เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2562 ที่จ.เลย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ อดีตรองหัวหน้าพรรค พร้อมคณะเดินทางจ.เลย โดยเข้าสักการะศาลหลักเมือง และเจ้าพ่อกุดป่อง สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดเลย ก่อนเดินสายแนะนำตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 3 เขต ท่ามกลางบรรยากาศคึกคัก มีประชาชนเดินทางมาให้กำลังใจจำนวนมาก
คุณหญิงกัลยา กล่าวว่า จากการมาเมืองเลยเห็นอากาศ บรรยากาศทำให้หลงรัก ครั้งนี้จึงมาดูแล ว่าที่ผู้สมัครส.ส.เลยทั้ง 3 เขต จากการว่างเว้นการเลือกตั้งผู้แทนมา 7 ปี ได้ใช้เวลาที่ผ่านมาค้นหาขุนพลผู้สมัคร และวันนี้ได้ขุนพลผู้สมัครในนามพรรคประชาธิปัตย์ทั้ง 3 เขตในจังหวัดเลย คือ เขต 1 นายยงยุทธ ทิพรส เขต 2 นายฉัตรชัย ลีกระจ่าง เขต 3 ดร.อดุลย์วิชญเดช ติยะบุตร 
ด้านนายบัญญัติ กล่าวว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์กำหนดยุทธศาสตร์การเลือกตั้งในพื้นที่อีสาน ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้พรรคมีความพร้อมเต็มที่ อย่างน้อยในตัวผู้สมัครรับเลือกตั้งพร้อมครบถ้วนบริบูรณ์กเขตเลือกตั้ง พร้อมตั้งแต่ก่อนสิ้นปีแล้ว พรรคคิดเสมอว่า ภาคอีสานเป็นพื้นที่สำคัญของประเทศนี้ ถ้าจะสร้างประชาธิปไตยในประเทศไทยให้เป็นผลสำเร็จ ต้องสร้างประชาธิปไตยในอีสานให้ได้ ในช่วงระยะเวลาใน 6-7 ปีที่ผ่านมา วิกฤติหลายๆอย่างที่เกิดขึ้นในประเทศก็เป็นผลวิกฤติจากการเมืองทั้งสิ้น
“วันนี้ประชาชนได้เรียนรู้ ได้รับบทเรียน จากความล้มเหลวเหล่านี้เป็นอันมากแล้วเข้าใจดีขึ้น เราพบความจริงในข้อนี้ ในเวลาที่เราได้พบปะพี่น้องประชาชน ทำให้พรรคมีความหวังมากขึ้น การเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคจึงยึดอีสานเป็นเป้าหมาย เพราะอีสานเป็นพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ อีสานเป็นพื้นที่ที่มีตัวแทนมากที่สุดในประเทศ การเลือกตั้งเรามีความมั่นใจมากที่จะเพิ่ม ส.ส.ในภาคอีสาน และนำไปรวมกับผู้แทนที่เราไปรับจากภาคอื่น การเลือกตั้งครั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์จะมีวิสัยที่จะมีบทบาทมากขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย ในส่วนถามหาตัวเลข ส.ส.ปัจจุบัน ถ้านับการหาเสียงกับพรรคอื่นๆ 500 คนในสภาผู้แทน วันนี้กลายเป็นพันกว่าไปแล้ว ให้รอดูวันหลังวันเลือกตั้งดีกว่า ครั้งนี้เรามั่นใจยึดมั่นได้ ส.ส.เพิ่มขึ้นในภาคอีสานอย่างแน่นอน” นายบัญญัติ กล่าว
จากนั้น นายบัญญัติ และ คุณหญิงกัลยา พร้อมคณะ ออกเดินพบปะประชาชนในตลาดตัวอำเภอเมืองเลย และเดินทางต่อแนะนำตัวกับประชาชน พื้นที่ อ.เชียงคาน และ อ.วังสะพุง
