วันที่ 1 มิถุนายน 2559 นายภานัต ภัทรสาริน และ นายจรัญ แก้วสารพัดนึก รองผู้อำนวยการฝ่ายกิจการสาขาภาคเหนือตอนล่าง สำนักงาน ธ.ก.ส.ฝ่ายกิจการสาขาภาคเหนือตอนล่าง จังหวัดพิษณุโลก ได้เดินทางมาเป็นประธานในการประชุมที่ห้องประชุมสำนักงาน ธ.ก.ส.จังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อซักซ้อมทำความเข้าใจนโยบายการดูแลช่วยเหลือเกษตรกร ให้แก่บรรดาผู้จัดการ ธ.ก.ส.และ หัวหน้าหน่วย ธ.ก.ส.ทั้ง 25 สาขาของจังหวัดเพชรบูรณ์ หลัง ธ.ก.ส.เตรียมสนับสนุนสินเชื่อเพื่อการผลิตฤดูกาลใหม่ (JUMP START) จำนวน 300,000 ล้านบาท เพื่อช่วยแก้ปัญหาเกษตรกรลูกค้าผู้ประสบปัญหาภัยแล้งและราคาผลผลิตตกต่ำ เพื่อให้เกษตรกร มีทุนหมุนเวียนในรอบการผลิตใหม่ กลับมาทำการผลิตได้ตามปกติ และเป็นการป้องกันปัญหาหนี้นอกระบบอีกด้วย ในขณะที่จังหวัดเพชรบูรณ์จะได้งบประมาณ 2,500 ล้านบาท
สำหรับจังหวัดเพชรบูรณ์มีเกษตรกรที่เป็นลูกค้า ธ.ก.ส. 120,000 ครัวเรือน ซึ่งเป็นลูกค้าที่ทาง ธ.ก.ส.ที่จะต้องลงไปดูแลและให้ความช่วยเหลือ ตามมาตราการและนโยบายของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) และมีลูกค้าอยู่ประมาณ 5,000 ครัวเรือน ที่เป็นหนี้ค้างชำระ เนื่องจากไม่สามารถส่งดอกเบี้ยธนาคารได้ ในกลุ่มนี้ทาง ธ.ก.ส. ก็จะลงไปดูแลและให้ความช่วยเหลือทุกราย และดูว่าปัจจัยสาเหตุที่ค้างชำระเกิดจากสาเหตุอะไร เพื่อจะพิจารณาให้ความช่วยเหลือในเรื่องของเงินทุนต่อไป
โดยเบื้องต้นทาง ธ.ก.ส.เพชรบูรณ์ ได้ดำเนินการชี้แจงทำความเข้าใจกับเกษตรกร มาตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2559 ที่ผ่านมา คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2559 ที่จะถึงนี้ ในทุกหมู่บ้าน และจะสามารถจ่ายเงินให้แก่เกษตรกรได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2559 เป็นต้นไป โดยโครงการ JUMP START ได้ขยายวงเงินจากเดิมที่ใช้สองคนค้ำประกัน หรือการประกันกลุ่ม ซึ่งจากเดิมวงเงิน 2 แสนบาท เพิ่มเป็นวงเงิน 2.5 แสนบาท
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
