พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ พร้อมคณะกรรมการบริหารเดินทางไปปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัคร พื้นที่จ.ลำพูน และ เชียงใหม่
เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2562 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ ร.ต.อ.นิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย และ น.ส.ณหทัย ทิวไผ่งาม รองหัวหน้าพรรคประชาชาติ พร้อม น.ส.รอมือละห์ แซเยะ กรรมการบริหารพรรคประชาชาติ พร้อมคณะเดินทางไปร่วมกิจกรรมการปราศรัยใหญ่ ที่จังหวัดลำพูน และ จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีสมาชิกและผู้สนใจเข้าร่วมรับฟัง แห่งละ 2,500 คน เพื่อเสนอแนวทางและนโยบายของพรรคประชาชาติในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและการพัฒนาประเทศ โดย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ได้เน้นและให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาความยากจน การแก้ปัญหาราคาลำไย กระเทียม และปัญหาความแห้งแล้งที่จะมีผลกระทบต่อการเพาะปลูกเพราะจังหวัดลำพูนเป็นจังหวัดที่ปลูกผักและส่งไปจำหน่ายในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน
พ.ต.อ.ทวี ยังตอกย้ำว่า คนไทยทุกคนต้องมีชีวิตที่บริบูรณ์ ตามนโยบายตัว “อ” ของพรรคประชาชาติ กล่าวทุกคนต้องมี อ.ที่ 1 มีอาหารกินและไม่เป็นหนี้ อ.ที่ 2 มีอาชีพ มีบ้าน มีที่ทำกิน อ.ที่ 3 มีอนามัยที่ดีและมีหลักประกันสุขภาพที่ครอบคลุมทุกช่วงชีวิต อ.ที่ 4 มีโอกาสที่ดีเพราะรอบรู้ และ อ.ที่ 5 มีอัตลักษณ์ เพราะเคารพในความแตกต่างและเท่าเทียมกัน แต่ต้องไม่มี อ.ที่ 6 คือ ความอยุติธรรม ซึ่งเป็นเนื้อร้าย และถือเป็นจุดด่างพร้อยที่ฝังรากลึกในโครงสร้างของสังคมที่นำไปสู่ความบิดพลิ้วลำเอียง หรือ การใช้ความได้เปรียบทางกฏหมายและหมู่พวกทำร้าย หรือ รังแกบุคคลที่ด้อยกว่าแบบจงใจ 
ด้าน ร.ต.อ.นิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย ให้ความสำคัญกับการหาตลาดในการจำหน่ายสินค้า หรือ ผลิตผลทางการเกษตรให้แพร่หลายและไม่กระจุกตัวอยู่เฉพาะสหรัฐอเมริกา ยุโรป หรือ ประเทศจีน เพราะในโลกเรามีประเทศต่างๆรวมกันถึง 193 ประเทศและจากการเดินทางไปทั่วโลกกว่า 130 ประเทศ ยังพบว่าสินค้าไทยค้าไทยหลายอย่างยังเป็นที่ต้องการของตลาดในต่างประเทศ แต่ปัจจุบันหน่วยงานที่รับผิดชอบยังทำการค้าแบบเดิมๆและไทยยังไม่สามารถค้าขายได้ตามปกติเพราะถูกประเทศต่างๆแม้แต่ประเทศที่เคยเป็นคู่ค้าชะลอการทำมาค้าขายไว้มาไม่ต่ำกว่า 4 ปีภายหลังจากที่มีการทำรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557
น.ส.ณหทัย กล่าวว่า พรรคประชาชาติยังได้ให้ความสำคัญกับผู้สูงอายุ ผู้มีรายได้น้อย ทั้งการยกระดับคุณภาพชีวิตผ่านระบบสวัสดิการถ้วนหน้า มีเงินเพียงพอดำรงชีพ หรือ คนไทยทุกคน โดยเฉพาะผู้สูงอายุและผู้ด้อยโอกาสต้องมีรายได้ไม่ต่ำกว่าเส้นความยากจน หรือ ประมาณ 3,000. บาทต่อเดือน นอกจากนี้ ยังส่งเสริมและจะจัดให้มีการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ทุกคนสามารถศึกษาเล่าเรียนได้ในทุกที่ ทุกโอกาส จะนำระบบงาน หรือ เทคโนโลยีที่ทันสมัยมาสนับสนุนและยกระดับการศึกษาของชาติ อีกทั้งแก้ปัญหาหนี้สินครูแบบบูรณาการที่ทุกฝ่ายสมประโยชน์ ตลอดจนปรับโครงสร้าง ยกระดับการบริหารจัดการ กยศ.ใหม่ให้มีบทบาทสนับสนุนและส่งเสริมการศึกษาแบบเต็มรูป
น.ส.รอมือล๊ะ แซเยะ กล่าวว่า การศึกษาเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้แต่ละคนรู้เท่าทันกันและจะไม่ตกอยู่ในฐานะที่ถูกเอารัดเอาเปรียบ หรือ ถูกเบียดบังสิทธิประโยชน์ที่พึงมีพึงได้และชาวลำพูน กับ ชาวเชียงใหม่ จะต้องไม่ตกอยู่ในสภาพเดียวกันกับพี่น้องในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
“ในการเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคม 2562 พรรคประชาชาติ ส่งผู้มีคุณสมบัติเหมาะสมลงสมัครรับเลือกตั้งในจังหวัดลำพูน รวม 2 ราย ได้แก่ เขต 1 นายนเรศร์ แสงยาสมุทร และ เต 2 นายชินชัย แก้วเรือน ส่วนจังหวัดเชียงใหม่ มีผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง รวม 8 ราย ได้แก่ เขต 1 นายชาญชัย เชาวนางกูร, เขต 2 นายเกียรติศักดิ์ จอกนิธิพงศกร, เขต 3 นายดำรงค์ พรหมเป็ง, เขต 4 นายนฤเทพ พึ่งไทย, เขต 5 นายจิรายุศ กำธรพิทักษ์, เขต 6 น.ส.สุดา อินหวัน, เขต 7 นายไตรวิทย์ แซ่ยะ และ เขต 8 นายศักดา กูลสวัสดิ์มงคล
