เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2563 จากกรณีโลกออนไลน์แชร์ภาพและข้อความระบุว่า “มีกลุ่มเสี่ยงโควิด-19 เป็นผู้หญิง 2 คน เพิ่งกลับจากเกาหลี ลงเครื่องบินที่สนามบินตรัง ตอนนี้โดนกักตัวอยู่ที่ห้องแยกโรค โรงพยาบาลย่านตาขาว 14 วัน โดยเดินทางมาเครื่องบินลำเดียวกับ นายชวน หลีกภัย”
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบ ที่บ้านวิเศษกุล ซึ่งเป็นบ้านพักของ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และอดีตนายกรัฐมนตรี พบนายชวน ยังคงอยู่บ้านพักและใช้ชีวิตตามปกติ โดยมีนักท่องเที่ยวและประชาชนเดินทางเข้าพบอย่างต่อเนื่อง โดยนายชวนให้การต้อนรับ และพูดคุยก่อนเตรียมเดินทางไปเป็นประธานเปิดงาน ที่ จ.พัทลุง ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน
นายชวน หลีกภัย กล่าวว่า ในวันดังกล่าว ได้นั่งเครื่องบินไลออนแอร์ โดยไม่ทราบว่าเลยว่าผู้โดยสารเป็นใครบ้าง กระทั่งเพิ่งได้ยินข่าวเมื่อวันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้ไม่มีใครบอก และไม่ทราบว่าอยู่กับ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลตรัง เขาก็ไม่ได้บอกอะไร ไม่มีใครพูดเรื่องนี้กันเลย ตอนนี้ก็ไม่ทราบเลยว่าเขาเป็นใคร ตอนนั้นผู้โดยสารก็เยอะพอสมควร ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร บางคนก็คุ้นหน้าคุ้นตากันมาบ้างลงเครื่องมาแล้วก็มาทักทายกัน ปกติตนเดินทางบ่อยก็ระวัง เช่น ไม่จับมือกัน ซึ่งตนก็เริ่มทำแบบนี้มาตั้งแต่อยู่ในสภาแล้วตั้งแต่ต้นแล้ว แต่ว่าจะหยุดงานไม่ทำอะไรเลยก็ไม่ได้ ต้องทำเป็นปกติ แม้กระทั่งกิจกรรมบางอย่างหากยกเลิกตนก็ไม่ต้องทำ
“ส่วนงาน “เดิน วิ่ง เพื่อคนตรัง” เมื่อวานนี้ เราก็ไม่สามารถยกเลิกได้ เพราะเขาจัดเตรียมงานไปหมดแล้ว เอาเงินมาแล้วกว่า 2,340,000 บาท เขาก็ต้องทำ เราก็ต้องมา อย่างไรก็ตาม เราต้องเชื่อที่สาธารณสุขเขาเตือน ต้องระมัดระวัง เช่น เวลา ไอ จาม ต้องระมัดระวัง อย่าให้มีปัญหากับคนอื่น เราไม่ควรประมาท เดูจากตัวเลขการลุกลามจากต่างประเทศด้วย บ้านเรานี้ต้องยอมรับว่างานด้านสาธารณสุข แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ บุคลากรสาธารณสุข เก่ง เพราะฉะนั้นต้องฟังให้ดีไว้ก่อน คิดว่าวิธีมาตรการของเราอยู่ในเกณฑ์ที่ดี แต่พี่น้องประชาชนต้องระวัง ผมก็เหมือนกันเนื่องจากต้องสัมผัสกับคนทุกวัน มีคนเข้ามาที่บ้านบ้าง อยู่ที่กรุงเทพฯ ก็ต้องไปเป็นประธานงานศพ งานแต่งงาน อะไรต่างๆ รู้ว่าอยู่ในภาวะที่เสี่ยงแต่ถ้าจะให้ปฏิเสธคงยาก ก็ระมัดระวังอยู่” นายชวนกล่าว


นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ได้รับทราบเรื่องนี้จากโลกออนไลน์ ซึ่งเมื่อวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา ตนและนายชวน พร้อมคณะเดินทางโดยเครื่องบินไลออนแอร์ จากสนามบินดอนเมืองมายัง จ.ตรัง โดยท่านชวนมีภารกิจมาปฏิบัติราชการที่ จ.ตรัง โดยไม่ทราบมาก่อนว่ามีบุคคลที่กลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยงนั่งมาด้วย
“เพิ่งทราบหลังจากมีการแชร์ข้อมูลกัน จึงได้สอบถามข้อเท็จจริงและทราบว่า ผู้เดินทางมาจากเกาหลีทั้ง 2 ท่านไม่ได้มาจากสองเมืองที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 รวมทั้งในกฎหมายของเกาหลีทั้ง 2 ท่านถูกกักตัวที่เกาหลีมาแล้ว 19 วัน โดยไม่มีอาการป่วย หรือไข้ จึงได้เดินทางกลับประเทศไทย แต่ตามกฎหมายของประเทศไทย ผู้เดินทางมาจากประเทศเสี่ยง ต้องมีการกักตัวอีก 14 วัน ซึ่งทั้งสองท่านกำลังถูกกักตัวไว้เรียบร้อยแล้ว และได้รับรายงานมาว่าไม่มีอาการป่วยใดๆ ทั้งสิ้น นอกจากนี้ขณะที่เดินทางบนเครื่องบิน ทั้ง 2 ท่านนั่งบริเวณท้ายลำ ส่วนท่านชวนนั่งอยู่ส่วนหน้าของลำ คิดว่าท่านชวนทราบเรื่องนี้แล้ว
ต้องยอมรับว่าทุกคนที่เดินทางมาจากประเทศเสี่ยงไม่ได้หมายความว่าจะติดโรคทุกคน ในเมื่อมีการเดินทางก็ต้องมีภาวะเสี่ยงอยู่แล้ว แต่ต้องได้รับการปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น มาจากพื้นที่เสี่ยงก็ต้องกักตัว ก็รู้สึกชื่นชมเขาที่ปฏิบัติตัวอย่างดี หมอบอกว่าตอนนี้ไม่มีอาการป่วยใดๆ ส่วนท่านชวนไม่ได้มีการตรวจสุขภาพเนื่องจากไม่ได้สัมผัสอะไรกันเลย แต่หากมีไข้หรือมีอาการ ก็อาจต้องเข้ารับการตรวจตามขั้นตอนต่อไป เช่นเดียวกับทุกๆคนเมื่อมีไข้” นายสมบูรณ์กล่าว