‘บิ๊กประมง’ ระดมพลประมงแม่กลองตั้งทีมรบครั้งสุดท้าย ก่อนดีเดย์เคลื่อนพลบุกเกษตร 17 ธ.ค.นี้

จากกรณีที่เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2562 ที่ผ่านมา องค์กรสมาชิก ชาวประมงและต่อเนื่องใน 22 จังหวัดชายฝั่งทะเลทั่วประเทศไม่น้อยกว่า 1,000 คน ได้ยื่นหนังสือข้อเรียกร้องปัญหาความเดือดร้อนของชาวประมง 11 เรื่อง เช่น แก้กฎหมาย พ.ร.ก.ประมง พ.ศ.2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยเร็ว, ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาขาดแคลนแรงงานประมง, หยุดการนำเข้าสัตว์น้ำจากต่างประเทศโดยทันที, เพิ่มวันการทำประมง, การบังคับให้เรือประมงเติมน้ำมันด้วยเงินสดผ่านบัตรฟรีดการ์ด เป็นต้น แต่ยังไม่ได้รับการตอบสนองจากรัฐบาลนั้น

ล่าสุด เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมวาระด่วนสมาชิกองค์กรประมง เตรียมพร้อมรบครั้งสุดท้ายทุบหม้อข้าวสู้ จอดเรือหยุดการซื้อขายสัตว์น้ำทั่วประเทศเรียกร้องแก้ปัญหาความเดือดร้อนของชาวประมง โดยมีนายมงคล สุขเจริญคณา ประธานสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย ในฐานะนายกสมาคมประมงสมุทรสงคราม, นายสมพร สมุทรโสภากุล ประธานสหกรณ์ประมงแม่กลอง จำกัด, นายศราวุธ โถวสกุล นายกสมาคมเรือลากคู่สมุทรสงคราม เป็นประธานประชุมสมาชิกสมาคมประมงสมุทรสงคราม,สมาคมประมงเรือลากคู่สมุทรสงคราม, สหกรณ์ประมงแม่กลอง จำกัด, สหกรณ์ประมง บางจะเกร็ง บางแก้ว จำกัด, ชมรมแพปลาแม่กลอง, ประมงพื้นบ้านจังหวัดสมุทรสงคราม และผู้ประกอบการประมงต่อเนื่อง กว่า 100 คน โดยบรรยากาศในที่ประชุมเป็นไปอย่างคึกคัก นายมงคลและแกนนำ ได้กำหนดท่าทีในการทุบหม้อข้าวสู้ ด้วยการจัดชุมนุมสาธารณะที่หน้ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตั้งแต่เวลา 7 นาฬิกาของวันที่ 17 ธันวาคม 2562 เป็นต้นไป โดยขอให้ชาวประมงและธุรกิจต่อเนื่อง ร่วมมือร่วมใจกันรบครั้งสุดท้าย รบเพื่ออนาคตของตนเองและครอบครัว นอกจากนี้ นายมงคลยังขอมติพี่น้องชาวประมงในจังหวัดสมุทรสงครามในการไปชุมนุมสู้ครั้งสุดท้าย โดยจะเดินทางไปด้วยรถยนต์ รสบัส รถตู้ โดยแต่ละคันให้ถ่ายสำเนาหนังสือขออนุญาตชุมนุมสาธารณะติดไปด้วย อย่างไรก็ตาม หากมีการสกัดกั้นขอให้ชาวประมงทุกคนลงเดินเท้าไปถึงกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

นายมงคลกล่าวว่า ที่ผ่านมาชาวประมงเป็นคนดีไม่อยากสร้างเงื่อนไขยอมมาโดยตลอด มีการเรียกร้องให้ภาครัฐช่วยแก้ปัญหาความเดือดร้อนอย่างลูกที่ดี ซึ่งภาครัฐก็รับปากจะเข้ามาช่วยเหลือ มาถึงวันนี้ เกือบ 5 ปีชาวประมงก็ได้แต่รอและรอมานานแล้วแต่ยังไม่มีการแก้ไขปัญหาให้กับชาวประมงอย่างเป็นรูปธรรมแต่อย่างใดเหมือนถูกหลอก จนทำให้ธุรกิจภาคประมงพังเสียหายไปหลายแสนล้านบาทแล้ว ชาวประมงเดือดร้อนหนักมากขึ้นทุกวัน ชาวประมงจำนวนมากต้องเลิกอาชีพการทำประมง โดยในอดีตมีเรือประมงพาณิชย์ขนาด 10 ตันกรอสขึ้นไป กว่า 20,000 ลำ แต่ปัจจุบันเหลือเพียง 10,600 ลำ และก็ยังไม่สามารถออกเรือทำประมงอีกกว่า 2,000 ลำ เนื่องจากขาดแคลนแรงงาน อีกทั้งยังต้องหวาดกลัวกับกฎหมายต่างๆ ความทุกข์ระทมของชาวประมงทั่วประเทศที่อดทนไว้จึงระเบิดออกมาในครั้งนี้ โดยไม่มีนัยยะทางการเมืองใดๆ เป็นความเดือดร้อนของชาวประมงล้วนๆ

Advertisement

นายมงคลกล่าวว่า โทษปรับชาวประมงไทย ยังถือว่าแพงที่สุดในโลกสูงสุดปรับ 30 ล้านต่อแรงงาน 1 คน หากมีแรงงาน 40 คนต้องถูกปรับ 1,200 ล้านบาท ซึ่งไม่มีประเทศไหนเขาทำกันมีแต่คนไม่ปกติที่ออกกฎหมายแบบนี้ การชุมนุมสาธารณะในครั้งนี้ ถือเป็นการรบครั้งสุดท้าย ด้วยการทุบหม้อข้าวสู้ และเตรียมจอดเรือหยุดการซื้อขายสัตว์น้ำทั่วประเทศ และขอให้รัฐบาลซื้อเรือคืนให้หมด

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image