‘ศรีสุวรรณ’ ติง ‘วิษณุ’ ชี้แจงคุณสมบัติ ‘บิ๊กตู่ในสภา’ อย่าชี้นำศาลรัฐธรรมนูญ

เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า หลังจากศาลรัฐธรรมนูญได้ประชุมปรึกษาพิจารณาคดีเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2562 กรณีประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่าความเป็นรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (5) และมาตรา 44 (15) เพราะเหตุเป็น “เจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ” หรือไม่ โดยศาลรับคําร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย และแจ้งให้ผู้ร้องทราบ พร้อมส่งสําเนาคําร้องให้ผู้ถูกร้องเพื่อยื่นคําชี้แจง แก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับสําเนาคําร้องนั้น

“การที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ใช้โอกาสแถลงในรัฐสภาเมื่อคืนวันที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมา เพื่ออธิบายแทน พล.อ.ประยุทธ์ โดยที่นายกรัฐมนตรียังไม่ได้สั่งให้ช่วยอธิบาย หลังจากนายวัน อยู่บำรุง อภิปรายยกประเด็นเรื่องคุณสมบัติของ พล.อ.ประยุทธ์ อาจไม่มีคุณสมบัติในการเป็นนายกรัฐมนตรี เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ในตำแหน่งหัวหน้า คสช. เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยนายวิษณุได้อ้างคำพิพากษาของศาลฎีกาในคดีระหว่าง คสช. กับนายสมบัติ บุญงามอนงค์ว่าในคำพิพากษาศาลฎีกาฉบับดังกล่าว ไม่มีส่วนไหนที่เขียนว่าหัวหน้า คสช.เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ในคำพิพากษาดังกล่าวเพียงแต่ระบุว่าตำแหน่งหัวหน้า คสช.เป็นเจ้าพนักงาน ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ในตำแหน่งหัวหน้า คสช. จึงไม่ขาดคุณสมบัติในการเป็นนายกฯ เนื่องจากตอนที่เป็นแคนดิเดตนายกฯ ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ” นายศรีสุวรรณกล่าว

นายศรีสุวรรณกล่าวว่า การชี้แจงของนายวิษณุ อาจถือได้ว่าเป็นการจัดการงานนอกสั่ง และก้าวล่วงการวินิจฉัยหรือชี้นำการทำหน้าที่ของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญโดยไม่สุจริต อาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 มาตรา 38 วรรคสาม ประกอบ ม.39(3) มีโทษจําคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับได้ เนื่องจากเรื่องคุณสมบัติของนายกรัฐมนตรีในกรณีนี้ เป็นคำร้องที่อยู่ในการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญแล้ว นายวิษณุเป็นนักกฎหมาย ควรที่จะรู้จักกาลเทศะ และวางตัว วางคำพูดให้เหมาะสม เพราะถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเรื่องนี้ไปตามคำชี้แจงของนายวิษณุก็จะเกิดการครหากับศาล ถ้านายวิษณุอยากจะวินิจฉัยเรื่องนี้เอง ควรลาออกจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี แล้วไปสมัครเข้ารับการสรรหาเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และเชื่อมั่นว่าจะผ่านการสรรหาและการลงมติเลือกของ ส.ว.ได้อย่างแน่นอน อย่าทำตัวเป็นเนติบริกร ทำให้หลักกฎหมายสั่นคลอน กลายเป็นที่ครหาของคนทั้งบ้านทั้งเมือง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image