เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2562 ที่จ.เชียงราย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย(รปช.) และประธานคณะทำงานเดินรณรงค์เชิญชวนสมัครสมาชิกพรรคฯ นำคณะทำกิจกรรมเดินคาราวะแผ่นดินในพื้นที่ภาคเหนือ โดยเดินทางจาก จ.พะเยา เข้าสู่ จ.เชียงราย
จากนั้นนายสุเทพเริ่มต้นกิจกรรมที่วัดพระแก้ว อ.เมืองเชียงราย โดยเข้าเพื่อกราบสักการะพระเจ้าล้านทององค์พระประธานในวัดและพระพุทธรตนากร นวุติวัสสานุสรณ์มงคล หรือ พระหยกเชียงราย ก่อนเดินทางไปสักการะสถูปพ่อขุนเม็งรายมหาราช ที่วัดดอยงำเมือง อ.เมืองเชียงราย 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างทำกิจกรรมที่วัดพระแก้ว มีกลุ่มคนที่เคยเคลื่อนไหวเป็นแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือคนเสื้อแดง นำโดยนายวิทยา ตันติภูวนาท หรือเฮียเป็ด พร้อมพวกมายืนถือป้ายเขียนข้อความขับไล่ พร้อมเสียงตะโกนขับไล่ที่ลานวัด จากนั้นทั้ง 2 คนพยายามเดินเข้าไปประชิดพร้อมตะโกนและถือป้าย แต่นายสุเทพพยายามเลี่ยงเดินไปด้านในขณะที่คณะติดตามพยายามเข้าไปพูดคุยขอให้สงบ เนื่องจากเพราะเป็นเขตวัดและกันออกพื้นที่
ต่อมานายสุเทพ และคณะเดินเท้าเข้าไปยังตลาดสดเทศบาล 1 เทศบาลนครเชียงราย เพื่อพบปะกับพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนทั่วไปในตลาด พบคนส่วนใหญ่ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี โดยเข้ามาทักทายด้วยอัธยาศรัยที่ดี บางรายขอถ่ายภาพหรือเขียนลายมือชื่อ หรือเซ็นต์ชื่อที่เสื้อด้วย โดยมีประชาชนขอถ่ายภาพเป็นที่ระลึกตลอดทาง ระหว่างนั้นพบนายวิทยาและพวกถือป้ายตามมาไล่ แต่ผู้คนส่วนใหญ่ต่างให้การต้อนรับนายสุเทพเป็นอย่างดีรวมทั้งคณะนายสุเทพเดินแจกจ่ายเอกสารและกันทั้ง 2 คนดังกล่าวออกไปในที่สุด
ต่อมา นายสุเทพแวะซื้อผลอะโวคาโดผลใหญ่ 7 กิโลกรัม รวมทั้งแวะทักทายพ่อค้าแม่ค้าและแวะธนาคารทุกแห่งที่เดินผ่านตลอดแนวถนนสุขสถิต ถึงหอนาฬิกาเฉลิมพระเกียรติฯ เดินต่อเนื่องถึถนนบรรพปราการก่อนเดินทางกลับ 
นายสุเทพ กล่าวว่า พรรคจะส่งว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ลงรับเลือกตั้งในทั้ง 7 เขตเลือกตั้งของ จ.เชียงราย คาดหวังว่าจะส่งลงสมัครให้ครบทั้ง 350 เขตของประเทศไทยด้วย สำหรับการเดินทางไปยังภาคเหนือแล้วพบสถานการณ์เช่นนี้ถือเป็นเรื่องธรรมดา เมื่อตนไปพบปะผู้คนครั้งละ 1,500-2,000 คนไปเจอคนที่ออกอาการราว 1-2 คนถือเป็นเรื่องปกติ แต่ตนและพรรคไม่ได้ไปรบกับใคร โดยดำเนินการทางการเมืองในฐานะผู้รักชาติที่ทำงานเพื่อแผ่นดิน จึงขอเชิญชวนประชาชนมาร่วมกันพัฒนาบ้านเมืองเพื่อประเทศชาติต่อไป โดยที่พรรคไม่มีนโยบายจะไปโจมตีใคร
