ศาลปัตตานีพิพากษาจำคุก ‘ลุกมาน เขร็มแอ’ 34 ปี คดี จนท.บุกยึดฐานตันหยงเปาว์ ปี’59

จากกรณีเมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ศาลจังหวัดปัตตานี (ศาลชั้นต้น) ได้มีคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ อ.4478/61 อัยการเป็นโจทก์ฟ้อง นายลุกมาน เขร็มแอ จำเลย ฐานความผิด ก่อการร้าย อั้งยี่ ซ่องโจร และ พ.ร.บ.อาวุธปืน วัตถุระเบิด สะสมกำลังพล อาวุธยุทธภัณฑ์ มีวิทยุสื่อสารโทรคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต จากเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ตรวจยึดฐานปฏิบัติการป่าโกงกาง บ้านตันหยงเปาว์ หมู่ 4 ต.ท่ากำชำ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2559

ศาลชั้นต้นจังหวัดปัตตานี ได้พิจารณาหลักฐานสำคัญของโจทก์ และผลตรวจ DNA ของจำเลย ตรงกับของกลาง 12 รายการ ในขนำหลังที่ 4 ซึ่งสอดคล้องกับคำเบิกความของพยานโจทก์ จึงเชื่อได้ว่าจำเลยกระทำความผิดจริง จึงพิพากษาให้ลงโทษ นายลุกมาน เขร็มแอ “จำคุก 34 ปี”

คดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2559 เจ้าหน้าที่ได้เปิดแผนยุทธการ เพื่อทำการติดตามจับกุมและบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่ตันหยงเปาว์ ต.ท่ากำชำ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ในขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าพื้นที่เป้าหมาย ได้เกิดการยิงปะทะกับกลุ่ม ผกร. ผลการปฏิบัติสามารถควบคุมตัว ผกร.ได้ 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ นายซาบาหรี เจะอาลี อีกทั้งมีกลุ่มคนร้ายที่ไม่ต่ำกว่า 5 คน หลบหนีไปได้เจ้าหน้าที่ได้ติดตามไล่ล่า ในเหตุการณ์ครั้งนั้นเจ้าหน้าที่ได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานในขนำของกลุ่ม ผกร.โดยทำการยึดถังแก๊ส ขนาด 15 กก. ซึ่งภายในบรรจุดินระเบิด และต่อวงจรระเบิดไว้เรียบร้อยแล้ว

Advertisement

นอกจากนี้ ยังพบกระดานที่มีการเขียนแผนผังและตัวหนังสือ ซึ่งคาดว่าคนร้ายน่าจะมีการประชุมวางแผน เพื่อเตรียมก่อเหตุร้ายในพื้นที่ ใกล้กันยังพบเรืออีก 1 ลำ ที่บรรจุดินระเบิดไว้ ซึ่งคาดว่าหากนำมาประกอบระเบิดจะได้มากถึง 30 ลูก

และเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ขอหมายศาล เพื่อออกหมายจับ ป.วิอาญา จำนวน 19 หมาย มีการบังคับใช้กฎหมายโดยตรงแล้ว 10 ราย คือ เจ้าหน้าที่วิสามัญ ผกร.เสียชีวิต 4 ราย และจับกุมดำเนินคดีและศาลสั่งตัดสินไปแล้ว 6 ราย โดยศาลฎีกาสั่งจำคุก 34 ปี 2 ราย และยกฟ้อง 1 ราย ซึ่งคดีสิ้นสุดแล้ว และศาลชั้นต้นได้พิพากษาจำคุก 39 ปี 2 ราย ซึ่งรายล่าสุดสั่งจำคุก 34 ปี นายลุกมาน เขร็มแอ ซึ่งจำเลยจะขออุทธรณ์ต่อไป

ทั้งนี้ ประวัตินายลุกมาน เขร็มแอ เป็น ผกร. ระดับสั่งการ เป็นบุตรอดีตโต๊ะอิหม่าม และน้องชายโต๊ะอิหม่าม หลบหนีมานาน 12 ปี จนถูกจับกุมได้เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2561 นายลุกมานให้การรับสารภาพว่าเป็น ผกร. เมื่อปี 44 ได้ทำการฝึก RKK ณ โรงเรียนอิสลามบูรพา เคยอยู่บนขนำหลังที่ 4 จริง ต่อมานายลุกมานได้พลิกคำให้การในชั้นศาลว่า ขนำหลังที่ 4 สร้างไว้พักผ่อนระหว่างดักปู และไม่ทราบว่ามีขนำหลังที่ 1-3 มีกลุ่ม ผกร.ใช้ผลิตระเบิด แต่ศาลไม่รับฟังคำให้การดังกล่าวของนายลุกมาน จึงได้ตัดสินลงโทษดังกล่าว

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image