‘กมธ.การทหาร’ เยือนปัตตานี ติดตามไฟใต้ ชี้ยุติได้ หากทุกส่วนร่วมกันแก้

‘กมธ.การทหาร’ เยือนปัตตานี ติดตามไฟใต้ ชี้ยุติได้ หากทุกส่วนร่วมกัน อย่าเหมา-ซ่อนอำพราง-จนท.ทำผิดต้องลงโทษ

กมธ.การทหาร– เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม ที่ห้องประชุมศรีนครา ศาลากลางจังหวัดปัตตานี คณะกรรมมาธิการทหาร (กมธ.) สภาผู้แทนราษฎร นำโดย นายเกรียงศักดิ์ ฝ้ายสีงาม รองประธานคณะกรรมาธิการ ได้เดินทางเข้าพบ นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อรับฟังบรรยายสรุปภารกิจและติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ ซึ่งสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่มีแนวโน้มดีขึ้นตามลำดับ สามารถดำเนินการตามกฏหมายกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบอย่างต่อเนื่อง ในส่วนการพัฒนาพื้นที่และสร้างความเจริญ สร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ จังหวัดปัตตานีได้กำหนดวิสัยทัศน์ไว้ว่า “เมืองเกษตรอุตสาหกรรมและผลิตภัณฑ์ฮาลาลคุณภาพของประเทศเป็นสังคมพหุวัฒธรรมที่สันติสุข” อีกทั้งมีการกำหนดการขับเคลื่อนจังหวัดปัตตานี 4 วาระ คือ ขจัดภัยยาเสพติดเร่งเศรษฐกิจให้เฟื่องฟู สร้างบ้านเมืองให้น่าอยู่ เชิดชูคนดี การขับเคลื่อนจังหวัดปัตตานีให้ห้วงเวลาที่ผ่านมา ทุกภาคส่วนได้รวมพลังกันขับเคลื่อนจังหวัดปัตตานี โดยมีเป้าหมายสูงสุดเพื่อสร้างปัตตานีให้มีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนต่อไป


นายเกรียงศักดิ์ กล่าวว่า ได้มารับฟังปัญหาสวัสดิการของเจ้าหน้าที่รัฐ สร้างขวัญและกำลังใจแก่พี่น้องทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง นำปัญหาไปแก้ไข และบอกกล่าวว่าสามจังหวัดชายแดนใต้น่าอยู่ น่ามาเที่ยว โดยอีกไม่นาน สนามบินเบตง สกายวอร์กที่ยาวที่สุดในเอเชียที่ยะลาก็จะเสร็จ สามจังหวัดจะร่มเย็น จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ใครๆ อยากมาเยือน

Advertisement

นายนิรมาณ สุไลมาน ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ ผู้แทนคณะประสานงานฝ่ายทหารคนที่ 2 กล่าวว่า เป็นพลวัตทางการเมืองสู่ความงดงามในมิติใหม่ สู่การมีส่วนร่วมของประชาชนที่สัมผัสได้ ในหลักการอิสลามต้องยึดมั่นในสัจจะวาจา ปฏิบัติด้วยความเป็นพี่เป็นน้องด้วยความเท่าเทียมกันทุกคน ไม่แบ่งแยก มองกันที่จิตใจ มุสลิมต้องการการปฏิบัติศาสนกิจที่ครบถ้วนถูกต้อง ให้เรามีสิทธิ์ในการคิดและดำเนินชีวิต รณรงค์การพูดคุยเพื่อการเชื่อมโยงและไม่มีอคติต่อกัน 98 เปอร์เซ็นต์ของประชาชนในพื้นที่นี้รักกษัตริย์ อย่ามองประชาชนเป็นอาชญากร ให้มองด้วยความสุภาพอ่อนโยน รู้สึกดีต่อกัน ไม่เลือกปฏิบัติและจะได้ใจประชาชนที่นี่ รวมทั้งให้มีส่วนร่วมและตัดสินใจ รวมกันเป็นรู้ประชาชนในการตรวจสอบ อย่าเหมาและซ่อนอำพราง เมื่อเจ้าหน้าที่รัฐทำผิดก็ต้องลงโทษ

ด้านนายเกษมสันต์ มีทิพย์ โฆษกคณะกรรมาธิการฯ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน- 2 ตุลาคม รับฟังข้อเท็จจริงจากภาครัฐและพี่น้องประชาชนในนราธิวาส ยะลา และปัตตานี เห็นได้ว่าเศรษฐกิจของปัตตานีไปได้ดี หากปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาอันดับ 1 ในพื้นที่ที่ทำให้เกิดความไม่สงบ ข้าราชการของรัฐถูกจับกุมถึง 20 รายในปี 2561 ด้วยข้อหายาเสพติด ทำไมปัญหานี้ยังคงอยู่ในพื้นที่ ถ้าหากมีเจ้าหน้าที่รัฐทำผิด ต้องถูกลงโทษเช่นกัน การดูแลผู้ต้องสงสัยตามกฎหมาย ต้องอยู่ใต้กฎหมายเดียวกัน จะสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนได้ หากทำได้จะทำให้มีความมั่นใจและสังคมจะสันติสุข

Advertisement

“จะนำข้อมูลมาพิจารณาให้พื้นที่มี่ความสันติสุขร่มเย็นเหมือนพื้นที่อื่นที่เคยประสบปัญหาความไม่สงบเช่นนี้มาก่อน เมื่อปัญหากดทับหมดไป ชีวิตพี่น้องดีขึ้น เจ้าหน้าที่ไม่ต้องทำงานหนัก ทุกฝ่ายอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข หวังว่าภายใต้วาระที่เป็นคณะกรรมการ ปัญหาชายแดนใต้จะสิ้นสุด ขอให้จริงใจ ร่วมกันแก้ปัญหาให้ยุติเพราะที่นี่คือบ้านของทุกคน” นายเกษมสันต์ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image