เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2562 ที่จ.สตูล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา เวลา 22.30น. เกิดเหตุระเบิดบริเวณ สภ.เมืองสตูล 2 ลูกยังไม่ทราบชนิดลูกแรกบริเวณถังขยะหน้าทางเข้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสตูล จากนั้น 15 นาทีต่อมา เกิดระเบิดอีกลูกบริเวณจุดจอดรถของกลาง ห่างจากจุดแรก 20 เมตร แรงระเบิดทำให้กำแพงรั้วและกระจกห้องสืบและห้องธุรการ. สภ.เมืองสตูล ได้รับความเสียหาย จากนั้นตำรวจได้กั้นพื้นที่ตรวจสอบ และปิดถนนสายสตูลธานี และถนนยาตราสวัสดี ทั้งขาเข้าออก ต.พิมาน อ.เมืองสตูล และให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด หรือ ชุด EOD เข้าตรวจสอบ
ต่อมา เกิดเหตุระเบิดขึ้นอีก 2 ลูก บริเวณหน้าร้านขายของชำชื่อ “พิงพิศ 
ทองคำ” หมู่ที่ 6 ต.คลองขุด อ.เมือง จ.สตูล ตรงข้ามห้างแมคโคร โดยพี่สาวเจ้าของร้านใกล้กันบอกว่า แรงระเบิดลูกแรกเวลาประมาณ 04.20น. และ ลูกที่ เวลา 05.10 น. ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังกันพื้นที่และเข้าตรวจสอบ
เบื้องต้นพบเจอสะเก็ดต้องสงสัย และสายไฟที่เชื่อว่าใช้ประกอบวัตถุระเบิด โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ขณะที่ นายก้องสกุล จันทราช นายอำเภอเมืองสตูล เชื่อว่าน่าจะเป็นการข่มขู่มากกว่าสร้างสถานการณ์ หรือหมายเอาชีวิต ซึ่งจะมีการประเมินสถานการณ์อีกครั้ง
ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจาก กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 9 ว่า เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2562 เวลาประมาณ 22.16น. ได้เกิดเหตุระเบิดในถังขยะตรงเสาไฟฟ้านอกรั้วด้านหน้าของ ภ.จว.สตูล บริเวณทางขึ้น ภ.จว.สตูล ถ.ยาตราสวัสดี ต.พิมาน อ.เมืองสตูล จากนั้น พนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด หรือ อีโอดี เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันตรวจสถานที่เกิดเหตุระเบิด ถ่ายภาพทำแผนที่เกิดเหตุ และดำเนินการสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์และผู้ที่เกี่ยวข้อง
“ต่อมาเวลาประมาณ 22.44น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังกั้นสถานที่เกิดเหตุ เกิดระเบิดครั้งที่สอง บริเวณที่เก็บรถของกลางด้านหลังอาคาร สภ.เมืองสตูล ได้รับความเสียหาย ซึ่งต่อมา พนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูน์หลักฐาน และอีโอดีได้เข้าตรวจที่เกิดเหตุ พร้อมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนสวน ตรวจสอบกล้องวงจรปิด สืบสวนหาข่าวและเร่งติดตามจับกับผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี” พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวและว่า 
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ได้สั่งการให้ เร่งสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพิ่มมาตรการในการเฝ้าระวังและมาตรด้านการป้องกันเหตุความไม่สงบในพื้นที่ทำการ บันทึกและสำรวจตรวจตรา บุคคลที่เข้ามาบริเวณพื้นที่โดยรอบ รวมไปถึงให้เพิ่มความเข้มงวดการตรวจตราสถานที่ต่างๆ เช่น แหล่งชุมชน สถานที่ท่องเที่ยว หรือ สถานที่สำคัญ ที่อาจเป็นเป้าหมาย เพื่อป้องกันการเกิดเหตุในลักษณะแบบนี้ ตลอดจนเพิ่มมาตรการเข้ม ทั้งจุดตรวจ จุดสกัด ในการตรวจค้นรถทุกชนิดและบุคคลเป้าหมาย ตามเส้นทางหลักและเส้นทางรอง จัดชุดลาดตระเวนในพื้นที่ย่านเศรษฐกิจ และชุมชน รวมทั้งให้ยึดมั่นในการบังคับใช้กฎหมาย ตามพยานหลักฐาน พยานบุคคล พยานแวดล้อม และหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ รวมถึงการควบคุมตัวผู้ก่อเหตุมา สอบสวน ซักถาม ขยายผล และดำเนินคดีตามกฎหมาย 
“โดยเน้นย้ำว่า หากเกิดเหตุขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องสืบสวนสอบสวน จนสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ทันท่วงที เพื่อสร้างความมั่นใจและเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ประชาชน นักท่องเที่ยวและนักลงทุนในพื้นที่ ทั้งนี้ก็ขอความร่วมมือประชาชนในการช่วยเป็นหูเป็นตา เฝ้าสังเกตบุคคล วัตถุต้องสงสัย หากพบให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที” รอง โฆษก ตร.กล่าว
