จ่อเรียก ‘สารวัตรแย้’ ให้ปากคำเพิ่มเติม เหตุพบข้อมูลขัดแย้ง-ไม่เคลียร์หลายประเด็น

จ่อเรียก ‘สารวัตรแย้’ ให้ปากคำเพิ่มเติม เหตุพบข้อมูลขัดแย้ง-ไม่เคลียร์หลายประเด็น

ความคืบหน้ากรณี พ.ต.ท.พิเชษฐ เสาแบน สว.กก.2 บก.ทท.2 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 2 บช.ทท. จังหวัดเชียงใหม่ หรือ สารวัตรแย้ ที่เดินทางมาให้ถ้อยคำพนักงานสอบสวน แก้ข้อกล่าวหาว่าถูกกลั่นแกล้งจากขบวนการค้ายาเสพติด ส่งกล่องพัสดุยาไอซ์และยาอี ทางไปรษณีย์ไปส่งถึงบ้านจนทำให้มารดา คือนางประชุม มากบุญ 61 ปี จนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส. และ ปส.ภาค 6 ถูกจับกุม แต่ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหากับนางประชุม และกับสารวัตรแย้นั้น

เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ สภ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ ว่า ยังไม่มีความเคลื่อนไหวในคดีนี้ เนื่องจาก ผู้บังคับการจังหวัดนครสวรรค์ รองผู้บังคับการจังหวัดนครสวรรค์ เดินทางไปราชการที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 จังหวัดพิษณุโลก คาดว่าน่าจะมีการหารือในคดีนี้ด้วยทำให้ยังไม่มีการประชุมพนักงานสืบสวนสอบสวนชุดใหญ่ มีเพียงชุดทำงานที่ลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ สุโขทัย กำแพงเพชร และอุทัยธานี นำข้อมูลมาแลกเปลี่ยนกันเพื่อความถูกต้อง เพื่อจะรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ เนื่องจากได้รับรายงานจากกองบัญชาการตำรวจภาค 6 ทราบว่าในช่วงเช้า ของวันที่ 28 มิถุนายน รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 จะเดินทางมาประชุมร่วมคณะทำงานที่ สภ.พยุหะคีรี เพื่อตรวจสอบสำนวนตรวจความคืบหน้าคดี ส่งชุดสืบสวนสอบสวนจะต้องรายงานความคืบหน้าให้ผู้บังคับบัญชาทราบทุกประเด็น

รายงานข่าวแจ้งว่า ล่าสุดคลี่คลายคดีนี้ได้รับข้อมูลหลักฐานจากไปรษณีย์ แจ้งมายังชุดสืบสวนสอบสวนว่าในรอบปีที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบันมีพัสดุส่งมาที่บ้านหลังดังกล่าว จำนวน 7 ครั้ง แต่ไม่ได้ระบุว่าพัสดุภายในคืออะไร ซึ่งชุดสืบสวนจะต้องไปสืบสวนว่าสิ่งของที่ส่งมานั้นคืออะไร ส่งมาจากใครบ้าง ส่งให้ใครบ้าง เพื่อนำข้อมูลทั้งหมดมายืนยันกับข้อมูลของสารวัตรแย้ที่ให้ไว้กับพนักงานสอบสวนเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน

รายงานข่าวแจ้งว่า จากข้อมูลการให้ปากคำของสารวัตรแย้เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ไม่มีการนำหลักฐานมายืนยัน เรื่องการทำงานในพื้นที่ตำรวจภาค 6 ช่วงที่รับตำแหน่งใน กล่าวลอยๆ เท่านั้น ซึ่งพนักงานสอบสวนได้นำโทรศัพท์สารวัตรแย้ ส่งตำรวจ ปส.ไปตรวจสอบอยู่ คาดว่าจะทราบผลการตรวจสอบไม่ช้านี้

Advertisement

รายงานข่าวจาก ปส. แจ้งว่า การจับกุมดังกล่าวไม่ได้กลั่นแกล้งใครแต่อย่างใด เนื่องจากขณะบุกจับ ตำรวจ ปส.ยังไม่ทราบว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านตำรวจ จึงมั่นใจในหลักฐานยืนยันว่าไม่ได้กลั่นแกล้งใคร

รายงานข่าว จากตำรวจภาค ๖ แจ้งว่า น่าจะต้องเรียกตัวสารวัตรแย้สอบเพิ่มเติมอีกครั้ง เนื่องจากขณะนี้การให้ถ้อยคำของสารวัตรแย้ หลักฐานที่ได้รับ การสอบสวนผู้ต้องหาที่จังหวัดบุรีรัมย์ การสอบสวนผู้ต้องหาที่จังหวัดพะเยา สุโขทัย และหลักฐานของตำรวจปราบปรามยาเสพติด เกิดความขัดแย้งในข้อมูลไม่ตรงกัน ยังไม่สามารถเคลียร์ประเด็นต่างๆได้ จึงจำเป็นต้องต้องเรียกตัวสารวัตรแย้มาสอบปากคำเพิ่มในประเด็นต่างๆเร็วนี้

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้ไปสังเกตการณ์ที่บ้านบิดาและมารดาของสารวัตรแย้ ที่บ้านเลขที่ 14/3 หมู่7 ต.ท่าน้ำอ้อย อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ บ้านปลายทางของพัสดุยาเสพติด พบบ้านถูกปิดประตูเงียบ และไม่มีคนอยู่ภายในบ้านตั้งแต่เช้า สอบถามเพื่อนบ้านในละแวกใกล้เคียงต่างพากันปิดปาก ไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลใดๆ เนื่องจากไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ มีบางคนเล่าเหตุการณ์ก่อนจะมีการเข้าจับกุมมารดาของสารวัตรแย้ ว่า ได้มีตำรวจเข้าไปสอบถามเส้นทางไปบ้านของสารวัตรแย้กับผู้ใหญ่บ้าน และมีการล้อมเข้าจับกุมขณะนางประชุมออกมาเซ็นรับของจากบุรุษไปรษณีย์

Advertisement

มีรายงานจากแหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยนาม ระบุว่า เมื่อวานนี้ มีกลุ่มผู้สื่อข่าวหลายรายได้เดินทางไปสอบถามข้อมูลที่บ้านของสารวัตรแย้ ปรากฏว่า พบเจอเพียงบิดาของสารวัตรแย้ อยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น เนื่องจากนางประชุม และบุตรชายคนเล็กที่เพิ่งจะขอลาหยุดงานเพื่อมาอยู่ช่วยดูแลบิดา ต่างพากันออกไปธุระข้างนอกกันหมดกลุ่มผู้สื่อข่าว เข้าไปสอบถามข้อมูลกับบิดาของสารวัตรแย้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ่อสารวัตรมีการเปิดเผยเรื่องชีวิตการทำงานของบุตรชายที่ผ่านมา รวมถึง การผันตัวเองมาทำธุรกิจปล่อยเช่าพระเครื่องจนนำไปสู่การเกิดปัญหาความขัดแย้งในเรื่องเงินทอง จึงเป็นชนวนเหตุให้เกิดการถูกกลั่นแกล้งนำยาเสพติดส่งผ่านพัสดุไปรษณีย์มายังที่บ้าน พร้อมกับระบุกลับกลุ่มผู้สื่อข่าวชุดนั้นด้วยว่า ที่ผ่านมาบุตรชายไม่มีพฤติกรรมเคยไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด สร้างความไม่พอใจกับสารวัตรแย้อย่างมาก เพราะบิดาที่มีอาการป่วยเคยผ่าตัดสมองเมื่อหลายปีก่อน จึงไม่อยากให้สื่อมวลชนเข้าไปรบกวนคนในครอบครัว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image