เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 28 พฤษภาคม พล.ต.ต.จิรวัฒน์ พยุงธรรม ผบก.ภ.จ.ปัตตานี ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ปภาณ จันทร์กลับ รอง ผกก.สส.สภ.ปะนาเระ กับพวก พร้อมด้วย ตชด.444 ตำรวจ สภ.สายบุรี ทหารพราน 44 จำนวน 50 นายนำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านเป้าหมายในสวนยางพารา พื้นที่ ม.1 ต.แป้น อ.สายบุรี
หลังจากได้รับรายงานว่าพบบุคคลเป้าหมายในคดีความมั่นคงเข้ามาหลบซ่อนตัวภายในบ้านไม่มีเลขที่ นอกจากนี้ยังพบว่าเป็นพื้นที่มั่วสุมของเครือข่ายยาเสพติด
เมื่อเจ้าหน้าที่ยกกำลังไปถึงได้ทำการปิดล้อมบ้านหลังดังกล่าวทันทีซึ่งเป็นบ้านไม้ยกพื้นในสวนยาง โดยเจ้าหน้าที่เรียกให้บุคคลที่อยู่ในบ้านออกมาแสดงตัว แต่ปรากฏว่าไม่มีเสียงตอบ กระทั่งเวลาผ่านไปประมาณ 10 นาที คนร้ายที่อยู่ในบ้านได้พังผนังบ้านซึ่งเป็นสังกะสีแล้วกระโดดออกมาวิ่งหนี เจ้าหน้าที่จึงไล่ติดตาม คนร้ายจึงได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ 2 นัดก่อนจะเสียหลักล้ม และเป็นจังหวะที่เจ้าหน้าที่ตะครุบตัวจับตัวไว้ได้พร้อมอาวุธปืนของกลาง ขนาด .38 สอบสวนทราบชื่อผู้ต้องหาคือ นาย อายมาน กูโน อายุ 34 ปี ตรวจสอบพบมีหมายจับ ป.วิอาญา รวม 3 หมาย จึงควบคุมตัวไปสอบสวนขยายผลที่ศูนย์ซักถามหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 ต่อไป
ด้าน พล.ต.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค4 เปิดเผยว่า การปฏิบัติการครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้เข้าติดตามบุคคลเป้าหมายยาเสพติดในพื้นที่รอยต่อ อ.ปะนาเระ กับ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี โดยจุดเกิดเหตุเป็นบ้านร้างไม่มีเลขที่ตั้งอยู่ภายในสวนยางพารา ซึ่งมักจะมีกลุ่มวัยรุ่นเข้ามามั่วสุมเสพยากันเป็นประจำ ขณะเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้น คนร้ายซึ่งหลบซ่อนอยู่ภายในบ้านดังกล่าว ได้ใช้อาวุธยิงใส่เพื่อเปิดทางหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่ได้ติดตามจับกุมคนร้ายได้โดยที่ไม่มีฝ่ายใดสูญเสีย สำหรับนาย อายมาน กูโน อายุ 34 ปี พบประวัติมีหมายจับ ป.วิอาญา รวม 3 หมาย เกี่ยวข้องกับการก่อเหตุในช่วงปี 2560-2563 ด้วยการวางระเบิดเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 44 เสียชีวิต 4 นาย เมื่อวันที่ 22 ก.ย.60 ประกบยิงราษฎรไทยพุทธและเจ้าหน้าที่ อส.เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย โดยเจ้าหน้าที่ สามารถตรวจยึดอาวุธปืนพกขนาด.38 ได้จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุน 27 นัด,รถจักรยานยนต์ 1 คันและอุปกรณ์เสพยาเสพติดอีกจำนวนหนึ่ง ปัจจุบันอยู่ระหว่างเก็บรวบรวมหลักฐานเพื่อขยายผลต่อไป
สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้เป็นสิ่งยืนยันความสัมพันธ์ของกลุ่มคนร้ายและกลุ่มยาเสพติดในพื้นที่ทั้งทางตรงและทางอ้อมในลักษณะผลประโยชน์ที่เกื้อกูลซึ่งกันและกัน ซึ่งนอกจากเป็นพฤติกรรมที่ผิดกฎหมายแล้วยังมาซ้ำเติมสถานการณ์ในพื้นที่ให้รุนแรงยิ่งขึ้น ทั้งนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้ายังคงดำรงความมุ่งหมายในการบังคับใช้กฎหมายกับทุกอาชญากรที่ได้ก่ออาชญากรรมละเมิดกฎหมายและสร้างความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงโดยไม่สามารถละเว้นการปฏิบัติได้
