เมื่อวันที่ 15 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจับกุมคนขับรถแท๊กซี่และชาวกัมพูชาได้ที่บริเวณจุดตรวจบ้านน้ำซับ ถนนสาย 359 ม.1 ต.สระขวัญ อ.เมือง จ.สระแก้ว จึงรายงานให้ พ.ต.อ.จิราวัฒน์ ศรีพัฒนสิทธิกร ผกก.สภ.เมืองสระแก้ว และ พ.ต.อ.กฤตพงศ์ โรจน์รุ่งศศิธร รอง ผกก.สส.รับทราบ โดย พ.ต.ท.สัก จินดาวงษ์ สว.สส.ฯ และตำรวจ สภ.เมืองสระแก้ว พร้อมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองที่ประจำจุดบ้านน้ำซับ ได้ร่วมกับจับกุม นายสุกรี หรือ กรี ภาโนมัย อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 462 หมู่ 6 ต.ท่าแร่ อ.เมือง จ.สกลนคร พร้อมรถยนต์เก๋งแท๊กซี่ ยี่ห้อโตโยต้า สีเขียว-เหลือง ทะเบียน มช-3929 กรุงเทพมหานคร ต้องการจะขับมุ่งหน้าไป อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พร้อมชาวกัมพชาอีก 2 คน คือ นายโซน รัตตานา และนายพลอย สัญชาติกัมพูชา มีเอกสารการเข้าเมืองไม่ถูกต้องและอีกรายไม่มีเอกสารการเข้ามาในราชอาณาจักรแต่อย่างใด
โดยนายสุกรี ยอมรับสารภาพว่า ขณะขับรถในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา พบชายชาวกัมพูชาสองคนโบกรถอยู่ข้างทาง จึงจอดรถสอบถามและชายทั้งสองได้ว่าจ้างตนให้ไปส่งเขตติดต่อประเทศกัมพูชาใน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ตนจึงขับขี่รถยนต์พาทั้งสองคนกำลังจะไปส่งที่ อ.อรัญประเทศ และถูกจับกุม
นอกจากนี้ เพจเฟสบุ๊กของ สภ.วังน้ำเย็น ได้เผยแพร่ผลการปฏิบัติงานว่า เมื่อกลางดึกเวลา 23.00 น.วันที่ 14 เมษายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังน้ำเย็น ได้รับแจ้งว่า มีกลุ่มวัยรุ่น 9 ราย มั่วสุมดื่มสุราเปิดเพลงเสียงดังบริเวณสันฝ่ายน้ำล้น หมู่14 ต.วังน้ำเย็น อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว
พ.ต.อ.นาวิน ธีระวิทย์ ผกก.สภ.วังน้ำเย็น จึงได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่สายตรวจประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเข้าร่วมตรวจสอบ เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงพบ กลุ่มวัยรุ่นมั่วสุมดื่มสุรา เปิดเพลงเสียงดังอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมายและ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานเข้าทำการจับกุม ส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 16.00 น.วันเดียวกัน พล.ต.ต.สุรจิต ชิงนวรรณ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 2 เดินทางลงพื้นที่ จ.สระแก้ว เพื่อตรวจเยี่ยมด่านตรวจและจุดคัดกรองในพื้นที่ ประกอบด้วย จุดตรวจร่วมด่านบ้านแก้ง ต.บ้านแก้ง และจุดตรวจร่วมด่านน้ำซับ ต.สระขวัญ อ.เมืองสระแก้ว โดย พล.ต.ต.สุรจิต เน้นย้ำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้ปฏิบัติงานว่า ขอให้ทำหน้าที่ตามข้อสั่งการและแนวทางปฏิบัติอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการคัดกรองการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ประจำจุด ให้ป้องกันตนเอง สวมหน้ากากและอย่าฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ตามนโยบายของรัฐบาลและผู้บังคับบัญชาอย่างเคร่งครัด. นายยุทธนาพึ่งน้อยผู้สื่อข่าวจังหวัดสระแก้ว
