ชาวบ้านแห่ให้กำลังใจ “ธนิก” หลัง กกต.มีมติยกคำร้องปมขาดคุณสมบัติ เจ้าตัวขอบคุณทุกกำลังใจ ลุยหาเสียงโค้งสุดท้าย

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 11 ธ.ค.2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย เขตเลือกตั้งที่ 7 จ.ขอนแก่น ได้มีชาวบ้านได้เดินทางมาให้กำลังใจกับนายธนิก มาสีพิทักษ์ ผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่น เขต 7 พรรคเพื่อไทย หลังจากที่ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ได้มีมติยกคำร้อง ภายหลังจากที่มีผู้ร้องเรียนเกี่ยวกับคุณสมบัติของการสมัครรับการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ตามมาตรา 43 ซึ่ง กกต.ได้มีการประชุมในประเด็นดังกล่าวเสร็จสิ้นไปแล้ว โดยบรรยากาศโดยทั่วไปหลังจากที่ทราบถึงคำสั่งยกคำร้องดังกล่าวทำให้ประชาชนที่ติดตามสถานการณ์ดังกล่าวตลอดทั้งวันต่างพากันโล่งใจและให้กำลังใจกับนายธนิก ท่ามกลางบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นกันเอง ก่อนที่นายธนิก จะลงพื้นที่หาเสียงตามตารางการหาเสียงที่กำหนดไว้ของคณะทำงานของพรรคเพื่อไทย ในแต่ละวัน

นายธนิก กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นถ้าดูในรายละเอียดจริงๆแล้วจะเป็นการที่ต้องการร้องเรียนเสียมากกว่า เพราะหากดูในรายละเอียดและข้อเท็จจริงแล้วก็จะรู้ว่าเจตนารมณ์นั้นเป็นอย่างไร ซึ่งต้องขอขอบคุณ ทุกท่านที่มีส่วนในการพิจารณาจนเกิดความเป็นธรรมให้กับตนเอง เพราะไม่เช่นนั้นก็จะเกิดเป็นข้อกังขาในสังคมได้อย่างมาก ซึ่งก่อนลงสมัครรับการเลือกตั้งครั้งนี้ ทีมกฎหมายของพรรค คณะผู้บริหารพรรคเพื่อไทยและตนเองได้มีการศึกษาในข้อกฎหมาย และในหลายองค์ประกอบ ซึ่งพรรคได้มีการสอบถามไปยัง กกต. และการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครจนทำให้มีการตัดสินใจส่งตนเองลงสมัครรับการเลือกตั้งในครั้งนี้

“ไม่อยากที่จะมองเป็นการถูกกลั่นแกล้งทางการเมืองจากพรรคคู่แข่ง ซึ่งผมเองมองว่าเป็นเรื่องปกติของการแข่งขันทางการเมือง ซึ่งหากมีช่องไหนพอที่จะทำได้ ก็คงจะหาช่องที่จะทำ ซึ่งทุกฝ่ายล้วนมีฝ่ายกฎหมาย ซึ่งหากได้อ่านรายละเอียดในมาตรา 43 ก็พอที่จะบอกได้ทันทีว่าเป็นอย่างไร ซึ่งมาตรา 43 นั้นไม่ได้ถูกนำมาใช้เฉพาะเพียงวันนี้ ซึ่งในวันรับสมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ขอนแก่น เขต 7 ในวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ กกต.ก็มีการดูรายละเอียดและข้อบังคับ มีการเปิดเอกสารรอว่าจะทำอย่างไร ซึ่งหากจะถามว่ามีอารมณ์หรือจะมองว่าผมถูกกลั่นแกล้งหรือไม่เรื่องแบบนี้ทุกคนล้วนรู้อยู่แก่ใจ”นายธนิกกล่าว

นายธนิก กล่าวต่ออีกว่า การหาเสียงที่ผ่านมาเราเริ่มจากการแนะนำตัวเองให้กับประชาชนในเขต อ.หนองเรือ และ อ.มัญจาคีรี ได้รู้จักว่าเราคือคนที่อาสามาทำงานเพื่อประชาชนในนามของพรรคเพื่อไทย ซึ่งจากนี้ไปขู่ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนถึงวันเลือกตั้ง ถึงเวลาที่จะต้องขอคะแนนเสียงจากประชาชนในเขตเลือกตั้งที่ 7 เพื่อที่จะได้คนมาทำหน้าที่ผู้แทนประชาชน ซึ่งต้องใช้หลักการในการเข้าถึง และอธิบายเหตุและผลให้ประชาชนแยกแยะว่าตอนนี้ควรเป็นใครมาทำหน้าที่ผู้แทนประชาชนใน 2 อำเภอ ซึ่งวันนี้เสียงตอบรับจากคนในพื้นที่นั้นดีมาก แม้เราจะเป็นฝ่ายค้านแต่เป็นฝ่ายค้านที่มีประสิทธิภาพ และ ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยทุกคนนั้นไม่เคยที่จะผิดสัญญา คำไหนคำนั้นกับประชาชน จุดนี้จึงเป็นข้อแตกต่างที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจนระหว่างผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย กับผู้สมัครจากพรรคการเมืองอื่น

Advertisement

“ยอมรับว่าการทำงานของเรานั้นหนักมาก เพราะด้วยอำนาจรัฐที่บางพรรคการเมืองนั้นนำมาใช้ แต่ด้วยความดีที่พรรคเพื่อไทย และผมเองนั้นมีอยู่เป็นทุนเดิม จุดนี้จึงเป็นสิ่งที่เราได้รับความนิยมจากประชาชนในพื้นที่อย่างมาก ซึ่งผมขอขอบคุณผู้ใหญ่ในพรรค และผู้ให้การสนับสนุนจากทุกฝ่ายที่มาเป็นกำลังใจ มาลงพื้นที่หาเสียง ทำให้ความมั่นใจในการเลือกตั้งครั้งนี้ที่จะได้รับชัยชนะนั้นมีอย่างมาก และเชื่อได้ว่าผู้ใหญ่ที่พรรคเพื่อไทยให้การเคารพนั้นจะส่งกำลังใจมาถึงผมในการต่อสู้ครั้งนี้ เพราะทั้ง 2 ท่านนั้นรัก ประเทศไทยและห่วงคนไทยอย่างมาก อย่างไรก็ตามในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนถึงวันเลือกตั้งการลงพื้นที่หาเสียงนั้นจะยังคงดำเนินการตามที่พรรคได้กำหนดไว้ในแต่ละวันด้วยคณะผู้บริหารของพรรคและผู้ให้การสนับสนุนพรรค รมไปถึง ส.ส.ของพรรคที่จะลงพื้นที่หาเสียงร่วมกันกับผมอย่างต่อเนื่อง”นายธนิกกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image