‘พระจูเลียน’ สึกพระบวชเณร เจ้าคณะประสานให้สละสมณเพศ ย้ำเป็นคนธรรมดาก็ทำดีได้

เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ที่วัดพระธาตุดอยกองมู อ.เมืองแม่ฮ่องสอน จ.แม่ฮ่องสอน จากกระแสข่าวพระจูเลียน พระฝรั่งชาวแคนนาดา ที่ปัจจุบันประจำอยู่สำนักสงฆ์ปูทา หมู่ 1 บ้านปู่ทา ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือศรัทธาแก่ชาวปกาเกอญอหมู่บ้านชายแดนห่างไกล ล่าสุด ผู้มาโพสต์ข้อความระบุว่า พระจูเลียนมีพฤติกรรมเสพเมถุนกับสีกา รวมทั้งพระจูเลียนออกมายอมรับว่าเคยมีสัมพันธ์กับหญิงชาวนิวซีแลนด์และชาวไทย

ล่าสุด เมื่อเวลา 13.30น. ในที่ประชุมประจำเดือนพระชั้นผู้ใหญ่ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน พระสุมณฑ์ศาสนกิตติ์ เจ้าคณะจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า หลังมีข่าวเกี่ยวกับพระจูเลียนชาวต่างชาติ คณะสงฆ์ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้พระเลขาธิการเจ้าคณะ อ.สบเมย พยายามสอบถามไปยังพระจูเลียน ซึ่งเบื้องต้นพระจูเลียนยอมรับว่าภาพที่ปรากฏตามข่าวเป็นเรื่องจริง ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลายปีที่ผ่านมา และขณะเกิดเหตุยังไม่ได้เข้ามาอยู่แม่ฮ่องสอน หลังเกิดเหตุพระจูเลียนได้ลาสิกขาจากการเป็นพระภิกษุสงฆ์ ต่อมากลับเข้ามาบรรพชาเป็นสามเณรใหม่ภายหลัง ก่อนเดินทางมาประจำที่ชายแดนด้าน อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน

“การกระทำผิดถึงแม้จะลาสิกขาไปแล้วหวนกลับมาบวชใหม่ ก็ถือว่ามีความผิด ซึ่งจะติดต่อพระอุปัชฌาย์ต้นสังกัด ให้ไปสละสมณะเพศ เนื่องจากพระจูเลียนไม่ได้บวชในจังหวัดแม่ฮ่องสอน แต่บวชในพื้นที่อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ และขณะเข้ามาพักพำนักในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ก็ไม่ได้รายงานตัวให้แก่เจ้าคณะตำบลหรือคณะสงฆ์ฝ่ายใดทราบเลย หากจะสึกต้องไปที่เชียงใหม่ อย่างไรก็ตาม ได้ให้เจ้าคณะอำเภอสบเมยประสานติดตามตัวและสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้นว่าเท็จจริงประการใดการที่ฝ่ายสงฆ์ในพื้นที่จะประสานให้พระจูเลียนสละสมณะเพศนั้น ต้องทำแบบค่อยเป็นค่อยไป เพราะชาวบ้านที่พระจูเลียนเคยให้ความช่วยเหลือและมีความศรัทธาต่อพระจูเลียนอาจไม่พอใจได้ การที่พระจูเลียนยอมรับผิด หากให้ลาสิกขาอีกครั้ง เจ้าตัวคงจะไม่มีปัญหาอะไร เพราะการที่มีจิตใจจะทำประโยชน์ช่วยเหลือจุนเจือคนอื่นหรือฝึกปฏิบัติธรรมนั้น การเป็นบุคคลธรรมดาก็สามารถทำได้” พระสุมณฑ์ศาสนกิตติ์ กล่าว

Advertisement

ด้านนายสมพร จันอุด ผู้อำนวยการสำนักพุทธศาสนาจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า สำนักพุทธได้ประสานทางคณะสงฆ์ดำเนินการอย่างเดียว เพราะเป็นเรื่องความผิดทางพระธรรมวินัย และได้ประสานทางพระอุปัชฌาย์ที่วัดอินทาราม อ.ฮอดแล้ว ซึ่งพระอุปัชฌาย์จะเรียกตัวมาเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริง แต่ถ้าพระจูเลียนรับว่าทำผิดจริงก็ถือว่าปาราชิก ไม่จำเป็นต้องลาสิกขา เพราะถือว่าไม่ได้เป็นพระ ถ้าไปทำกิจกรรมที่เป็นของสงฆ์ก็ผิดกฎหมาย เลียนแบบพระสงฆ์ จับดำเนินคดีทางอาญาได้ แต่ขณะนี้คงต้องให้ฝ่ายคณะสงฆ์ดำเนินการไปตามขั้นตอนต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image