วันที่ 22 มกราคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานจากท่าอากาศยานเชียงใหม่ว่า บรรยากาศโดยทั่วไปยังคงปกติ มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าออกหนาแน่นเช่นทุกวัน และเจ้าหน้าที่การท่าอากาศยานเชียงใหม่ยืนยันว่า ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศท่าอากาศยานเชียงใหม่ ยังคงเข้มงวดและดำเนินการตรวจคัดกรองผู้โดยสารที่เดินทางมาจากอู่ฮั่น สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยจะใช้เครื่องวัดอุณหภูมิร่างกายด้วยอินฟาเรด หรือ เทอร์โมสแกน และการวัดไข้ เฉพาะวันที่มีเที่ยวบินตรงคือ สัปดาห์ละ 3 เที่ยวบิน ทุกวันอังคาร วันศุกร์ และวันอาทิตย์ พร้อมแจก Health beware card ให้กับนักท่องเที่ยว
“แต่วันนี้ไม่มีเที่ยวบินตรงจากอู่ฮั่น จึงไม่ได้มีการติดตั้งเครื่องอินฟาเรด แต่ในแง่ของการเฝ้าระวังก็จะใช้วิธีสังเกตโดยเจ้าหน้าที่ เพื่อเฝ้าระวังบุคคลที่อาจเข้าข่ายโรคทางเดินหายใจ เพื่อซักประวัติและเข้าสู่กระบวนการดำเนินการเช่นเดียวกับโรคติดต่อร้ายแรง เช่น โรคเมอร์ส (MERS), โรคอีโบล่า (Ebola) ต่อไป แต่ขณะนี้ยังไม่พบความผิดปกติใดๆ”
อย่างไรก็ตามสำหรับชายวัยรุ่นชาวจีน อายุ 18 ปี ที่กักตัวไว้ที่โรงพยาบาลนครพิงค์นั้น แพทย์ระบุว่าจะต้องรอผลการตรวจเลือดเพื่อยืนยันว่าอาการไข้ขึ้นสูงมีสาเหตุมาจากโรคดังกล่าวหรือเป็นไข้หวัดธรรมดาเท่านั้น ซึ่งคาดน่าผลการตรวจน่าจะออกคืนนี้ และสำนักงานสาธารณสุขเชียงใหม่น่าจะได้รับรายงานในช่วงเช้าวันพรุ่งนี้ (23 มกราคม) ก่อนที่จะแถลงผลให้ทราบอีกครั้งอย่างเป็นทางการต่อไป
“จากผู้ต้องสงสัยวานนี้ 5 ราย ผลตรวจของผู้ป่วยชาวไทยและเด็กหญิงจีน 2 ราย ไม่มีปัญหา คงเหลือรายที่ 3 ชายชาวจีนอายุ 23 ปี ซึ่งเดินทางมาจากอู่ฮั่น ล่าสุดผลเลือดออกมาแล้วและระบุว่า เป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธ์A ไม่พบเขื้อไวรัสโคโรน คงเหลือผลของรายที่ 4 ชายชาวจีนอายุ 28 ปี ชาวอู่ฮั่นแต่เดินทางมาจากคุนหมิง และรายที่ 5 วัยรุ่นชาวจีน อายุ 18 ปี ที่อยู่ระหว่างรอผลเลือดเท่านั้น”
