‘ศาล’ พิพากษาคุก 1 ปี อดีต 3 แกนนำ กปปส.ขัดขวางเลือกตั้ง โวยไร้แกนนำเหลียวแล ระบุถ้าจะเคลื่อนไหวก็จะคิดให้รอบคอบก่อน

เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2562 ที่ศาลจังหวัดตรัง ที่ห้องพิจารณาที่ 4 ศาลชั้นต้นจังหวัดตรังได้นัดอ่านคำพิพากษา 3 อดีตแกนนำ กปปส.จังหวัดตรัง ประกอบด้วย นายสุพัฒน์ สังข์ประดิษฐ์ อายุ 61 ปี จำเลยที่ 1, นายสมรักษ์ เมืองนก อายุ 52 ปี จำเลยที่ 2 และนายศักร์สฤษฎิ์ ศรีประศาสตร์ อายุ 56 ปี จำเลยที่ 3 ที่ถูกอัยการจังหวัดตรังเป็นโจทย์ยื่นฟ้องในข้อหาร่วมกันขัดขวางการเลือกตั้งล่วงหน้าในเขตจังหวัดตรัง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2557 ที่โรงยิมเนเซียม สนามกีฬาทุ่งแจ้ง โดยทั้ง 3 คน เดินทางมารับฟังคำพิพากษาด้วยตัวเองพร้อมกับนายมาโนช ชูสุวรรณ ทนายความ

ทั้งนี้ ศาลได้พิจารณาแล้วเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่สถานการณ์บ้านเมืองไม่เป็นปกติ เกิดความเห็นต่างทางการเมือง เกิดกลุ่มการเมืองต่างๆ ออกมาแสดงความคิดเห็นและเคลื่อนไหว โดยจำเลยทั้ง 3 คน ได้นำมวลชนไปปิดประตูไม่ให้ประชาชนและคณะกรรมการการเลือกตั้งเข้าไปด้านใน ซึ่งเป็นการกระทำผิดตามกฎหมายการเลือกตั้ง และกฎหมายคณะกรรมการการเลือกตั้ง และกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง

โดยศาลได้พิพากษาจำคุกคนละ 1 ปี ปรับคนละ 20,000 บาท แต่ทั้ง 3 คน ให้การรับสารภาพ โทษจำคุกลดลงเหลือคนละ 6 เดือน ปรับ 10,000 บาท โทษจำคุกรอลงอาญา 2 ปี คุมความประพฤติ 1 ปี บำเพ็ญประโยชน์ 24 ชม. และตัดสิทธิทางการเมืองคนละ 5 ปี ทั้งนี้ ในส่วนของจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 3 ซึ่งได้กระทำความผิดร่วมกันขัดขวางการรับสมัครเลือกตั้ง ระหว่างวันที่ 28 ธันวาคม 2556-1 มกราคม 2557 โดยศาลนัดอ่านคำพิพากษา ในวันที่ 15 สิงหาคมนี้ด้วย

นายศักร์สฤษฎิ์ ศรีประศาสตร์ อายุ 56 ปี กล่าวว่า พอใจกับคำตัดสินของศาล ถือว่าศาลเข้าใจในบริบททางการเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนั้น แต่ส่วนตัวสำหรับคำพิพากษาถูกตัดสิทธิการเมืองเป็นเวลา 5 ปี ตนเองเตรียมยื่นอุทธรณ์ต่อไป

Advertisement

“แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากที่พวกตนต้องถูกดำเนินคดีในชั้นศาลในคดีขัดขวางการเลือกตั้งและขัดขวางการรับสมัครเลือกตั้ง คนที่ได้ประโยชน์สูงสุดจากการเคลื่อนไหวของประชาชนคือ นักการเมือง โดยเฉพาะนักการเมืองที่เข้าไปนั่งอยู่ในสภาผู้แทนราษฎรในขณะนี้มีหลายคน ไม่มีใครโทรศัพท์มาสอบถาม หรือให้กำลังใจ หรือให้ความช่วยเหลือใดๆ ถือว่าเป็นคดีประวัติศาสตร์การต่อสู้ทางการเมืองของประชาชน ต่อไปจะเคลื่อนไหวใดๆ ทางการเมืองจะต้องคิดให้รอบคอบ แต่ดีใจที่ไม่มีประชาชนทั่วไปถูกดำเนินคดี และการเคลื่อนไหวเรียกร้องของพวกตนถือว่าทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในทางที่ดีขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์ต่อการเมืองไทย ไม่เช่นนั้นการเมืองไทยคงไม่เดินทางมาถึงเวลานี้ที่มีการปฏิรูปการเมือง” นายศักร์สฤษฎิ์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image