบาลก็ไม่ทำ ในเรื่องการแจกเงินตนมองว่าชาวบ้านเขารู้
“ในการลงสนามเลือกตั้งพรรคประชาธิปัตย์มีความพร้อม 100% ในเชิงนโยบาย ที่สำคัญคิดว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ต้องก้าวข้ามความระกำ โจมตีใส่ร้ายเหมือนอย่างที่พรรคเพื่อไทยพยายามทำ มันต้องเป็นการแข่งขันในเชิงนโยบายที่ดี แก้ไขปัญหาของประชาชน นโยบายใครดีก็สมควรจะเป็นรัฐบาล ตรงนี้ต่างหากที่สำคัญ พรรคประชาธิปัตย์พร้อมแล้ว ซึ่งในเร็วๆ นี้ จะมีการประกาศความพร้อมในเชิงนโยบาย เฉพาะภาคหรือในส่วนของประเทศด้วย” นายสาทิตย์กล่าว
