‘พปชร’ ขึ้นเหนือเยี่ยมชาวบ้านยั้งเมิน-สะเมิง รับฟังปัญหา ‘ฝุ่นควัน’ ชี้ถ้าปล่อยไว้นานสร้างผลกระทบ ‘สุขภาพ-เศรษฐกิจ’
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 7 เมษายน ที่จ.เชียงใหม่ นายกอบศัดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นำคณะทำงานด้านสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 พื้นที่ตำบลยั้งเมิน และวัดดอยผาส้ม อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ โดยได้เข้าเยี่ยมราษฎรในพื้นที่ซึ่งประสบปัญหาหมอกควันและไฟป่า
นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้มาดูผลกระทบกลุ่มควันและผลกระทบ PM 2.5 ที่เกิดกับพี่น้องประชาชน มาดูผลกระทบเรื่องฝุ่นควัน PM 2.5 ที่เชียงใหม่ มาดูว่าทางชาวบ้านจัดการปัญหาอย่างไร ในวันนี้มีคณะแพทย์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) พร้อมคณะแพทย์ฯ ในพื้นที่มาร่วมกันตรวจสุขภาพให้กับประชาชน มีการสอนทำพัดลมฟอกอากาศ แจกอุปกรณ์ให้ประชาชนนำไปใช้ที่บ้าน ซึ่งขณะนี้ประชาชนประสบปัญหาด้านสุขภาพ มีปัญหาปอด อาการแสบตา ไอ เครียดลงกระเพาะ เป็นปัญหาที่ต้องหาทางแก้ไขให้พี่น้องประชาชน และได้คุยกับนายอำเภอสะเมิงมาแล้ว จึงได้ลงพื้นที่มาในวันนี้
“ตั้งแต่นั่งเครื่องบินลงมาถึงก็เห็นว่ามีแต่หมอกควัน และภูเขาต่างๆ ก็ถูกหมอกควันบดบังอยู่ พี่น้องประชาชนก็ได้กลิ่นควันอยู่ ซึ่งต้องจัดการเรื่องปัญหาของไฟป่า รวมถึงเรื่องการเผาในพื้นที่ต่างๆ และควันที่ลอยข้ามแดนจากนอกพื้นที่ ในช่วงบ่ายวันนี้ก็จะกลับคุยกับนักวิชาการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อหาทางแก้ปัญหาในเรื่องนี้ ที่ห้องประชุมศูนย์บัญชาการเหตุการณ์แก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า ที่ตั้งอยู่ภายในศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา อ.เมืองเชียงใหม่ จากนั้นในวันอังคารที่ 9 เมษายน จะเชิญนักวิชาการต่างๆ มาที่พรรค เพื่อมาพูดคุยและนำเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาช่วยในเรื่องนี้ แต่หัวใจสำคัญในพื้นที่ที่ได้มีการพูดคุยกันคือในเรื่องนี้ต้องช่วยกัน และช่วงที่ท่านนายกรัฐมนตรีเดินทางมา ก็มีไฟป่าเกิดขึ้นเยอะ มีการเผาไหม้ ตั้งแต่เอาจริงเรื่องนี้ ก็เห็นไฟป่าและจุดความร้อนลดลง และการส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปดับไฟ การรณรงค์ให้ความรู้กับประชาชน ก็พบว่าแก้ปัญหาได้จริงและชาวบ้านก็บอกว่าในวันนี้ สถานการณ์ดีขึ้นกว่าช่วงที่ผ่านมา จึงทำให้เห็นว่า หากเราเอาจริงในเรื่องนี้ก็สามารถที่จะแก้ปัญหาได้” นายกอบศักดิ์ กล่าว
นายกอบศักดิ์ กล่าวต่อว่า ไฟป่าอยู่ในวิสัยที่จัดการได้ การให้แรงจูงใจให้เกิดการไม่เผา การลดการเผา และจัดการกับคนเผาอย่างจริงจัง อยากเชิญชวนพี่น้องประชาชนมาช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบภัย ในวันนี้ดีใจที่มาที่นี่ จะเห็นพี่น้องประชาชนที่ลำบากมารวมตัวกัน และมีแพทย์จากโรงพยาบาลมาช่วย และบางส่วนก็มีการนำอุปกรณ์ที่พี่น้องประชาชนมาแจกให้กับผู้ประสบภัย และเขาต้องทนอยู่ 2 เดือน กับเหตุการณ์แบบนี้ และอาจารย์จากนิด้าบอกว่า ทำให้เกิดความเสียหายหลายหมื่นล้านในเรื่องของสุขภาพต่างๆ ที่ต้องไปตรวจ สุดท้ายก็เป็นมะเร็งกัน และผู้นำชุมชนก็บอกว่านักท่องเที่ยวลดลงอย่างมากในพื้นที่ ทำให้เกิดผลกระทบต่อทางด้านเศรษฐกิจ ในขณะที่เทศกาลสงกรานต์ปกติใครก็อยากมาเที่ยว แต่ดูราคาตั๋วเครื่องบินแล้วเหลือเพียง 800 กว่าบาท ก็ทำให้เห็นว่าไม่มีใครอยากเดินทางมา ผลกระทบเกิดขึ้นในระยะสั้น ที่เศรษฐกิจเดินไม่ได้ ระยะปานกลางพี่น้องเจ็บป่วยในขณะนี้ และระยะยาว อาจจะเป็นมะเร็งได้
“รัฐบาลต้องเร่งรัดต่อสู้ไม่ให้เกิดไฟป่า เราต้องเอาไฟในประเทศออกไปให้ได้ก่อน และไฟที่มาจากต่างประเทศก็จะเบาบางลงไปได้เยอะ เรื่องนี้ต้องคิดอย่างยิ่งหากการประกาศภัยพิบัติ และสมควรที่จะประกาศแล้ว แม้จะไม่เห็นชัดเจนเหมือนกับน้ำท่วม แต่ก็มีผู้ป่วยจำนวนมาก เรื่องนี้ก็จะนำไปหารือกัน แต่ก็เห็นควรที่น่าจะประกาศได้แล้ว ตอนนี้ต้องให้พี่น้องประชาชนอยู่กับป่าอย่างสันติ จะส่งเสริมให้พี่น้องประชาชอยู่กับป่าได้อย่างไร และจะทำให้ต้นเหตุปัญหาการเกิดไฟป่าก็จะลดลง และตัวของภาคเกษตร ข้าวโพด อ้อย ที่มีการเผาจะทำอย่างไรที่จะลดการเผา ตัวซังข้าวโพดจะเอาไปทำประโยชน์อะไรได้บ้าง ทำปุ๋ยอินทรีย์ ผลิตโรงไฟฟ้า ทำสินค้าต่างๆ และทำให้เกิดการสร้างมูลค่าเพิ่มมากขึ้น และหากมีมูลค่าแล้วเขาก็จะไม่เผาแน่นอน อย่างเช่นในภาคกลางขณะนี้ใบอ้อยเขาไม่เผาแล้ว แต่จะตัดเป็นตัน ได้ราคาตันละ 200 บาท นำไปขายให้กับโรงผลิตไฟฟ้า ก็อยากให้ร่วมกันหาทางแก้ไข ซึ่งขณะนี้ไม่ใช่ปัญหาเฉพาะของคนเชียงใหม่ แต่เป็นทุกปีผมมาที่อำเภอแม่แจ่ม เมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา ก็เกิดปัญหาแบบนี้ ถึงเวลาแล้วที่ต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหา” นายกอบศักดิ์ กล่าว
หลังจากนั้นเวลา 14.00 น. นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค ได้เดินทางมาสมทบกับคณะของโฆษกพรรค เพื่อตรวจเยี่ยมเจ้าหน้าที่และพื้นที่เซฟตี้โซน ก่อนร่วมหารือร่วมกับตัวแทนประชาชน นักวิชาการ และผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ที่ห้องประชุม SME ภายในศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ เฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่
อย่างไรก็ตามคณะของนายสนธิรัตน์และนายกอบศักดิ์ ยังมีกำหนดการเดินทางลงพื้นที่หมู่บ้านแม่กำปอง อำเภอแม่ออนอีกด้วย
