‘อธิบดีกรมราชทัณฑ์’ ตั้งกก.สอบ เหตุผู้ต้องขัง ดับคาห้องขัง คาดถูกรุมตีตาย ‘แม่’ ลั่นไม่เผาศพจนกว่าจะจับตัวคนร้ายได้

อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ตั้งกก.สอบ เหตุผู้ต้องขังดับคาห้องขัง คาดถูกรุมตีตาย ‘แม่’ ลั่นไม่เผาศพ จนกว่าจะจับตัวคนร้ายได้

เมื่อเวลา 17.50 น. วันที่ 21 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สถานกักขัง จ.ศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และคณะ ได้เดินทางมาทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีที่ นายพรหมปัญญา เกษหอม อายุ 40 ปี ถูกจับข้อหาเมาแล้วขับ ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 7 วันอันตราย และถูกศาลสั่งปรับเมาแล้วขับ เป็นเงิน 6,000 บาท แต่ทางครอบครัวมีฐานะยากจน ไม่มีเงินเสียค่าปรับ จึงได้ถูกคุมขังอยู่ในสถานกักขัง จ.ศรีสะเกษ แทนค่าปรับ ได้เสียชีวิตภายในสถานที่กักขัง โดยตามร่างกายมีแผลฟกช้ำทั้งตัว ปากเจ่อ ศีรษะบวม โดยเสียชีวิตเมื่อวันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่ง พ.ต.อ.ณรัชต์ ได้หารือกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ รวมทั้งตรวจสอบข้อมูลและตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุอย่างละเอียด มีการนำเอาผู้ต้องขังที่อยู่ในเหตุการณ์มาทำการสอบสวนเบื้องต้น โดยมี นางสุรินทร์ เกษหอม อายุ 62 ปี อยู่ที่บ้านนิคมหนองฉลอง ต.หนองฉลอง อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นแม่ผู้เสียชีวิตกับญาติพี่น้องมารอพบเพื่อขอความเป็นธรรมในเรื่องนี้ พร้อมทั้งขอดูภาพจากกล้องวงจรปิด แต่ทางเจ้าหน้าที่สถานกักขัง จ.ศรีสะเกษ แจ้งว่า ภาพในกล้องวงจรปิดและเอกสารต่าง ๆ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้นำไปใช้ในการประกอบสำนวนคดีหมดแล้ว

ต่อมา พ.ต.อ.ณรัชต์ ได้พบกับนางสุรินทร์และญาติพี่น้อง ซึ่งได้มีการกล่าวแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดย พ.ต.อ.ณรัชต์ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมในเรื่องนี้อย่างเต็มที่ และให้นางสุรินทร์กลับไปบ้านที่ อ.ขุขันธ์ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งศพ โดยอธิบดีกรมราชทัณฑ์และคณะ จะไปเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมศพในวันนี้ด้วย พร้อมทั้งจะได้มอบเงินส่วนตัวจำนวนหนึ่ง เพื่อเป็นการช่วยเหลือเยียวยา นางสุรินทร์เป็นการเบื้องต้นด้วย

พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ไม่น่าเชื่อว่าเกิดอุบัติเหตุจากการลื่นล้มในห้องน้ำ ทำให้นายพรหมปัญญา เสียชีวิต ซึ่งเรื่องนี้อาจจะเป็นการก้าวล่วงพนักงานสอบสวนเกินไป เอาเป็นว่าเหตุผลที่ทางเจ้าหน้าที่หรือว่ามีการให้เหตุผลโดยพยานผู้ต้องขังด้วยกันไว้ว่า ผู้ตายลื่นล้มเองนั้น เป็นเหตุผลที่ไม่น่าเชื่อ ตนคิดว่าจากประสบการณ์คาดว่าน่าจะเกิดจากการถูกกลุ้มรุมทำร้ายมากกว่าจนทำให้ นายพรหมปัญญาเสียชีวิต ซึ่งบังเอิญว่าสถานกักขังแห่งนี้ มีห้องขังขนาดเล็กต้องอยู่กันอย่างแออัดยัดเยียด โดยห้องนี้กว้าง 5 เมตร ยาว 10 เมตร เท่ากับ 50 ตร.ม.ตามหลักแล้วจะรองรับผู้ต้องขังเพียงไม่กี่สิบคนเท่านั้น แต่ว่าขณะนี้อยู่กันในห้องขังจำนวนมากถึง 237 คน

อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวต่อไปว่า ตนจะสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยจะแต่งตั้งให้ผู้บัญชาการเรือนจำ จ.อุบลราชธานี เป็นประธานกรรมการสอบสวน เนื่องจากว่ามีศักดิ์สูงกว่าสถานที่กักขัง จ.ศรีสะเกษ พร้อมทั้งจะสั่งย้ายเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและรับผิดชอบ ทั้งโดยตรงและใกล้ชิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นออกจากพื้นที่ ทั้งนี้เพื่อให้การสอบสวนเป็นไปอย่างโปร่งใส และเป็นการปรามเหมือนกับการลงโทษกลาย ๆ ว่า ท่านปฏิบัติหน้าที่บกพร่อง ผิดพลาดที่ทำให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ส่วนในการช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตนั้น ตนจะมอบเงินส่วนตัวช่วยเหลือค่าทำศพเป็นการเบื้องต้น และจะหาทางเยียวยาช่วยเหลือตามระเบียบของทางราชการต่อไป

Advertisement

ทางด้าน นางสุรินทร์ เกษหอม อายุ 62 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนเสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ เนื่องจากว่าลูกชายของตนเป็นคนตั้งใจทำมาหากิน เรียนจบปริญญาตรีแล้วก็มาช่วยดูแลแม่ เนื่องจากว่าแม่อยู่คนเดียว ตนกำลังไปกู้ยืมเงินมา เพื่อจะสร้างร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ไว้ให้ลูกชายทำมาหากิน แต่ว่าลูกชายต้องมาเสียชีวิตอย่างที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น ตนจะขอต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมให้กับลูกชายจนถึงที่สุดและจะยังไม่เผาศพลูกชาย จนกว่าจะได้ตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image